6 มี.ค. 2019 เวลา 13:34 • ปรัชญา
"อัตตา" มีทำไม...?
เกิดขึ้นมายังไง...?
"จริงๆแล้ว...ทุกสรรพสิ่งบนโลก เป็นสิ่งๆเดียวกัน"
ถ้ามีคนยื่น "ดอกไม้" มาให้ แน่นอนว่าใครๆก็ชอบ
แต่ถ้ามีคนยื่น "ขยะ" มาให้หล่ะ ..!?
คงจะไม่มีใครพอใจซักเท่าไหร่...ใช่ม่ะ
แต่ทว่า ขยะ กับ ดอกไม้ คือ "สิ่งๆเดียวกัน!! "
ลองค่อยๆจินตนการดูว่า
ดอกไม้สวยงามที่ประดับอยู่บนต้นไม้นั้น
เมื่อ ตงลงพื้น ก็กลายเป็นขยะดีๆ นี่เอง
เมื่อเวลาผ่านไป
คนกวาดลานวัด ก็ต้องกวาดดอกไม้ ใบไม้ ที่ร่วงโรย
ทิ้งลงถังขยะ
.
….. สูงสุดคืนสู่สามัญ …..
.
มนุษย์ก็เช่นกัน
ร่างกายประกอบด้วยธาตุหลักๆ C H O N
(คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน)
เมื่อเราตาย ร่างถูกเผา ปล่อยคืนสู่สายน้ำ
สิ่งที่เคยเรียกว่าร่างกายของเรา
จะค่อยๆกระจายตัว ธาตุต่างๆ จะไปจับตัวกับธาตุตัวใหม่
เกิดเป็นสิ่งใหม่ ทีมีชื่อเรียกใหม่
เช่น ไฮโดรเจน 2 ตัว จับกับ ออกซิเจน 1 ตัว
เกิดเป็น H2O ซึ่งก็คือ น้ำ นี่เอง
C + O2 จับกัน เกิดเป็น CO2 คาร์บอนไดออกไซด์
เห็นมั้ยที่เคยเป็นร่างกายเรา เปลี่ยนกลายเป็นน้ำ ก๊าซในอากาศ
สัตว์ๆใดๆที่่ผ่านมา ได้กินน้ำ สูดอากาศ
ธาตุที่เคยเป็นของเรา ก็ไปรวมอยู่ในตัว อีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งแล้ว
ตรงนี้เลยสรุปได้ว่า
.
----- ทุกสรรพสิ่ง คือสิ่งๆเดียวกัน -----
.
แล้วทำไม ทุกวันนี้ เราถึงแยกสิ่งต่างๆออกจากกันหล่ะ ?
"มันคือการกระบวน
เพื่อความอยู่รอด "
ที่ธรรมชาติ สร้างให้มนุษย์
มีความสามาถ แยก สิ่งต่างๆออกจากกันได้
เพราะถ้าไม่แยก คนจะใช้ชีวิตมั่วซั่วไปหมด
ผลก็คือ "ตาย"
เพราะแยกไม่ออกว่า อันไหนน้ำ ไหนดิน ไหนหญ้า ไหนสัตว์ร้าย
ไหนของแข็ง ของเหลว ไหนผลไม้ ไหนกินได้ อันไหนกินไม่ได้
ซึ่งกระบวนการนี้ จริงๆ มันก็คือ "อัตตา" นั่นแหละ
ความหมายของอัตตา
คือ การแยก ตัวเรา ออกจากสรรพสิ่งอื่นๆ
ถ้าอธิบายถึงตรงนี้ ก็ดูจะมีประโยชน์ดี
เพราะมันช่วยให้เรา อยู่รอดได้
แต่ทว่า พอเผ่าพันธุ์มนุษย์ พัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ
ชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่อยู่รอดไปวันๆ เหมือนยุคก่อนอีกแล้ว
.
----- ยุคปฏิวัติทางการเกษตร -----
.
