17 ก.พ. 2019 เวลา 02:09
เครื่องดื่มบนเครื่องบิน มีอะไร และผสมอะไรบ้าง?
มาสั่งเครื่องดื่มแบบ ชิคๆ คลูๆ กันดีกว่า เนื้อๆไม่เน้น เพราะมีแต่น้ำ 👀🍷🥂🍻
หลายคนอาจจะยังไม่รู้หรือสงสัยว่าเครื่องดื่มบนเครื่องบินที่จริงแล้วมีอะไร(ซ่อน)อยู่บ้าง นอกจากจะสั่ง น้ำเปล่า น้ำส้ม โค้ก โซดา.....วนไปวนมา เรายังมียังเมนูอื่นบริการท่านอีกหลายเมนู
สำหรับสายการบินที่ไม่ใช่โลวคอสต์ แต่เป็นแบบ บริการเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะ 4 หรือ 5 ดาว มักจะมีเครื่องดื่มมาตรฐานไม่แตกต่างกันมาก ต่างกันที่แบรนด์หรือยี่ห้อที่ใช้ และชื่อที่เรียก (ในที่นี้จะขออ้างอิงจาก สายการบินตะวันออกกลาง) โดยที่เราจะมีเครื่องดื่มเสิร์ฟท่าน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
●เครื่องดื่มแบบ Non-alcohol คือเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ หรือพวก Soft drink ทั้งหลาย อันได้แก่
เครื่องดื่มเย็น:
•น้ำเปล่า โค้ก สไปร์ท แฟนต้า โซดา จิงเจอร์เอล โทนิค
•น้ำผลไม้ ส้ม แอปเปิ้ล สัปปะรด มะเขือเทศ มะม่วงฯ(เฉพาะบางสายการบิน)
•และ Mocktail
เครื่องดื่มร้อน: กาแฟ/ชาดำ/ชาเขียว
1
●เครื่องดื่มแบบมีส่วนผสมของ Alcohol
แบ่งเป็น4 ชนิดคือ Cocktail Drinks/ Wine / Liqours/ Beer
สำหรับ Cocktail รู้จักแค่ชื่อคงไม่พอ เพราะ เครื่องดื่มค็อกเทล จะมีส่วนผสมมากกว่า1 ขึ้นไปเกือบทั้งสิ้น ดังนั้นสั่งไปแบบเบลอๆ อาจจะมึนได้ไม่รู้ตัว เพราะชื่อที่ฟังดูไม่น่าจะเมาได้ ก็เมากันแบบเนียนๆมาแล้ว ดังนั้นมารู้จักกันไว้ดีกว่าแก้ หากแพ้จะได้รู้ตัวกันดีกว่า
●เริ่มที่...Bloody Mary
แปลแบบตรงตัว คือเลือดแมรี่... ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นสีแดงแน่ๆ จากการเดานี้ คือ....ถูก เพราะส่วนผสมหลัก คือ
4
น้ำมะเขือเทศ ผสมกับ Vodka ใส่น้ำแข็ง ที่เสิร์ฟพร้อกับ พริกไทยกับเกลือ และ Tabasco ซึ่งปกติแล้ว ผู้โดยสารจะเป็นผู้ใส่เพิ่มเองหากต้องการ หรือจะไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความชอบ รสชาด คือน้ำมะเขือเทศแท้ๆ แต่เมาได้ หากใครไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้น้ำมะเขือเทศ โปรดผ่านเมนูนี้ไปเลยเด้อ แอร์ป้าขอเตือน
1
●Virgin Mary(Mocktail) แปลแบบตรงตัว คือเมรี่บริสุทธิ์ ดังนั้นหากเทียบกับเมนูเมื่อกี้ ก็แปลว่าได้ว่า เมรี่ที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง คือ น้ำมะเขือเทศ แบบไม่มีแอลกอฮอล์ผสมนั่นเอง! (ทฤษฎีไหนไม่รู้ แต่รู้ว่าจำได้ง่าย ไม่สับสน -"-)
1
●Sour แปลแบบตรงตัว คือรสเปรี้ยว ดังนั้นต้องมีมะนาวแน่นอน
ส่วนผสม คือน้ำมะนาว ผสม บรั่นดี หรือเหล้า เททับด้วยน้ำโซดา ใส่น้ำแข็ง..ซาบซ่าส์แบบเปรี้ยวกลมกล่อมแน่ๆ หากแอร์ฯที่ชงไม่จำผิดสูตรจนผิดสัดส่วน ^^
●Collins คือเครื่องดื่มเปรี้ยวซ่าส์ เช่นเดียวกันกับ Sour วิธีทำเหมือนกัน แต่เปลี่ยนจาก บรั่นดี และเหล้า มาเป็น Gin(เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง มีสีขาวใส)
●Gin tonic เครื่องดื่มขายดีตลอดการ ในทุกที่บนโลก
1
ส่วนผสมคือ Gin ผสมกับ Tonic ใส่น้ำแข็ง แค่นี้จริงๆ แต่ดื่มกริ๊บๆ เนียนๆ เพราะแอร์ป้า ชงจนหลับตาเทกันไปเลย คือดี..แต่อย่ามากไปนะแอร์ขอ เพราะเกิดดื่มเพลิน แต่ไม่รู้ลิมิตตัวเอง มางานเข้าบนไฟล์ท ทำอะไรไม่รู้ตัวขึ้นมา ไม่สนุกแน่ๆเด้อออ..
●Screwdriver ส้มเสี้ยวเปรี้ยวซ่าส์ เกือบจะเป็นน้ำนางเอก แต่ยังก่อน!
ส่วนผสม คือ น้ำส้ม ผสม Vodka ใส่น้ำแข็ง
1
●Shandy เครื่องดื่มที่ทำยากกก เพียงเพราะฟองเยอะไปจนล้นแก้ว..
ส่วนผสม เบียร์เย็นๆ สักเกือบเต็ม เททับด้วย สไปร์ท
ไปเมืองหนาวเมื่อไหร่ ทำเองได้เลย ชิลแน่นอน
1
●Spritzer ไวน์แบบซ่าส์ แปลกดีที่ต้องลอง
ส่วนผสม เทไวน์ขาวแบบเย็นๆ สักครึ่งแก้ว ตามด้วย น้ำโซดา...ทำเองง่ายๆได้ที่บ้าน
1
●Brandy Dry เมนูที่เจอบ้างประปราย สำหรับคนคอบรั่นดีคงรู้จักดี
ส่วนผสม บรั่นดี ผสมกับ จิงเจอร์เอล ใส่น้ำแข็ง
●Buck Fizz เมนูที่ใช้วิตถุดิบเปิดยาก หากใครสั่งแอร์ป้าต้องขอเวลาเข้าครัวนานนน โปรดเข้าใจ เพราะต้องแอบไปเปิดแชมเปญ ไม่ให้พุ่งกระกายกลางเครื่อง จนนึกว่ามีงานฉลองมาเอง
(ไม่ใช่ทุกสายการบินที่มีเสิร์ฟแชมเปญ และหากมีอาจมีบริการอยู่ในชั้นBusiness หรือ First class)
ส่วนผสม น้ำส้มครึ่งแก้ว ตามด้วย แชมเปญ
●Whiskey coke เมนูที่คุ้นเคยของหลายๆคน ง่ายๆ ไม่ยาก แต่มากด้วยแอลกอฮอล์
ส่วนผสม เหล้า ผสม โค้ก และใส่น้ำแข็ง
มาต่อกันที่เรื่อง Wine🍷
Wine มี 2 ประเภท หลักๆที่ใช้ เสิร์ฟบนเครื่องบิน คือ ไวน์แดง และไวน์ขาว
การดื่มไวน์ มีหลักการดื่มง่ายๆสั้นๆเพื่อเพิ่มอรรถรส ดังนี้
●ไวน์แดง ผลิตจากองุ่นพันธุ์สีแดง มักจะดื่มคู่กับอาหาร ประเภท เนื้อสีแดง เช่นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ ฯ
https://www.google.com/search?q=red+wine&tbm=isch&source=android-browser&client=ms-android-samsung-gn-rev1&fir=xo6JSDvfFiFjOM%253A%252CUzoVp533HU3HJM%252C%252Fm%252F02wsb20%253B3bTUgq_IKOSPGM%253A%252CJ1jW25MZ38a8XM%252C_%253BQKJnuaTu_819OM%253A%252C
●ไวน์ขาว ผลิตจากองุ่นพันธุ์สีขาว มักจะดื่มคู่กับอาหาร ประเภทเนื้อสีขาว เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ฯ และ ต้องดื่มแบบเย็นเสมอ
1
https://www.google.com/search?q=white+wine&client=ms-android-samsung-gn-rev1&source=android-browser&prmd=ivsn&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwj81p7528DgAhUJbysKHdI_BpEQ_AUoAXoECAwQAQ&biw=412&bih=670&dpr=2.63#imgrc=ptSxCi70JhEeOM
ดังนั้นยกตัวอย่าง หากวันนี้แอร์ถาม ผู้โดยสารรับอาหารอะไรดีคะ วันนี้มีเมนูสเต็กเนื้อ กับ ข้าวปลาย่าง หากคุณเลือกสเต็กเนื้อ ก็ขอดื่มไวน์แดงโลด เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานอาหาร ไม่เชื่อต้องลอง👀
ทั้งนี้ขึ้นอยู่ชนิดและที่มาของไวน์แต่ละประเทศ ก็จะมีวิธีการดื่มที่ควรจะกินคู่กับอาหารชนิดไหนที่เพิ่มเติมจากนี้ ก็จะแตกต่างกันออกไป
Liqours = สุรา
ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน แต่หลักๆแล้วจะมีอยู่ 4 ประเภทดังนี้ (เป็นส่วนผสมหลักในการทำ Cocktail อีกด้วย)
1
●Scotch whiskey หรือเหล้าที่เรารู้จักกันดีในนาม Johny walker
Red label
●Vodka แอลกอฮอล์สีขาวใส แต่ไม่ซื่อ ที่มีนามว่า Smirnoff Red
https://www.google.com/search?q=vodka&client=ms-android-samsung-gn-rev1&source=android-browser&prmd=ivmn&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwi-mZDU3cDgAhXQfn0KHWQNCvEQ_AUoAXoECAwQAQ&biw=412&bih=670&dpr=2.63#imgrc=83M5ju7f9FfRdM
●Gin แอลกอฮอล์สีขาวใส เช่นกัน ที่รู้จักกันดีในนาม Beefeater
