ทฤษฎีสมคบคิด EP2 : โลกของเราแบนจริงหรือ?
หากกล่าวถึงคำว่าโลก เราจะนึกถึงอะไรครับ บ้างอาจบอกว่านึกถึงที่ที่เราอาศัยอยู่ บ้างอาจบอกว่านึกถึงดาวที่อุดมสมบูรณ์มีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายสายพันธุ์ แต่ก็แน่นอนล่ะ คำตอบนึงที่ทุกคนคงจะรู้อยู่แล้วก็คือ โลกของเรานั้นเป็นทรงกลม
แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนึงคุณรู้ความจริงว่าโลกของเรานั้นแบน
Cr . M ARTS
มีทฤษฎีสมคบคิดทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นั้นแบน ซึ่งถ้าจะให้เท้าความก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นความเชื่อของมนุษย์เมื่อหลายพันปีมาแล้ว จนกระทั่งมีการพิสูจน์หลายต่อหลายครั้งว่าโลกของเรานั้นแท้จริงแล้วเป็นทรงกลม
จนมาถึงในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล รวมไปถึงเทคโนโลยีด้านอวกาศ ที่สามารถส่งคนขึ้นไปบนอวกาศ พร้อมทั้งถ่ายรูปโลกเป็นทรงกลมมายืนยันได้ แต่ไม่น่าเชื่อนะครับว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่ง (Flat earth society) ที่ยังปักใจเชื่อว่าโลกแบน แถมยังกล่าวหาว่าองค์กรทางอวกาศอย่าง NASA และ SPACE X ต่างหากที่เป็นฝ่ายหลอกลวงผู้คนว่าโลกกลมเพื่อปกปิดบางอย่าง
แต่ทราบไหมครับว่า กว่าที่เรื่องราวพวกนี้จะทรงอิทธิพลและดึงดูดความสนใจของผู้คนมากขนาดนี้ เริ่มต้นมากจากอะไร ไปดูกันเลย
ในปี 1956 Samuel Shenton ได้ก่อตั้งสมาคมโลกแบนขึ้นเขาบอกว่าโลกของเราเหมือนแผ่นดิสก์ที่มีจุดศูนย์กลางเป็นขั้วโลกเหนือ และที่ขอบของโลกที่ล้อมรอบไปก้วยกำแพงน้ำแข็งเรียกว่าขั้วโลกใต้
มีดวงอาทิตย์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 51 กม อยู่สูง 4,800 กม. เหนือโลก และดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 51 กม. อยู่สูง 4,100 กม. เหนือโลก ทั้งสองสิ่งนี้หมุนวนกันครบรอบใช้เวลา 24 ชม. หรือ 1 วันนั่นเอง และนี่เองที่เป็นเหตุผลที่เขาใช้อธิบายปรากฏการณ์กลางวัน-กลางคืน
Cr. The Flat Earth Society
สมาคมโลกแบนนานาชาติ เคยมีจำนวนสมาชิกมากถึง 3,500 คน ในช่วงที่ Charles K. Johnson เป็นหัวหน้าสมาคม ในราวทศวรรษ 1970 ก่อนที่ลดลงเรื่อยๆในปลายทศวรรษ 1980 จนหายไปในที่สุดในปี 2001 แต่ในปี 2004 Daniel Shenton ได้ฟื้นฟูสมาคมขึ้นมาอีกครั้ง และอยู่มาได้ถึงปัจจุบัน โดยมีจำนวนสมาชิกรวม 420 คนในปี 2012 โดยในปัจจุบัน สมาคมยังมีกิจกรรมเคลื่อนไหวต่างๆ รวมทั้งการให้สัมภาษณ์ตามนิตยสารและสือสิ่งพิมพ์อยู่เรื่อยๆ
นอกจากนั้นชาวสมาคมโลกแบนยังตั้งข้อสันนิษฐานดังนี้
1. หากว่าโลกกลมและหมุนรอบตัวเอง เพียงแค่ขึ้นอยู่บนเครื่องบินที่จอดนิ่งอยู่ โลกก็ต้องหมุนเอาสถานที่ปลายทางมาถึงคุณได้เองสิ
2. ทำไมภาพเส้นขอบฟ้าที่เราเห็นถึงเป็นเส้นตรง ถ้าโลกมันกลมเส้นขอบฟ้าที่เราเห็นก็ต้องโค้งมนสิ ?
Cr. Flat Earth International
3. ทำไมคนขับเครื่องบินถึงสามารถขับเครื่องบินในทางตรงอย่างเดียวได้ ถ้าหากโลกเป็นทรงกลม การขับเครื่องบินตรงอย่างเดียวโดยไม่หักหัวเครื่องบินลงดินจะทำให้เครื่องเคลื่อนที่เป็นแนวตรงจนหลุดออกไปนอกอวกาศเลยไม่ใช่หรือ ?