คือ "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ของมวลมนุษยชาติ
จุดที่ "อัตตา" ของมนุษย์ ใหญ่ขึ้นๆ จนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
หลังจากที่มนุษย์รู้จักการใช้ไฟ และ ทำอาวุธเป็นแล้ว
ก็สามารถเอาชนะสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่าได้ทุกตัวบนโลกนี้
โครงสร้างหน้าตาเริ่มเปลี่ยนไป
เพราะเคี้ยวอาหารน้อยลง กินของสุกมากขึ้น ส่งผลให้กรามเล็กลง
แต่ยังคงอยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง
พอแหล่งอาหารเดิมหมด ก็เดินทางออกหาแหล่งอาหารใหม่ๆ
นั่นคือ "ยุคการปฏิวัติทางความคิด"
ต่อมา มนุษย์เริ่มรู้วิธี เพราะปลูก เลี้ยงสัตว์
นั่นคือจุดเริ่มต้นของ ยุคการปฏิวัติทางการเกษตร
วิถีชีวิตมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
คราวนี้มนุษย์เริ่มใช้ชีวิต เป็นหลักเป็นแหล่ง อยู่กับที่ เดินทางน้อยลง
ต้องคอยดูแลไร่นา พืชพันธ์ที่เพาะปลูก
ดูแลให้อาหารสัตว์ เลี้ยงให้โต เพื่อจะมาเป็นอาหารของมนุษย์อีกที
ตรงนี้แหละ..ที่ทำให้
.
----- อัตตาเริ่มขยายใหญ่ -----
.
ก่อนหน้านั้น . . .
พื้นที่ราบก็คือ พื้นที่ราบ
สัตว์ก็คือสัตว์ น้ำก็คือน้ำ ไม่มีของใคร
ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
ไม่มีหลักมีแหล่ง ที่ดินของใครทั้งนั้น
เพราะเราก็ต้องเดินทาง หาแหล่งใหม่ไปเรื่อยๆ
แต่พอเป็นยุคการเกษตร
คนไม่ต้องเดินทางหาแหล่งอาหารใหม่ๆแล้ว
เราผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง
คนเริ่มขีดพื้นที่ตัวเอง
นี่คือ ไร่นา ของฉัน
นี่คือ คอกสัตว์เลี้ยงของฉัน
นี่คือ บ้านของฉัน
นี่คือ ที่ดินของฉัน
นั่นไง…เมื่อก่อนยังมีแค่ "ตัวฉัน" ไม่กี่อย่าง
แต่ดูตอนนี้สิ "…ของฉัน" เต็มไปหมด !!
ต่อจากนั้น เมื่อคนไม่เดินทางไปไหนแล้ว
ก็เริ่ม มีการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน
แลกไปแลกมา
บางทีก็ไม่ยุติธรรม
ฉันอยากได้ ไก่ของนาย เลยเอาหมูมาแลก
ฉันอยากได้รองเท้าที่เทอทำ เลยเอาไก่มาแลก
ไม่เอาฉันไม่อยากได้ไก่ ไม่มีเป็ดเหรอ
แล้วต้องใช้ไก่กี่ตัว เพื่อแลกหมู 1 ตัวดีหล่ะ
เกิดความวุ่นวาย แลกเปลี่ยนกันไม่ลงตัว
จึงเกิดเป็น "เงินตรา" เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน
.
----- อัตตา Level Up 4.0 -----
.
หลังจาก มีการมีงานทำ มีเงิน
การแบ่งแยก Up level ละเอียดขึ้นไปอีก
มีรวย มีจน เจ้านาย ลูกน้อง มีฐานะเกิดขึ้น
อัตตาจึงไม่ได้อยู่แค่ สิ่งที่ตามองเห็น เท่านั้น
มันแฝงใน สิ่งที่มองไม่เห็นด้วย
ชื่อเสียง เกียรติยศ ตำแหน่ง
บุคลิก ความเก่ง ความฉลาด
การต้องการเป็นที่ยอมรับจากคนอื่น
อัตตามาไกลมากกกกก
….จากแค่กระบวนการเพื่อความอยู่รอด
มาสู่ …!@#$!$@#%@#$@%
.
