ควันหลงลิเวอร์พูลกับนัดสุดท้ายแห่งฤดูกาล 2018/2019
กลับมาตามความตั้งใจของผมครับจากบทความเดิมตอนที่ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ครึ่งฤดูกาล ถือเป็น 38 นัดที่ดีมากๆครับในฤดูกาลนี้ ต้องขอชื่นชมจากใจจริงๆเลยครับ การพาทีมคว้าแต้มเกิน 90 แต้มได้ และแพ้เพียงแค่นัดเดียวนับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ
ฤดูกาลนี้ไม่ได้ เอาใหม่ฤดูกาลหน้าครับ
แต่อีกใจก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายมากๆ ถือเป็นฤดูกาลที่แชมป์อยู่ใกล้มือมากๆแล้วครับ แต่เอื้อมมือคว้าไว้ไม่ได้ ต้องชื่นชมแมนซิตี้จากใจอีกเหมือนกันที่ทำมาตรฐานไว้สูงมากๆ ทั้งๆที่ช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลมีออกอาการเป๋บ้าง แต่สุดท้ายกลับมาชนะ 14 นัดรวดได้นี่ต้องถือว่าเหนือชั้นในแง่มาตรฐานมากๆ ซึ่งต่อไปพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลถัดๆไปคงต้องขับเคี่ยวกันยันนัดสุดท้ายแน่นอน เพราะมาตรฐานที่ซิตี้ทำไว้ จะทำให้ไม่มีทีมใดสามารถวางใจแต้มตัวเองได้จนกว่าจะจบฤดูกาล
ขอกลับมาที่ทีมของเราคือลิเวอร์พูลกันบ้าง เราจะมาวิเคราะห์กันถึงฟอร์มและสถานการณ์ในทีมฤดูกาลนี้กันว่าฟอร์มเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรกันบ้าง ผ่านบทสรุป 3 ข้อ ดังด้านล่างครับ
1.ฟอร์มโดยรวม ถือว่าสุดยอดมากแล้วครับ ดีที่สุดนับจากลิเวอร์พูลอยู่ในพรีเมียร์ลีกมา แพ้เพียงแค่นัดเดียว และเกือบเป็นฤดูกาลไร้พ่ายเลยทีเดียว แต่ก็อีกละครับ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถึงฟอร์มเราจะดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าซิตี้ดีกว่าครับ
2.ถ้าวิเคราะห์ฟอร์มเป็นตำแหน่งและบุคคลที่พาเรามาถึงจุดๆนี้ได้ ผมให้คะแนนเรื่องเกมรับเป็นส่วนที่พัฒนามากที่สุดครับ โดยเฉพาะแผงหลังทั้งหมดยันผู้รักษาประตู โดยเฉพาะฟานไดค์ที่คว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลได้ ความนิ่ง การอ่านทาง โดยเฉพาะภาวะผู้นำการตัดสินใจนี่ช่วยทีมได้เยอะมากๆ ผมขอยกให้เป็นว่าที่กัปตันคนต่อไปเลยครับ ไม่น่าจะมีใครเหมาะกับตำแหน่งมากกว่านี้อีกแล้ว
สองคู่หู ผู้ช่วยกันรักษาประตูแห่งเมืองลิเวอร์พูลครับ
และคนที่สองจะไม่พูดถึงไม่ได้เป็นอันขาดครับ เค้าคือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยอดนายทวาร อดีตผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลก ผลงานที่ผ่านมากับรางวัลคลีนชีตสูงสุดของทีมจำนวน 21 เกม คงไม่ต้องบอกว่าเค้าเหนียวแค่ไหน คือหลุดจากฟานไดค์มาได้ ก็ยังมีกำแพงชื่อ อลิสซอน ขวางอยู่ละครับ โดยเฉพาะนัดล่าสุด นัดที่ 38 ที่เพื่อนร่วมทีมพากันสมาธิหลุดไปหมดตอนซิตี้ยิงนำ เรียกว่าช่วงนั้นทีมเล่นเกมรับไม่เป็นสับปะรดกันเลย ปล่อยให้ วูล์ฟ บุกเอาๆ ดีที่ยังมีเค้าที่ยังมีสมาธิกับเกม ป้องกันประตูไปหลายจังหวะและสุดท้ายเก็บคลีนชีตได้ครับ
ส่วนแบ็คสองข้างนี่ทั้ง โรเบิร์ตสัน และ อาร์โนล นี่ถือว่าสุดๆครับ ดูแล้วโดดเด่นด้านเกมรุกอีกต่างหาก ทั้งสอง แย่งกันแอสซิสเป็นว่าเล่น เกมไหนตันๆก็ได้ลูกส่งลูกครอสจากแบ็คสองข้างช่วยเจาะละครับ
3.ฟอร์มดีๆอย่างนี้แล้วพลาดตรงไหน
อย่างแรกเลยครับ ขณะที่กองหลังแน่นปึกขึ้นมากๆ แต่กลับกันกองหน้านี่ฝืดไปหลายนัดครับ ถ้าช่วงสำคัญที่สุดก็คือช่วงที่ไปเสมอติดๆกันหลายๆนัดนั่นละครับ ถ้ามีอีก 1 ประตูก็สามแต้มละครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความคมลดลงจากฤดูกาลที่แล้วโดยเฉพาะซาลาห์ครับ ถ้าดูแล้ว มันก็มีหลายๆนัดที่ซาลาห์หายไปจากเกม หรือปืนฝืดไปเหมือนกัน ถ้าขอความคมจากฤดูกาลที่แล้วซักครึ่งมาแบ่งให้ฤดูกาลนี้บางช่วง อาจทำให้ได้แต้มเพิ่มจากอีกหลายนัดครับ
อย่างที่สอง กองกลางครับ ผมว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่งเลยที่จะต้องตัดสินใจของทีมในฤดูกาลถัดไปเลยครับว่า ควรมีผู้เล่นที่เป็นลักษณะเพลเมคเกอร์เลยหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูผมว่าคล็อปยังไม่มีชุดกองกลางที่ดีที่สุด โดยกองกลางชุดปัจจุบันจะเป็นลักษณะอึด ถึก ทน วิ่งไล่เพื่อกดดันคู่แข่งจนสร้างช่องว่างให้กองหน้าเอาไปจบสกอร์ แต่ในทางกลับกัน ยังขาดประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์เกม หรือมีลูกคิลเลอร์พาสเพื่อให้กองหน้าจบสกอร์ได้เลย โดยภาระของการส่งบอลเพื่อหาจังหวะจบกลับตกไปที่แบ็คทั้งสองข้างแทน โดยถ้าให้เลือกหนึ่งคนที่จะต้องเป็นตัวยืนในฤดูกาลถัดไป ผมขอเลือกไปที่ ไวจ์นัลดุม ผมให้เค้ามีความสำคัญที่สุดในแผงกลาง เพราะเล่นได้หลากหลายทั้งกลางรับ บ๊อกซ์ทูบ๊อกซ์ บางจังหวะก็สอดขึ้นไปยิงได้อีก เทียบกันกับกลางตัวอื่นๆแล้ว ผมให้ ไวจ์นัลดุม สม่ำเสมอที่สุดครับ
อย่างที่สาม ตัวสำรองครับ ผมว่าปัญหานี้คือปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้ละครับ ช่องว่างระหว่างตัวจริงกับตัวสำรองมันห่างกันเยอะไปครับ ตอนที่มีตัวเจ็บตัวสำรองยังทดแทนไม่ค่อยได้ และที่สำคัญการพลิกเกมนี่เรียกว่าน้อยมากครับ เทียบกับขุมกำลังแล้ว ซิตี้ นี่ขุมกำลังพร้อมรบมากๆ ตัวจริงเจ็บไปเรียกว่าแทบไม่มีปัญหาเลยครับ ฤดูกาล ที่ผ่านมาลิเวอร์พูลเริ่มทุ่มซื้อผู้เล่นตัวจริง ฤดูกาลถัดไปอาจต้องทุ่มซื้อกองกำลังสำรองบ้าง เพื่อปิดช่องว่างตรงนี้ครับ โดยตรงนี้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมตอนช่วงตลาดหน้าหนาวครับ ตอนนั้น คล็อป ยอมปล่อย ไคลน์ ไปจากทีม ซึ่งพอถึงนัดถัดๆไปกองหลังนัดพากันเจ็บพอดี ก็นับว่าน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยครับ ที่ คล็อป ไม่ทำใจแข็งให้หมดฤดูกาลก่อน แต่ก็ถือเป็นบทพิสูจน์เหมือนกันว่าทีมอาจยังไม่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับจำนวนการแข่งขันมากขนาดนี้ครับ
ก็ขอจบกันไปเท่านี้ครับสำหรับฤดูกาลที่ลุ้นจนนัดสุดท้ายของชาวหงส์แดง นัดถัดไปกับรอบชิง UCL ก็ขอให้ คล็อป ล้างอาถรรพ์สำเร็จจากความผิดหวังในรอบชิงฤดูกาลที่แล้ว และกลับมาพร้อมถ้วยบิ๊กเอียร์สมใจซักทีครับ
ถ้วยสุดท้ายแห่งปี หวังว่าคล็อปจะล้างอาถรรพ์รอบชิงสำเร็จครับ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
