2 พ.ค. 2019 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
กำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตอนที่ 9
กำแพงเมืองจีนภายใต้ราชวงศ์หมิง
ที่ผ่านมา พวกมองโกลไม่ได้สนใจใยดีกำแพงเมืองจีนเลย ปล่อยให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา
เหตุผลที่พวกมองโกลไม่สนใจ เพราะที่ผ่านมา มองโกลนั้นเรืองอำนาจมาก มีอำนาจเหนือดินแดนจีนรวมถึงนอกกำแพงเมือง ก็ล้วนตกอยู่ใต้อำนาจมองโกล
ดังนั้นเมื่อราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นราชวงศ์ใหม่ขึ้นปกครอง จักพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงจึงตัดสินพระทัยจะสร้างกำแพงใหม่ขึ้นมา เนื่องจากปักกิ่ง ซึ่วเป็นเมืองหลวงนั้นอยู่ไม่ห่างจากนอกด่านนัก อยู่ใกล้ศัตรูเกินไป
1
โครงการสร้างกำแพงใหม่นั้นได้มีการส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น จากจักรพรรดิพระองค์หนึ่งสู่อีกพระองค์
แต่ละพระองค์นั้นก็ได้ทรงสร้างกำแพงโดยใช้แบบแปลนเดิมจากจิ๋นซีฮ่องเต้ ภายในกำแพงนั้นก็ยังคงอัดด้วยดินเช่นเดิม หอคอยรวมถึงป้อมปราการก็ยังคงตั้งอยู่แนวกำแพงเป็นจำนวนมหาศาล แต่กำแพงของราชวงศ์หมิงนั้นใหญ่กว่าเดิม ดีกว่า รวมถึงสวยกว่าเดิมมาก
2
ในสมัยนี้ ได้มีการพยายามปรับเปลี่ยนการสร้างกำแพง จากการอัดดิน เปลี่ยนมาใช้ก้อนอิฐและก้อนหิน มีการใช้แรงงานจำนวนมากในการสร้าง
เทคโนโลยีการก่อสร้างนั้นก้าวหน้ากว่าเดิมมาก มีการใช้อุปกรณ์การก่อสร้างที่ทันสมัยกว่าเดิม
1
แต่จักรพรรดิราชวงศ์หมิงไม่ทรงพอพระทัยกับกำแพงที่แข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องสวย งดงามอีกด้วย
ก้อนอิฐต้องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ตกแต่งอย่างสวยงาม
กำแพงราชวงศ์หมิงนั้นมีทหารคอยรักษาการณ์กว่า 1 ล้านคน สาเหตุที่ต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ เนื่องจากพวกมองโกล ต้องการจะยึดแผ่นดินจีนอีกครั้ง
เหล่าทหารยามต้องใช้เวลาตลอดชีวิต อาศัยอยู่ในบริเวณหอคอยของกำแพง
ครอบครัวของเหล่าทหารยามพวกนี้ก็อาศัยอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกันและทำฟาร์มเล็กๆ ปลูกพืชผัก รวมถึงเลี้ยงสัตว์เป็นเสบียง มีการผลัดเปลี่ยนเวรยามตลอดเวลา
1
ในปีค.ศ.1572 (พ.ศ.2115) จักรพรรดิว่านลี่ (Wanli Emperor) ขึ้นครองราชย์ พระองค์ประทับอยู่ในวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกกลางเมืองปักกิ่ง ซึ่งพระราชวังที่พระองค์ประทับนั้นมีขนาดใหญ่พอจะเรียกเป็นเมืองได้เลย พระราชวังนี้คือ “พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)”
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)
จักรพรรดิว่านลี่ (Wanli Emperor)
สาเหตุที่เรียกว่าพระราชวังต้องห้าม เนื่องจากมีเพียงองค์จักรพรรดิและขุนนางเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าออกพระราชวังแห่งนี้ คนนอกห้ามเข้าเด็ดขาด
จะเป็นอย่างไรต่อไป ผมจะมาเล่าต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา