13 เม.ย. 2019 เวลา 11:38 • ปรัชญา
Agalico เหนือกาลเวลา EP.4️⃣ : พระพุทธเจ้า(ตอนจบ)
Part 2
ผลจากการที่พระสิทธัตถะ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เอื้อต่อการเกิดสติ ปัญญา ตามหลัก “ทางสายกลาง” นั้น
ในที่สุด พระองค์ก็มาถูกทางจนได้
🔘 ช่วงหัวค่ำ
หลังจากที่พระองค์อธิษฐานจิตว่า ถ้ายังไม่รู้วิธีดับทุกข์ จะไม่มีวันยอมแพ้
พระองค์ก็เริ่มนั่งสมาธิ ใช้สติตามรู้ลมหายใจเข้าออก
แม้ความคิดฟุ้งซ่าน และเรื่องราวต่างๆในอดีตทั้งหลาย จะผุดขึ้นมา รบกวนการทำสมาธิ
แต่ถ้าเราตั้งมั่น และเชื่ออย่างแรงกล้าว่า สิ่งที่เรา ”ตั้งใจทำอยู่” (ตามรู้ลมหายใจ) มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ในที่สุด เราก็จะได้รับชัยชนะ ดึงจิตกลับมาเป็นสมาธิ จนกำจัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายได้
และแล้ว..
เพราะจิตสงบ มีใจที่เป็นกลาง ละสุขและทุกข์ได้
พระองค์ได้บรรลุสมาธิขั้นสูง มีสติ 100% ปราศจากความคิด และอารมณ์ทั้งหลาย ที่จะครอบงำให้มีอคติต่อสิ่งต่างๆ (พ้นจากอิทธิพลของสมองและจิต)
เมื่อใช้สติเต็มที่ จะเห็นจิตตนเองได้ เข้าใจการทำงานของจิต จึงสามารถเข้าถึงความรู้ต่างๆที่อยู่ในนั้นได้
ความรู้ที่ 1 จึงเกิดขึ้นแก่พระองค์ในช่วงหัวค่ำ นั้นคือ “การระลึกชาติได้” (เวอร์ชั่น อันลิมิท)
คือ สามารถนึกย้อนไปได้หมด ว่าเคยเกิดเป็นอะไรบ้าง ชาตินั้นชื่อว่าอะไร เป็นลูกหลานใคร รวย จน สุข ทุกข์ ตายตอนอายุเท่าไหร่ ตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร เป็นต้น
🔘 ช่วงกลางดึก
พระองค์ได้ใช้สติพิจารณาจิตต่อไป ความรู้อันต่อมาก็เกิดแก่พระองค์
ความรู้ที่ 2 คือ “การเห็นด้วยจิต”
ปกติเราจะเห็นภาพต่างๆตอนลืมตาใช่มั้ย อันนี้จะลืมตาหรือไม่ลืมตา ก็เห็นภาพได้ (คล้ายๆการเห็นภาพเวลานึกถึงอดีต หรือภาพเวลาฝัน)
ทีนี้พระองค์เห็นอะไร ท่านสามารถเห็นว่า จะคนหรือสิ่งมีชีวิตอะไรก็ตาม มาเกิดเป็นสิ่งนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะอะไร
ท่านคอนเฟิร์มว่า เพราะ ”การกระทำ” (กรรม) นี่เอง ที่ทำให้ชีวิตสัตว์ทั้งหลายสุขหรือทุกข์ ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่น
🔘 ช่วงใกล้รุ่ง
ในที่สุด ความรู้สุดท้าย เป็นความรู้ที่พระองค์ค้นหามานานแสนนาน เป็นสิ่งที่พระองค์ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ได้มา
“หนทางดับทุกข์”
พระองค์ได้ตรัสรู้ว่า อะไรคือความทุกข์ ความทุกข์เกิดจากอะไร ภาวะที่พ้นทุกข์ได้เป็นยังไง และต้องทำอย่างไร จึงจะพ้นจากความทุกข์ได้ (อย่างถาวร)
ท่ามกลางสมาธิ อันแน่วแน่ และมั่นคงอย่างที่สุด
พระองค์ได้รวมกำลังสติ พุ่งไปสู่สิ่งเดียว นั้นคือการพุ่งไปทำลาย “กิเลส” (ความอยาก ความกระหาย) ทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดต่อสิ่งต่างๆ
พอเข้าใจทุกอย่างตามความเป็นจริง ก็สามารถละความยึดมั่นถือมั่นในทุกสิ่ง ทั้งบุญบาป สุขทุกข์ ตัวเขาตัวเรา โลกนี้โลกอื่น
เมื่อจิตเป็นอิสระ พ้นจากความหลงไหลในทุกสิ่งแล้ว จิตจึงไม่มีเหตุให้ต้องเกิดอีก เมื่อไม่มีการเกิด ก็จะไม่มีความทุกข์ (จากกายและใจ)
🔘 ประสบความสำเร็จ
บัดนี้ พระองค์รู้ตัวแล้วว่า พระองค์ไม่ต้องเกิดอีกต่อไป ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ถึงความดับทุกข์ ไม่มีความหวั่นไหวต่ออะไรแล้วในที่สุด
ณ โคนต้นโพธิ์ต้นนั้นเอง พระสิทธัตถะ หรืออดีตเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้เป็น ”พระพุทธเจ้า” (พระผู้ตรัสรู้ด้วยตนเอง) นามว่า “พระโคตมะพุทธะ”
นับแต่นี้ พระองค์เป็นผู้รู้จริง ในความหมายที่แท้จริงของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความทุกข์
ท่านได้รู้แล้วว่า ทำไมมนุษย์เราจึงต้องเกิดและตาย ซ้ำไปซ้ำมา จนต้องเจอกับความทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และได้รู้ด้วยว่าทำอย่างไร เราทุกคนถึงจะทำให้ความทุกข์ ที่ได้รับจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ จบลงได้
🔆 เรื่องราวการค้นหาวิธีดับทุกข์ ของเจ้าชายสิทธัตถะก็จบลงที่ตรงนี้
🔆 แต่เรื่องราวการเผยแผ่ความรู้ที่พระองค์ค้นพบนั้น ยังคงดำเนินต่อไป ตราบใดที่เราทุกคนยังศึกษา และทำตามคำสอนของท่านอยู่
🔆 ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ จากนี้ไปจะเป็นการสรุปสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และบางตอนจะเล่าเรื่องอื่นๆของท่านให้ฟังนะครับ 😊
ติดตามได้ใน Agalico เหนือกาลเวลา EP. 5️⃣
- Agalico เหนือกาลเวลา
พระพุทธเจ้า โดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา