3 พ.ค. 2019 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
กำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตอนที่ 10
การล่มสลายของราชวงศ์หมิงและการก้าวเข้ามามีบทบาทของเผ่าแมนจู
พระราชวังต้องห้ามนั้นใหญ่โตมาก มีตึกมากกว่า 1,000 หลัง ห้องกว่า 9,000 ห้อง ทั้งหมดนั้นใหญ่โตอลังการ บันไดก็ทำมาจากหินอ่อน เพดานก็ทำมาจากทองคำ
จักรพรรดิว่านลี่ประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ โดยมีมหาดเล็กถวายงานรับใช้กว่า 10,000 คน
ในช่วงแรก ราชวงศ์หมิงภายใต้การปกครองของจักรพรรดิว่านลี่ก็ไปได้ดี แต่ไปๆ มาๆ จักรพรรดิว่านลี่ก็ทรงเบื่อหน่ายกับงานราชการ ช่วงหลังนั้น พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะให้ขุนนางเข้าเฝ้า พระองค์ไม่ทรงอ่านรายงานที่ขุนนางถวาย ผู้นำรัฐบาลที่เสียชีวิตไปแล้ว พระองค์ก็ไม่ทรงสนพระทัยที่จะหาคนมาทำงานแทน
ขุนนางถึงขั้นต้องถวายความเคารพบัลลังก์เปล่าๆ แทนพระองค์
ในระหว่างนี้เอง ทหารยามที่เฝ้าระวังอยู่ที่กำแพงเมืองจีน ต่างก็ไม่ได้รับค่าแรง ทำให้ทหารเริ่มจะหนีเวรยาม ไม่ค่อยสนใจจะเฝ้าระวัง
ซึ่งในช่วงที่เหล่าทหารยามกำลังละทิ้งเวรยาม ละทิ้งหน้าที่นี้เอง กลุ่มอำนาจกลุ่มใหม่ก็ได้ถือกำเนิด นั่นคือ “เผ่าแมนจู” ซึ่งกำลังรวบรวมกำลังอยู่นอกกำแพงเมือง
ในขณะเดียวกัน ชาวนาก็ลุกฮือขึ้นก่อกบฎ
ชาวนาต่างโกรธแค้นที่ต้องทนรับภาษีที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เหล่าเชื้อพระวงศ์ต่างมีชีวิตอย่างหรูหรา อาหารบริบูรณ์ ในขณะที่เหล่าชาวนานั้นมีชีวิตที่ยากลำบาก
เหล่ากบฎบุกเข้าไปในพระราชวังต้องห้ามในปีค.ศ.1644 (พ.ศ.2187) และล้มล้างราชวงศ์
ราชสำนักได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากพวกแมนจูที่อยู่นอกด่าน ขอกำลังมาช่วย และพวกแมนจูก็ได้ส่งทหารมาช่วยจริงๆ
การขอความช่วยเหลือจากแมนจู นับเป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายสำหรับชาวจีน ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายร้อยปี ชาวจีนต่างต่อสู้กับพวกเร่ร่อนนอกด่าน กำแพงเมืองจีนที่สร้างก็เพื่อกันไม่ให้พวกเร่ร่อนนี้บุกเข้าเมือง
แต่ในเวลานี้ ชาวจีนต้องเปิดประตูให้พวกเร่ร่อนนี้เข้าเมืองมาอย่างสง่าผ่าเผย
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ผมจะมาเล่าต่อในตอนหน้านะครับ
โฆษณา