https://www.google.com/search?ie=UTF-8&client=ms-android-samsung-gn-rev1&source=android-browser&q=gin+beefeater#imgrc=gGtX8nEq9CpTmM:
●Brandy หรือบรั่นดี ที่นิยมดื่มหลังอาหาร เพราะจะมีความสามรถพิเศษในการช่วยย่อยอาหารดีมาก และที่รู้จักกันดี คือหนึ่งในแบรด์ Janneau
1
Beer มาเป็นกระป๋อง แต่จะต่างกันที่แบรนด์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสายการบินและจุดหมายปลายทางนั้นๆด้วย
https://www.google.com/search?q=beer+heineken+can&tbm=isch&ved=2ahUKEwjHhoW1rsHgAhVN13MBHWhmB88Q2-cCegQIABAB&oq=beer+heinekencan&gs_l=mobile-gws-wiz-img.1.0.0i19j0i8i7i30i19l4.64904.66890..68591...0.0..0.140.716.6j2......0....1.........35i304i39j0i7i
เพิ่มเติมในสายการบินไทย มีเสิร์ฟ Rum คือเครื่องดื่มที่ทำมาจากกากน้ำตาล
1
https://www.google.com/search?q=rum&client=ms-android-samsung-gn-rev1&source=android-browser&prmd=imvn&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwj4mvO0sMHgAhXOinAKHQCXCM8Q_AUoAXoECAwQAQ&biw=412&bih=670&dpr=2.63#imgrc=5kcN2NOTW31icM
🚫คำเตือน ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ต้องมีอายุ 18+ เท่านั้น หากใครหน้าเด็ก รีบยืดอกและโชว์บัตร ยื่นหมูยื่นแมวกันก่อน
🚩คำแนะนำ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิดไม่ควรดื่มตอนท้องว่าง และควรดื่มคู่กับอาหารว่าง หรือ ไวน์ทานคู่กับอาหารมื้อหลัก และบรั่นดี ดื่มหลังทานอาหาร
🚩การดื่มแอลกอฮล์ ควรดื่มอย่างพอประมาณ เพราะจะเป็นประโยชน์ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร หรือเพื่อความบันเทิง และการเข้าสังคม หากดื่มมากไปอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อร่างก่ายทั้งตัวเองและ อันตรายต่อคนรอบข้างได้!!
รู้แบบนี้แล้ว คราวหน้าขึ้นเครื่องบิน อย่าลืมขอเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มงานให้แอร์ฯป้าๆ.....อุ้ย ไม่ใช่ เพิ่มประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเองดีกว่า แต่อย่าแกล้งแอร์ ขอเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์จนมากไป ทุกที่ทุกเวลาไม่ได้เด้ออ เพราะกฎมีอยู่ว่า ห้ามเปิดแอลกอฮอล์ตอนที่เครื่องบินยังจอดอยู่บนพื้นดิน และทุกสายการบิน ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อสัญญาณรัดเข็มขัดติดขึ้น เราจะหยุดเสิร์ฟทันที เพราะนั่นหมายถึง สัญญาณให้ทุกคนนั่งประจำที่ หรือแม้แต่ในภาวะฉุกเฉิน อากาศแปรปรวนก็เช่นกัน
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นความรู้พื้นฐาน มาตรฐานของทั่วโลก ดังนั้นนอกจากสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกร็ดความรู้บนเครื่องบิน แต่มากกว่านั้น บนพื้นดินเช่นกัน หากท่านไปออกเดท ไปดินเนอร์ หรือไปร้านอาหารที่ไหนๆ สั่งให้ถูก ถามให้เป็น รับรองไม่มีโป๊ะแตกแน่นอน
ป.ล. ที่กล่าวมาทั้งหมดของประเภทเครื่องดื่ม ไม่สามารถบอกได้ว่าทุกสายการบินจะมีเหมือนกันทั้งหมดหรือไม่ อาจต่างกันที่แบรนด์ที่เลือกใช้ และส่วนผสม แต่หากเป็นสายการบิน 5 ดาว สายแขก สีBurgundy ต้องมีแน่นอน ดังนั้น เพื่อความมั่นใจ ท่านสามารถขอเมนูบนเครื่องบิน เพื่อดูอีกทีว่าที่นี่เค้าเสิร์ฟอะไร มีวัตถุดิบและส่วนผสมอะไร จะได้สั่งได้ถูกทางเด้อออ ^^
Enjoy your drink and have a safe flight✈
#แอร์ป้าห้าดาว
โฆษณา