22 พ.ค. 2019 เวลา 10:59 • ประวัติศาสตร์
"Pray for MH370"
5 ปีที่ยาวนาน สำหรับการรอคอยปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นจริง...
CR.https://lonelytravelog.com/2014/03/09/pray-for-mh370/
ในระยะแรกของการสืบสวนจากเบาะแสที่มี หลังจากเที่ยวบิน MH370 ได้หายไปจากจอเรดาร์
แม้จากการร่วมมือของนานาชาติ และการตั้งสมมุติฐานมากมาย แต่ก็ไม่อาจไขปริศนาการหายไปของเครื่องบินลำนี้ได้
เพราะแท้จริงแล้ว คำตอบที่เราต่างค้นหาถึงสาเหตุการหายไป อาจอยู่ไม่ไกล และใกล้มากเกินไป จนลืมไปแล้วว่า เครื่องบินไม่อาจหายไปไหนได้
"หากปราศจากการควบคุม"
จนกระทั่งหลักฐานชิ้นสำคัญที่ได้ถูกค้นพบ ทำให้สมมุติฐานสุดท้ายยิ่งดูเหมือนจะใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกที
หากซากปีกเครื่องบินที่พบ คือ"ร่องรอย"ของเหตุการณ์บางอย่าง
การติดตามร่องรอยนี้ ก็อาจพาเรากลับไปพบถึงสาเหตุที่มา ได้ไม่ยากเช่นกัน
"สืบจากหลักฐาน"
แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปี กับการค้นพบเพียงเศษซากของปีกเครื่องบิน ก็อาจเพียงพอที่จะบอกแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น..
สำหรับนักสืบอุบัติเหตุทางอากาศ พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบจากหลักฐาน แล้วพวกเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่ "อุบัติเหตุ"
ในบรรดาชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่พบจากการที่น้ำพัดพาเข้าฝั่ง คือส่วนปีกขวาของเครื่องบิน มีความยาวราว 12 ฟุต ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของ Flaps เกือบทั้งสิ้น
Cr. twitter@Raischstudios
Flaps คืออะไร?
กล่าวง่ายๆ ให้เข้าใจได้ คืออุปกรณ์ที่อยู่ด้านหลังของปีก มีหน้าที่ช่วยสร้างแรงยกในความเร็วที่ต่ำ ซึ่งโดยปกตินักบินจะทำการกางแฟลบออก เพื่อช่วยในการลดความเร็วก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอด และใช้ในการยกตัวขึ้นจากพื้น ในขณะที่เครื่องบินขึ้นจากรันเวย์
ซึ่งนั่นแปลว่า เครื่องบินในขณะนั้นได้ถูกกาง Flaps ออก ในการลดความเร็วเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง..
หาก Flaps มีหน้าที่ในการช่วยลดความเร็วเพื่อการลงจอด...
สมมุติฐานสุดท้ายที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือความตั้งใจของนักบินที่ต้องการลงสู่พื้นน้ำด้วยความเร็วที่ต่ำ และจมดิ่งสู่ท้องทะเลในที่สุด
การหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะความตั้งใจในการลงจอด จาก Flaps ที่พบคงอาจยืนยันได้แล้วว่า เขาเตรียมตัวและตั้งใจมาอย่างดีในการก่อเหตุครั้งนี้
เพราะหากการบินมาด้วยความเร็วสูง และเครื่องบินได้พุ่งลงสู่ผืนน้ำด้วยความเร็วทางแนวดิ่ง 300 ถึง 600 ฟุตต่อวินาที ..
สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนไปได้โดยทันที
เครื่องบินจะแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆจนทำให้สามารถพบชิ้นส่วนเครื่องบินได้ ไม่ช้าก็เร็ว..
มากไปกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุทางอากาศได้พิสูจน์จากร่องรอยของ Flaps ที่พบ แสดงให้เห็นถึงร่องรอยการโค้งมนที่สมบูรณ์ ไม่มีการแตกหรือหักใดๆ จึงกล่าวได้ว่า เครื่องบินได้ถูกทิ้งลงในมหาสมุทรและไม่ได้ถูกชนด้วยความเร็วสูง
ทำให้การชนและจมลงในน้ำเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในมหาสมุทรอินเดีย
หากมีคนกระทำสิ่งนี้โดยเจตนาคุณอาจสามารกเรียกตัวเองว่า "ฆ่าตัวตาย" แต่โชคร้ายเพราะเขาได้คร่าทุกชีวิตบนเที่ยวบินนี้ไปพร้อมกับเขาด้วย
ซาฮารี่ได้วางแผน ปิดการรับส่งสัญญาณบนเครื่องบินเพื่อให้หายไปจากจอเรดาร์ ก่อนที่จะกลับทิศทางและบินไปตามรอยต่อของพื้นที่ 2 แห่ง ที่เป็นพื้นที่บริเวณพรมแดน ซึ่งอาจทำให้มีความผิดพลาดในการตรวจสอบได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น
จากการตรวจสอบทางดาวเทียมในภายหลัง ที่พบว่าเขาได้บินผ่านไปที่ปีนัง ราวกับว่าเป็นการอำลาบ้านเกิดของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล
จากข้อมูลอ้างอิง กล่าวถึงปัญหาชีวิตอันวุ่นวายของเขา ซึ่งอาจนำมาสู่การตัดสินใจในครั้งนี้
ซาฮารี่ ผู้ซึ่งประสบปัญหาชีวิตการแต่งงาน จนทำให้เขาต้องหย่าร้างกับภรรยาอันเป็นที่รัก
ปัญหาส่วนตัวที่ถูกเปิดเผยจากเฟสบุคของเขาเองได้พบว่า เขามีปัญหาทางด้านการเมืองในประเทศ ในการแสดงความคิดเห็นต่างที่รุนแรงต่อรัฐบาลอีกด้วย
แม้จะไม่มีใครรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง ว่าเพราะอะไรเขาถึงทำเช่นนั้น และสมมุติฐานสุดท้ายจะเป็นจริงหรือไม่
แต่หากวิเคราะห์จากเหตุและผลที่มี ซาฮารี่ คงอาจเป็นคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตากรรม MH370 และอาจเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนั้น..
เพราะคนที่รู้ดีที่สุด สุดท้ายก็ไม่อาจกลับมาเล่าให้เราฟัง
หากปาฏิหาริย์มีจริง...
Pray for MH370
#แอร์ป้าห้าดาว
อ่านบทความย้นหลังได้ที่👇
MH370 ตอน 1
หากชื่นชอบและบทความนี้เป็นประโยชน์ กด Like และ share และกดติดตาม เพื่อไม่ให้พลาด บทความที่สาระไม่มาก แต่มีทั้งรอบตัวไปยันรอบโลก😁
Fly with me to see the world ด้วยกันนะคะ 😊✈
Reference
โฆษณา