21 ก.พ. 2019 เวลา 12:35 • ปรัชญา
#ศิลปะแห่งการปล่อยวาง
เวลาคนเรามีเป้าหมายอะไรในชีวิต
เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะมันทำให้ชีวิตมีทิศทาง
.
แต่หลายครั้งมันก็มากับความทุกข์ด้วย
เพราะเป้าหมาย มาพร้อม ความคาดหวัง
เมื่อผิดหวัง เราก็เป็นทุกข์
.
บางคนว่า
ชีวิตปล่อยๆวางๆซะบ้าง
อย่าไปคาดหวังอะไรมาก จะได้ไม่ทุกข์
.
คำถามคือ
ถ้าเราปล่อยวาง มีชีวิตแบบไม่คาดหวัง
เราจะเป็นสุขได้จริงๆหรือ ?
ก่อนจะตอบคำถามตรงนี้
เรามาลองทำความเข้าใจ ธรรมชาติของจิตใจกันก่อนฮะ
ธรรมชาติของจิต มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนๆกัน ทุกคน คือ
อยากให้ทุกอย่าง "เป็นดั่งใจคิด"
เพื่อที่จะได้ตอบสนองสิ่งสูงสุด สิ่งหนึ่งในชีวิตหนึ่ง
นั่นคือ "ความรู้สึก"
ตรงนี้สำคัญมาก ===》ความรู้สึก 《===
พ่อแม่ที่อยากให้ลูกน้อย ไม่ดื้อไม่ซน
เพราะอยากให้ลูกปลอดภัย ก็เพื่อจะได้
ได้ความรู้สึก สบายใจ คลายกังวลต่ออันตรายของลูก
คนที่อยากบรรลุเป้าหมายทางการเงิน
เพราะอยากประสบความสำเร็จ
ก็เพื่ออยากได้ ความรู้สึก อะไรบางอย่าง เช่น
ได้ความรู้สึกโล่งใจ คลายความกดดัน เพราะได้ปลดหนี้
ได้ความรู้สึกปลอดภัย เพราะมีเงินเก็บ
ได้ความรู้สึก ได้รับการยอมรับจากสังคม เชิดหน้าชูตา มีฐานะ ภูมิใจในตัวเอง
ได้ความรู้สึก สะใจ เป็นผู้ชนะ
ได้ความรู้สึก อิสระ ควบคุมชีวิตตัวเองได้
เป็นต้น
ขอสรุปตรงนี้สั้นๆ เป็นประโยคเดียว คือ
==》 ทุกๆคน อยากบรรลุเป้าหมายก็เพื่อ "ความรู้สึก" นั่นเอง 《==
. . . ความรู้สึก . . .
. . . ความรู้สึก . . .
. . . ความรู้สึก . . .
แต่ธรรมชาติก็ช่างใจร้ายกับ…เราเหลือเกิน
เพราะ "ความรู้สึก" เป็นสิ่งที่อยู่ไม่นาน
เมื่อเวลาผ่านพ้นกาล…มันก็จากไป
ลองสังเกตดูดีๆ อะไรที่เราอยากได้
ไม่ว่าจะ สิ่งของ เงินทอง คำชม ตำแหน่งการงาน
พอได้มาจริงๆ เราจะรู้สึกดีกับมัน..อยู่พักหนึ่ง
ความรู้สึกดีๆเหล่านั้นจะค่อยๆ ลดระดับลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ
สิ่งเดิมๆ จึงไม่สามารถตอบสนองความรู้สึกได้เหมือนเดิม
เราจึงรู้สึกขาด อยากหาอะไรมาเติมเต็มความรู้สึก แบบที่เคยได้อีก
ก็เลยต้องคอยหาสิ่งใหม่ๆ มาตอบสนองความรู้สึกตรงนี้
บางคนเคยได้แล้วไม่ได้ ก็หงุดหงิดอีก เป็นทุกข์อีก
จึงเป็นที่มาว่า "กิเลสของมนุษย์ ไม่เคยมีที่สิ้นสุด"
ซึ่งมาจาก ความรู้สึก ที่ไม่เคยพอ นั่นเอง
กลับมาที่คำถาม ข้างต้น
ถ้าการอยากได้ การมีเป้าหมาย
เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ละก็…
งั้นเราก็ปล่อยวางทุกสิ่ง ทุกอย่าง แบบไม่คาดหวังอะไรในชีวิตเลย
จะดีมั้ย . . .?
อันนี้ ผมว่า ชีวิตมันจะ ลา ลา ลอย ไปซักหน่อย ว่ามั้ย
การใช้ชีวิตและอยู่แบบไม่มีความหวังอะไร ก็ไม่น่าจะดี
แล้วแบบไหนหล่ะถึงจะดี …!?
สำหรับผม การปล่อยวางที่ดี…คือ
ปล่อยที่ "ความรู้สึก" แต่ไม่ปล่อย "ความคิด"
"ความรู้สึก" คือ
สิ่งที่อยากให้มันเป็นดั่งใจนึก
ไม่ได้ให้ต่อต้านความรู้สึกนะ มันก็มีส่วนดี
1
เพียงแต่ไม่ให้ "ยึดติด" กับมันเท่านั้น เพราะ
1.เรารู้แล้วว่า ความรู้สึกอยู่ได้ไม่นาน เดี๋ยวมันก็จากเราไปละ
2.การอยากให้เป็นดั่งใจ เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
ถ้าเรายึดว่าต้องเป็นแบบนี้ๆสิ แล้วเกิดมันไม่เป็นหล่ะ ก็หงุดหงิดเป็นทุกข์อีก
ส่วน "ความคิด" นี่สำคัญ !
เป็นสิ่งที่ปล่อยไม่ได้
ไม่งั้นสิ่งต่างๆจะยิ่งแย่ลง
การปลูกต้นแอปเปิ้ล
เราต้องปล่อย "ความรู้สึก"
ที่อยากให้มันออกผลให้เราเยอะๆ
ออกมาสวยๆทุกลูก ลูกใหญ่ๆทุกลูก
ผลลัพธ์แบบนี้เราไม่รู้หรอก ว่าจะเกิดจริงมั้ย ไม่ควรยึดติด
แต่เราต้องไม่ปล่อยที่ "ความคิด" คือ
คิดว่า จะปลูกยังไงดี ใช้ดินแบบไหนดี รดน้ำยังไงดี ดูแลมันยังไง
นี่คือสิ่งที่เรา ควบคุมได้ (ถ้าปล่อยวาง ความคิด ต้นแอปเปิ้ลก็คงตาย จริงมั้ย)
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน
เราใช้ชีวิตแบบ "มีความคาดหวัง" ได้
โดยไม่ยึดติดกับ ความรู้สึก ว่าทุกอย่างต้องเป็นดั่งใจ
แต่ต้องใช้ความคิด ใช้ปัญญา นำทางเราไปสู่ผลสำเร็จ
ศิลปะแห่งการปล่อยวาง
จึงคือ การ "ปล่อย" สิ่งที่ควบคุมไม่ได้
และ "คิด" หาหนทาง ทำในสิ่งที่ควบคุมได้
1
ซึ่งก็คือ…ปล่อยวาง"ความรู้สึก" แต่ไม่ปล่อยวาง "ความคิด" นั่นเอง
อาเหลียง :)
อาเหลียง :)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา