18 พ.ค. 2019 เวลา 10:55 • ประวัติศาสตร์
Goodnight MH370
หลังจากสิ้นสุดคำพูดสุดท้ายของกัปตันซาฮารี่ ที่คล้ายกับว่าเป็นการบอกลา แล้วพวกเขาทั้งหมดก็หายไปจากจอเรดาร์ จวบจนวันนี้..
"Goodnight MH370" หรือคำพูดนี้จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญสุดท้าย ที่กัปตันได้ทิ้งไว้ และกำลังจะบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น..?
จากเหตุการณ์เที่ยวบิน MH370 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่หายไปอย่างลึกลับ ไร้ร่องรอย กินเวลานานกว่า 5 ปี ที่ยังไม่พบแม้แต่หลักฐานชิ้นสำคัญ ที่จะนำไปสู่บทสรุปที่แท้จริง
จากการตั้งสมมุติฐาน และสันนิษฐานมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ทั้งที่เป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้
การตั้งสันนิษฐานจากปัจจัยภายนอก ที่ตั้งหลักไปที่คำว่า "อุบัติเหตุ" เพราะทุกคนเชื่อมั่น คงไม่มีใครอยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
คงไม่มีใครอยากหายตัวไปอย่างลึกลับไม่มีวันกลับมา และทุกคนก็คงจะต้องการที่จะมีชีวิตรอด..
แต่จนแล้วจนรอดจากหลักฐานที่มีอยู่ ก็ไม่มีความสอดคล้องใดๆกับหลักธรรมชาติที่จะบอกว่าสิ่งนี้คือ "อุบัติเหตุ" หรือการกระทำโดยไม่ตั้งใจ
หากมีใครสักคนที่ไม่คิดเช่นนั้น
มีใครบางคนที่ต้องการจะหายจากโลกนี้ไปตลอดกาล แบบไร้ร่องรอย....?
1
เพราะจากสิ่งที่เกิดขึ้น ดูราวกับว่าถูกวางแผนมาอย่างดิบดี และก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จเสียด้วย
1
เพราะจนวันนี้ ก็ยังไม่มีใครค้นพบเครื่องบินลำนี้อีกเลย
และนี่คือสันนิษฐานชั้นต้นที่ทำให้ กัปตันซาฮารี่ กลายเป็นผู้ต้องสงสัยของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
1
"เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์อย่างมีเงื่อนงำ"
1
มีใครบางคนปิดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดบนเครื่องบินโดยตั้งใจ และคนๆนั้นอาจเป็นนักบินเสียเอง
จากหน่วยงานการสืบสวนที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการวุฒิสภาออสเตรเลีย และบุคคลผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้ ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่า นักบินมีเจตนาทำให้เครื่องบินตกและฆ่าทุกคนบนเที่ยวบิน
1
เพราะนักบินจะไม่มีทางปิดช่องรับสัญญาณ และทุกสิ่งทุกอย่างที่จะจำเป็นต่อการติดตามและควบคุมการบิน
แม้แต่ในกรณีเครื่องบินถูกจี้กลางอากาศ หรือถูกควบคุมจากผู้ไม่ประสงค์ดี หรือในกรณีเครื่องยนต์ขัดข้อง และอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
นักบินก็ยังที่จะสามารถที่จะติดต่อหอบังคับการบินด้วยรหัสลับที่เหมาะสม เพื่อแจ้งเตือนภัยที่เกิดขึ้นได้ในทันที
การบินออกนอกเส้นทางที่ควรจะบินไปในที่ๆสามารถลงจอดฉุกเฉินได้ เช่นสนามบินรอง แต่ต้องไม่ใช่บนผืนน้ำ..
จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่นักบินจะไม่ทำเช่นนี้ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน นอกเสียจากว่าเขาจะตั้งใจ..
จากสันนิษฐานจึงเชื่อได้ว่า ผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องบินถูกสังหารจากสภาวะขาดอากาศหายใจ หรือการที่เครื่องบินสูญเสียความกดดันอากาศ โดยความตั้งใจของนักบิน
หน้ากากออกซิเจนที่ตกลงมา จะยื้อชีวิตพวกเขาเหล่านั้นไว้ได้เพียง20 นาทีเท่านั้น ก่อนที่สภาวะขาดออกซิเจน จะส่งพวกเขาหลับไหลไปตลอดกาล
https://www.google.com/search?q=helios+ghost+flight+522&tbm=isch&ved=2ahUKEwiuuKG18KTiAhWRdH0KHZR6A2YQ2-cCegQIABAB&oq=ghost+flight+&gs_l=mobile-gws-wiz-img.1.3.0i19j0i30i19j0i5i30i19l2.54121.61960..62781...3.0..0.205.1528.8j5j1......0....1.......5..3
ในการสืบสวนครั้งแรกที่ยังต้องสงสัย ถึงนักบินทั้ง 2 คนว่าใครที่เป็นผู้กระทำ...?