.
..อะไรไม่รู้เต็มไปหมด
ซึ่งจริงๆแล้ว ทั้งหมดทั้งมวย
ก็แค่ภาพลวงตาเท่านั้น
ถ้าไม่เชื่อ . . .
.
----- ลองเล่นเกมดูก็ได้ -----
.
สังเกตดู ไหน….ในชีวิตอะไรที่เป็นของเราจริงๆบ้าง
"ชื่อนี้"….เป็นของเราจริงๆเหรอ … ?
ถ้ามันสามารถเปลี่ยนได้ง่ายๆ เมื่อไหร่ก็ได้
"ร่างกาย หน้าตานี้" …เป็นของเราจริงๆเหรอ… ?
เซลล์เกิดและตายตลอดเวลา
หน้าตา เปลี่ยนไปตามอายุไข ผิวหนังหย่อนยาน
สุดท้ายก็ก็คืนธรรมชาติ
ที่เคยเป็นร่างกาย ก็แปลงไปเป็นสิ่งอื่น
อากาศ น้ำตาล เกลือ หิวปูน
.
บุคลิกนี้…เป็นของเราจริงๆเหรอ
บุคลิกตอนเด็ก กับตอนนี้ เราเหมือนเดิมหรือเปล่า ?
เวลาอยู่กับเพื่อน อยู่กับผู้ใหญ่ บุคลิกเหมือนเดิมตลอดหรือเปล่า ?
อารมณ์ ความคิด เป็นของเราจริงเหรอ … ?
ความโกรธ ความโมโห มันเป็นของเราจริงเหรอ
ความดีใจ มันเป็นของเราจริงเหรอ
ความภูมิใจนี้ เป็นของเราจริงๆเหรอ
ถ้าความรู้สึกภูมิใจมันเป็นของเราจริงๆแล้ว
…ทำไม มือถือ ออกรุ่นใหม่ รถออกใหม่ ทีไร
เราจึงอยากได้มัน เพื่อมาเติมความภูมิใจของเราอีก
ตงลงทุกสิ่งนี่มันเป็นของเรา
หรือเป็นเราเองหรือเปล่า…ที่ยึดว่าเป็นของตัวเอง .. !?
.
----- สรุป -----
.
ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ใช่เพื่อให้ "ละทิ้ง"
แต่ให้ "เข้าใจ" (อัตตา)
เมื่อเข้าใจ เราจะค่อยๆยึดติดมันน้อยลงๆ
และพอยึดติดน้อยลง
เราจะทุกข์ได้ยากขึ้น
สุขได้ง่ายขึ้น
จิตใจจะสงบ…ไม่ดิ้นรน
เราจะไม่ลืมตาขึ้นมา เพื่อใช้…ทั้งชีวิตนี้
1.ตามแย่งชิงสิ่งต่างๆ มาเป็นของตัวเองมากเกินไป
2.คอยกังวลเปรียบเทียบ ของฉัน ของเทอ ใครมีมากกว่ากัน
3.คอยสังเกต นั่นเทอมี แล้วฉันมี "ของฉัน" หรือยัง
.
..
… ก้าวเดินไปข้างหน้าบนโลกด้วยความสุขและสงบใจ มิใช่แย่งชิง …
อาเหลียง
ปล.
1.สิ่งที่เขียน มาจากการสรุปตามความเข้าใจของผมเอง
อาจจะไม่ถูกก็ได้ ใครมีความเห็นยังไง แชร์แลกเปลี่ยนกันได้น้า
2.วันนี้บทความค่อนข้างยาว ไม่รู้มีคนอ่านจบบ้างมั้ย
ยังไงบอกผมหน่อยฮะ อยากรู้ว่าคนในเพจนี้
ชอบอ่านอะไรยาวๆหรือเปล่า ^^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา