ทฤษฏีสมคบคิด EP 1 : มีอะไรที่ด้านมืดของดวงจันทร์ ?
คุณเชื่อหรือเปล่า ที่อีกฟากฝั่งของดวงจันทร์ ที่เราไม่เคยเห็น มียานอวกาศลึกลับขนาดสูงกว่าหอไอเฟลจอดนิ่งอยู่ที่หลุดอุกกาบาต
ถ้าพูดถึงดวงจันทร์ เราคงจะรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า ดวงจันทร์ที่เราเห็นทุกวันนั้น เป็นเพียงแค่ด้านเดียวของดวงจันทร์เท่านั้น
ทำไมกันนะ?
ถ้าจะตอบให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คงตอบประมาณว่า เพราะระยะเวลาที่ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองเท่ากับระยะเวลาที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกยังไงล่ะ (ประมาณ 27.32 วัน)
อีกทั้งหากจะส่งยานขึ้นไปสำรวจก็มีขีดจำกัดด้านการสื่อสาร เนื่องจากเป็นการสื่อสารแบบเส้นตรง นั่นหมายความว่าขณะอยู่ที่ด้านมืดของดวงจันทร์จะไม่สามารถส่งข้อมูลใดๆ กลับมายังโลกได้เลย
กลับมาที่เรื่องด้านมืดของดวงจันทร์
เราเคยส่งคนขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์หลายต่อหลายครั้งหรือที่เรียกว่าโครงการ Apollo นั่นแหละ แต่ไม่มีซักครั้งเลยที่เราไปลงจอดหรือสำรวจที่ด้านมืดของดวงจันทร์
เนื่องจากขีดจำกัดของการสื่อสาร ซึ่งทำให้ไม่สามารถส่งข้อมูลกลับมายังโลกได้ การลงจอดแต่ละครั้งเลยอยู่ที่ด้านใกล้หรือด้านสว่างเท่านั้น
ภาพที่ 1 : จุดลงจอดของยาน Apollo
ที่นี้คุณกำลังเริ่มสงสัยแล้วใช่ไหม ว่ามีอะไรที่อีกด้านของดวงจันทร์
เคยมีทฤษฏีสมคบคิดทฤษฏีหนึ่งที่บอกว่า Nasa เคยส่ง Apollo 20 (ซึ่งไม่มีอยู่จริง ) ขึ้นไปสำรวจ และหนึ่งในภารกิจคือสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์
ทั้งยังมีการนำรูปภาพที่ถ่ายด้วยรถสำรวจ ที่ถ่ายติดวัตถุที่คล้ายแหล่งอารยธรรมต่างดาว รวมถึงมี video footage หลุดออกมาด้วย ตามนี้..
แค่นั้นยังไม่พอ จุดประสงค์หลักๆ ของยาน Apollo 20 คือการสำรวจข้อเท็จจริง ของยานอวกาศต่างดาวรูปซิการ์ที่จอดทิ้งไว้ที่หลุมเคร์เตอร์บนดวงจันทร์ ซึ่งถูกค้นพบตั้งแต่ Apollo 15
ภาพถ่ายจาก Apollo 15
ยานอวกาศคล้ายซิการ์ถูกจอดทิ้งร้างอยู่ที่หลุมเคร์เตอร์บนดวงจันทร์
ภาพถ่ายจาก Apollo 16
ภาพจาก Apollo 16 ส่งผลให้เห็นรูปร่างโดยรอบเด่นชัดขึ้น
ภาพถ่ายจาก Apollo 20
และล่าสุดภาพจากApollo 20 ซึ่งมีความละเอียดมากที่สุด
จากรูปมีการคาดการณ์กันว่า ขนาดของยานนั้นมหึมาเลยทีเดียว ซึ่งความสูงของเจ้ายานนี้วัดจากใต้ท้องเรือถึงส่วนบนนั้นมี ความยาวประมาณ 500 เมตรนั้น และยาวกว่า 3,300 เมตร หรือ 3 กิโลกว่าๆ เลยทีเดียว โดยจากภายนอกนั้นสามารถมองเห็นสะพานเรือ หรือห้องบังคับการที่อยู่ด้านบนได้อย่างชัดเจน หลังจากการประมาณอายุของมันแล้ว นับได้กว่า 1.5 ล้านปี!!
ภาพเปรียบเทียบขนาดของยาน
จากการสำรวจภายในยาน ทำให้พบหญิงสาวต่างดาว รูปร่างคล้ายคนจีนซึ่งนอนเสียชีวิตอยู่ ต่อมาได้รับการขนานนามว่า Monalisa of the moon
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องทฤษฎีเหล่านี้ก็ต้องถูกกลบลงหลุมไป
เนื่องจากทาง NASA ได้ส่งหนึ่งในยานอวกาศที่ทำหน้าที่สำรวจดวงจันทร์ได้ดีมาก ๆ ลำนึงก็คือ Lunar Reconnaissance Orbiter หรือ LRO ของ NASA มันถูกส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ในปี 2009 ซึ่งก็ยังทำงานจนถึงทุกวันนี้ ยาน LRO มีกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่ถ่ายได้ละเอียดจนเห็นจุดลงจอดของโครงการ Apollo ได้เลยทีเดียว
เนื่องจากยาน LRO ใช้รูปแบบการโคจรแบบ Polar Orbit หรือโคจรตัดขั้วเหนือใต้ ทำให้มันสามารถถ่ายภาพได้เกือบทุกซอกทุกมุมของดวงจันทร์
แล้วถ้าทฤษฏีลวงโลกยังโดนกลบไม่มิดพอ ก็ต้องตบท้ายด้วย ยานของพี่จีน เพราะเมื่อต้นปี 2019 ทางจีนมีการส่งยานสำรวจ ฉางเอ๋อ 4 (Chang'e 4 ) ซึ่งไม่ใช่แค่โคจรแล้วถ่ายภาพ แต่เป็นการลงไปจอดที่ด้านมืดของดวงจันทร์ได้สำเร็จ
ซึ่งจีนได้ทลายกำแพงของข้อจำกัดด้านการสื่อสารไป โดยจีนส่งดาวเทียม 1 ดวงชื่อว่า Queqiao ไปโคจร ณ จุด Lagrange L2 ซึ่งเป็นจุดที่แรงโน้มถ่วงระหว่างโลกกับดวงจันทร์หักล้างกันจนทำให้ยานที่ไปอยู่ตรงนั้นเหมือนกับตกอยู่ในหลุมของสนามโน้มถ่วง และมันจะอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ ระหว่างด้านไกลของดวงจันทร์กับโลก ทำให้ยานฉางเอ๋อ 4 สามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ กลับมายังโลกได้ผ่านยาน Queqiao ที่เป็นตัว Relay สัญญาณให้
สุดท้ายแล้วด้านมืดของดวงจันทร์ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นความลับอีกต่อไป ถึงอย่างนั้นก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ หากว่าปัจจุบันยังไม่มีการสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์อย่างจริงจัง มนุษย์อย่างเราๆ เนี่ยจะสามารถจินตนาการเรื่องแบบไหนออกมาได้อีกบ้าง
แล้วคุณละครับ ถ้าให้คิดทฤษฏีสมคบคิดเกี่ยวกับดวงจันทร์ คุณจินตนาการไว้ว่าอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังบ้างนะครับ
อ้างอิง
ภาพจุดลงจอดของยาน Apollo : https://m.imgur.com/gallery/mhm05b1
Monalisa of the moon : http://www.viewzone.com/monalisa.html
รายละเอียดยาน LRO และ Chang'e 4 : https://spaceth.co/far-side-of-the-moon/
- 11
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