สุดท้ายจากแรงจูงใจทำให้สันนิษฐาน ต้องตกไปอยู่ที่ กัปตันซาฮารี แต่เพียงผู้เดียว
ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะทำให้นักบินผู้ช่วยต้องการจากโลกนี้ไป ทั้งๆที่เขาเพิ่งจะหมั้นกับแฟนสาว และกำลังจะแต่งงานในเร็วๆนี้ เค้ากำลังจะมีอนาคตที่ดี ซึ่งต่างจากกัปตันซาฮารี่ ผู้ที่กำลังประสบหาครอบครัวอย่างหนัก ด้วยการหย่าร้างกับภรรยา
แม้ทางรัฐบาลมาเลเซียจะออกมาปกป้องซาฮารีว่าเขาไม่มีปัญหาทางด้านจิตใจแต่อย่างใด อีกทั้งเขายังสามารถเป็นกัปตันที่ดี แบบที่เคยเป็นมาโดยตลอด แต่จากรายงานจำนวนมากที่อ้างถึงความวุ่นวายในชีวิตแต่งงานของเขา
แรงจูงใจที่มีจึงทำให้มีความเป็นไปได้ในวันเกิดเหตุ ที่กัปตันซาฮารี อาจล็อคนักบินผู่ช่วยไว้ด้านนอก และกระทำการดังกล่าวด้วยตัวเองทั้งหมด
อีกทั้งหลักฐานจากการตรวจสอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บ้านของเขา ได้พบข้อมูลการบินด้วยเครื่องบินจำลอง ซึ่งกู้กลับมาได้ภายหลังจากที่เขาได้ลบข้อมูลไปแล้ว
พบว่าซาฮารีได้ทำการจำลองการบิน ลึกเข้าไปในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ที่ห่างไกลมาก ซึ่งเป็นเวลาไม่ถึง 1 เดือน ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันกับ MH370
จากชะตากรรมของ MH370 จึงบอกได้ว่า..
ความตั้งใจของซาฮารี คือการไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหายไปตลอดกาล
1
จากสมมุติฐานที่เกิดขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่เค้าจะวางแผนการบินไว้อย่างดี เพื่อให้เครื่องบินได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
การลงจอดที่คำนวณมาแล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้เลยหากการตกจากที่สูงเพราะอุบัติเหตุ ที่จะไม่ทำให้เครื่องบินระเบิดออก และแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
1
เขาได้วางแผนให้เชื้อเพลิงเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการบินวนเพื่อเผาผลาญน้ำมันทิ้ง เครื่องบินจึงไม่มีการระเบิด ซึ่งสอดคล้องกับการไม่พบหลักฐานใดๆที่เป็นชิ้นส่วนการแตกกระจายของเครื่องบิน
แต่เครื่องบินยังมีพลังงานเพียงพอในการทิ้งตัวลงในน้ำ โดยการบังคับของเขา
และผลจากการทำสังหารหมู่ผู้โดยสารด้วยการ Depressurization หรือการทำให้เครื่องบินสูญเสียความกดดันอากาศ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้น้ำเข้าสู่เครื่องบินได้ที่ละน้อย และจมลงสู่เบื้องล่างในที่สุด..
แม้จะยังไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าสันนิษฐานนี้จะเป็นจริง แต่จากการสืบสวนจากสิ่งที่มี คงจะปฏิเสธไม่ได้ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นโดยคำกล่าวอ้างนี้จะใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
1
หลังจากที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือชิ้นส่วนของปีกเครื่องบิน จึงทำให้ทฤษฎีนี้ยิ่งตอกย้ำความเป็นไปได้
2
การวิเคราะห์ปีกเครื่องบินที่พบ จึงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่จะบอกเราได้ว่าวันนั้นเครื่องบินได้พบกับชะตากรรมอะไร และเป็นไปได้แค่ไหนกับการ ฆ่าตัวตาย ของกัปตัน..
โปรดติดตามตอนต่อไป..
Have a safe flight✈
#แอร์ป้าห้าดาว
อ่านบทความย้อนหลัง
หากชื่นชอบและบทความนี้เป็นประโยชน์ กด Like และ share และกดติดตาม เพื่อไม่ให้พลาด บทความที่สาระไม่มาก แต่มีทั้งรอบตัวไปยันรอบโลก😁
Fly with me to see the world ด้วยกันนะคะ 😊✈
Reference
โฆษณา