3 มี.ค. 2019 เวลา 02:00 • ไลฟ์สไตล์
อย่านินทาใครเมื่อเราไปต่างแดน 🤫🤭
เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนๆเรามักจะอดเม้าส์มอย สิ่งต่างๆที่เราได้เจอได้เห็นกับเพื่อนเราไม่ได้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ เพราะเรื่องนินทาเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราห้ามกันยาก
Photography by J.Mahaudomchab
แต่เราก็ควรนินทาอย่างมีมารยาท ไม่ควรนินทาต่อหน้าให้คนได้ยินถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในต่างประเทศก็เถอะ
เราอาจจะคิดว่าพูดอะไรก็พูดไปเถอะไม่มีใครฟังออกหรอก
แต่ก็ไม่เสมอไปนะ เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนนั้นดูหน้าตาฝรั่งต่างชาติมากแต่เขาอาจจะมีความรู้ภาษาไทยและฟังออกก็ได้
เหตุการณ์แรกเป็นเหตุการณ์ที่เรากับเพื่อนนินทาฝรั่งค่ะ
เป็นครั้งแรกที่เราได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ
เราไปซื้อ One day trip แบบแชร์ group ทัวร์กับฝรั่งค่ะ
จะมีรถมารับถึงที่พัก โดยคู่เราเป็นคนแรก ต่อมาเป็นต่างชาติผู้หญิง 2 คน ต่อมาเป็นผู้หญิงคนเดียวคนออสเตรเลียแต่หน้าจีนมาก ระหว่างรอคู่สุดท้าย พวกเราก็มีทักทายกันเล็กๆน้อยๆ
จากคนต่างชาติคู่ที่2 ก็คุยกันเป็นภาษาชาติเขาซึ่งเราฟังไม่ออก
เราก็ไม่สนใจ เราก็คุยกันภาษาบ้านเรากับเพื่อน คุยไปคุยมา
เราพูดกับเพื่อนว่า “อยู่ต่างประเทศนี่ดีเนอะเราจะพูดอะไรก็ได้ไม่มีใครฟังออก”
เพื่อนเราพูดต่อว่า “อ้อ เหมือนในหนังที่เราด่าใครว่า อีเหีย ก็ได้ใช่ป่ะ 555”
เราก็หัวเราะตามเพื่อนอย่างสนุกสนานค่ะ
แล้วคู่สุดท้ายก็เปิดประตูขึ้นรถมา เราก็ไม่สนใจคุยนั่นนี่กันต่อไป คู่สุดท้ายนี้พอเขาได้ยินเราคุยกันเป็นภาษาไทย ก็เลยชวนเราคุยภาษาไทยด้วยจ้า พูดไทยชัดมากๆ
เราก็อึ้งไป คุยไปคุยมาก็รู้ว่า เขาเป็นคนอเมริกา มาทำงานที่ ปตท ประเทศ 10 ปีแล้ว และอีกคนเป็นผู้ติดตาม เป็นคนลาว เขาก็พูดไทยได้
พบลงรถแยกย้ายกันไปเดินเที่ยว เพื่อนรีบสะกิดเรา แกๆดีนะที่ตอนเขาขึ้นรถมาได้ยินเราคุยเรื่องทั่วไปไป ไม่ได้ยินตอนที่เราพูดว่า “อีเหี้ย” อ่ะ 😅
เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าเราไม่ควรพูดว่าใครด้วยคำพูดที่ไม่ดี หรือนินทาใครแบบโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ แม้เราจะอยู่ต่างประเทศก็ตาม
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่สาธารณะ ประเทศสิงคโปร์ค่ะ เราถูกแก๊งคนไทยพูดถึงเราด้วยคำพูดที่ฟังดูแล้วไม่น่ารักเท่าไหร่เลยค่ะ
ด้วยความที่หน้าตาเราออกจีนเป็นหมวยเลยค่ะ เวลาอยู่ต่างประเทศทุกคนจะคิดว่าเราเป็น Chinese
แม้กระทั่งอยู่ในประเทศไทยเองก็ตามเราก็มักจะถูกคนจีนพูดคุยด้วยเป็นภาษาจีนเสมอค่ะ
ระหว่างทางเรากำลังชูมือถือยืนถ่ายรูปในสวนสาธารณะอยู่ ก็มีแก๊งคนไทยเดินมาทางเรา เขาตะโกนคุยกันเสียงดังจนเราได้ยิน
เบอร์1: เฮ้ยๆ มึง ดูอีนั่นสิ ทำไมมันใช้เคสเหมือนกูเลยวะ
เบอร์2: เออว่ะ ลายเดียวกับมึงเดะเลย มันซื้อมาจากบ้านเราหรือเปล่า 555
เบอร์1: เออว่ะ ไม่ใช่มันเป็นคนไทยนะ ฟังเรารู้เรื่องนะ
เบอร์2: ถ้าเป็นคนไทยก็มันก็ได้ยินที่เราพูดหมดไง 555
เบอร์2: กูว่ามันไม่ใช่คนไทยหรอก
(เราขออภัยที่มีเขียนคำหยาบคายด้วยนะคะ)
คือเราเป็นคนไทยค่ะ ฟังออกทุกคำเลย ได้ยินชัดแจ่มด้วย แต่ทำเป็นไม่สนใจค่ะ ปล่อยผ่านไปคิดเสียว่าเสียงนกเสียงกา
พอเราถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินไปหาเพื่อน แล้วบังเอิญไปเจอแก๊งเดิมถ่ายรูปอยู่แถวนั้นพอดี
เราก็ถ่ายรูปของเราต่อโดยไม่พูดอะไร
แก๊งนั้นมาเห็นเราเขาก็คุยกันต่อว่า
เบอร์1: มึงๆดูสิคนนี่ไงที่เคสเหมือนกูอ่ะ
เบอร์2: มันเดินตามเรามาเปล่าวะ 555
พอเราถ่ายรูปเสร็จ เราเห็นเพื่อนเรายืนรอเราอยู่ใกล้ๆกับแก๊งนั้นพอดี
คราวนี้เราเลยขอพูดบ้าง เราเดินทางหาเพื่อน
เรา: หิวแล้วอ่ะ เราไปหาอะไรกินกันเถอะ
เพื่อน: ไปสิ หิวเหมือนกัน กินกันอะไรดีล่ะ
เรา: ตรงนั้นมี food court เราไปเดินดูกัน
พอเราพูดจบก็หันไปมองแก๊งนั้น ทุกคนหลบตาเราหมดเลย ทำหน้าเจื่อนๆ
เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำว่า เราไม่ควรพูดจาไม่ดีหรือนินทาใครในที่สาธารณะเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ต่างประเทศก็ตามเถอะ
เราคิดว่ามีหลายคนเคยเจอและเคยทำเหตุการณ์แบบเรามาก่อน คงจะรู้และเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนคนที่ไม่เคยทำแบบนี้เลย นั่นคือสิ่งที่ดีมากค่ะ และขอแนะนำว่าอย่าทำเลยจะดีที่สุดค่ะ เพราะเวลาหน้าแหกมันเจ็บค่ะ 😅
ดังสุภาษิตที่ว่า “วาจาส่อภาษากิริยาส่อสกุล” ค่ะ
ฝึกเป็นคนพูดจาดี มีมารยาท ไว้ถือเป็นศรีแก่ตัวค่ะ ฝากไว้เรื่องนี้ไว้ให้คิดด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและอ่านจนจบนะคะ
รอบหน้าเราจะแชร์เรื่องเราอะไรรอติดตามกันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา