4 พ.ค. 2019 เวลา 06:47 • ประวัติศาสตร์
กำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตอนที่ 11 (ตอนจบ)
จุดตกต่ำและรุ่งเรืองของกำแพงเมืองจีน
ภายหลังจากแมนจูเข้ามาในเมืองและกำจัดเหล่ากบฎเรียบร้อยแล้ว พวกแมนจูก็ได้ยึดอำนาจและปกครองแผ่นดินจีน
และพวกแมนจูนี่แหละครับ คือผู้ปกครองแผ่นดินจีนต่อมาอีกเกือบ 300 ปี ปกครองมาถึงยุค 1900 เลยทีเดียว
ภายหลังจากราชวงศ์หมิงล่มสลายและแมนจูเรืองอำนาจ กำแพงเมืองจีนนั้นก็ได้ทรุดโทรม ไร้การดูแล การก่อสร้างก็ชะงัก ทั้งหอคอย ทั้งด่านต่างๆ ล้วนแต่ว่างเปล่าเป็นเวลานับศตวรรษ
ลม ฝน หิมะล้วนแต่ทำให้กำแพงนั้นทรุดโทรม ในขณะที่กำแพงด้านที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายนั้น ก็ถูกปกคลุมด้วยทราย
จนกระทั่งยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) กำแพงเมืองจีนก็ถึงเวลาวิกฤตหนัก คราวนี้เป็นฝีมือมนุษย์ไม่ใช่ธรรมชาติ
ในช่วงเวลานั้น จีนอยู่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม พรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งบริหารประเทศมาตั้งแต่ปีค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) ต้องการที่จะลบอดีตของจีนให้หมด หนังสือหลายเล่มถูกเผา ศิลปะต่างๆ ถูกทำลาย ผู้คนที่มีการศึกษาสูงก็ถูกนำไปฆ่า
กำแพงเมืองคือหนึ่งในสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์ต้องการจะทำลาย
รถแทรกเตอร์ได้ทำลาย โค่นกำแพงเมืองจีนซึ่งยาวนับ 100 ไมล์เพื่อจะสร้างตึกสมัยใหม่ ระเบิดได้ทำลายกำแพงเมืองที่มีอายุยาวนานเกินจะบรรยาย
ปีค.ศ.1984 พรรคคอมมิวนิสต์พรรคใหม่ ซึ่งนำโดย “เติ้งเสี่ยวผิง” ได้ขึ้นมากุมอำนาจ
เติ้งเสี่ยวผิง
ชะตากรรมของกำแพงเมืองจีนได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เติ้งเสี่ยวผิงเห็นความสำคัญของกำแพงเมืองจีน และได้สั่งให้บูรณะกำแพงขึ้นมาใหม่ รวมถึงซ่อมแซมกำแพงให้ดี
ในช่วงเวลานั้น ตะวันตกแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกำแพงเมืองจีนเลย จนปีค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ได้เดินทางเยือนจีน และได้ไปเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีน ทำให้ทั่งโลกให้ความสนใจกำแพงเมืองจีน
ประธานาธิบดีนิกสันที่กำแพงเมืองจีน
ในวันนี้ กำแพงเมืองจีนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับ 10 ล้านคนในแต่ละปี รวมถึงยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์กำแพงเมืองจีน สำหรับซีรีย์ชุดต่อไป สงครามเวียดนาม มาพรุ่งนี้เวลาเก้าโมงเช้าแน่นอนครับ รอติดตามได้เลยครับ
โฆษณา