4. การยิงปืนขึ้นฟ้าในแนวดิ่ง ทำไมกระสุนถึงตกมาที่เดิม มันควรตกตรงพื้นที่ถัดไปไม่ใช่เหรอ ก็โลกกลมและหมุนรอบตัวเองนี่?
แต่ข้อสงสัยส่วนใหญ่มักถูกปัดตกไปด้วยทฤษฎีแรงโน้มถ่วงและชั้นบรรยากาศที่เหล่าชาวโลกกลมเชื่อมั่น ซึ่งพวกเขาทุกคนอาจลืมนึกไปว่า ทฤษฏีต่าง ๆ ที่ชาวโลกแบนใช้เป็นข้อโต้แย้ง ล้วนเป็นทฤษฏีที่ถูกต่อยอดมาจากทฤษฏีโลกกลมขององค์การนาซ่าและรัฐบาลโลกแทบทั้งนั้น
พอทฤษฎีนี้เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น คำถามจากผู้คนต่อสมาคมนี้ก็มากขึ้นตาม เช่น
คำถามเรื่องการมีอยู่ระบบ GPS ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโลกกลมอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากพื้นผิวโลกมีความโค้ง ระบบจีพีเอสจึงต้องใช้เครือข่ายดาวเทียมหลักอย่างน้อย 24 ดวง กระจายตัวกันโคจรอยู่รอบโลก เพื่อบอกพิกัดตำแหน่งได้แม่นยำทั่วโลก ถ้าโลกเราแบนจริงก็ใช้แค่ 3 ดวงก็พอ
แต่ชาวโลกแบนก็สวนกลับมาด้วยเหตุผลที่ว่า ดาวเทียมนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง เขายังบอกอีกว่าที่ชั้นบรรยากาศโลกมีอุณหภูมิมากถึง 2000 องศาเซลเซียส ทำไมดาวเทียมถึงอยู่ในสภาวะแบบนั้นได้ หรือดาวเทียมไม่โคจรชนกันเอง หรือวัตถุบนท้องฟ้าบ้างเหรอ ซึ่งสรุปส่งท้ายว่าแท้จริงแล้ว GPS ที่เราใช้นั้นเป็นโครงสร้างภาคพื้นดิน คล้ายกับระบบ LORAN ที่ใช้ในการทหาร
ส่วนเรื่องของแรงดึงดูด ชาวสมาคมบอกว่าไม่มีอยู่จริงเช่นกัน ซึ่งเป็นเพียงทฤษฎีของนิวตันเท่านั้น เรื่องวัตถุที่ตกจากที่ส่งลงที่ต่ำ เป็นเรื่องของความหนาแน่นในอากาศ เช่นวัตถุที่เบากว่าอากาศก็ลอยขึ้น ส่วนวัตถุที่หนักกว่าก็จะตก
และยังอธิบายต่อว่า น้ำในโลกเรามีอยู่ 1,260 ล้านล้านล้านลิตร มันจะเป็นไปได้ยังไงที่แรงดึงดูดจะพยุงน้ำให้อยู่ในทรงกลม ขณะที่โลกเราหมุนด้วยความเร็ว 1000 ไมล์ต่อชม. ถ้าเป็นแบบนั้นจริงให้นึกภาพลูกเทนนิสที่เปียกน้ำแล้วกำลังหมุนวนสิ น้ำควรจะกระจายออกไม่ใช่เหรอ? ดังภาพ
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่ทฤษฎี ที่คนหมู่มากคอยโต้แย้งและคัดค้าน แต่สมาคมโลกแบน ( Flat earth society ) ก็ยังสามารถยืนหยัด และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาได้มากกว่า 60 ปี อีกทั้งทฤษฎีโลกแบนก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในอินเตอร์เน็ตมากขึ้นส่งผลให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น
ปัจจุบันสมาคมโลกแบนเริ่มเข้ามาในไทยแล้ว โดยมีเพจ Facebook เสียด้วย ท่านใดอยากลองศึกษาเข้าไปอ่านกันได้ครับ (หาไม่ยาก)
ขอบอกเลยว่าผมเข้าไปอ่านทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ ต้องยอมรับว่าบางประเด็นผมก็แอบคล้อยตามเหมือนกัน เพราะหลักฐานและหลักการที่อ้างอิงที่พวกเขานำเสนอมานั้นแน่นจริง ๆ เอ๊ะ! หรือว่ามันเป็นความจริงกันแน่นะ
คิดเล่น ๆ ถ้าจะให้ลองหักดิบเชื่อว่าโลกแบนจริงๆ ก็เป็นการมองโลกในมุมมองที่แปลกออกไปดีนะครับ
หรือถ้าพรุ่งนี้รัฐบาลโลกประกาศออกมาว่าโลกของเราแบนจริงๆ และทฤษฎีที่ชาวโลกแบนอ้าง เป็นเรื่องถูกต้องทั้งหมด คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ ลองคอมเม้นบอกกันหน่อยนะครับ
อ้างอิง
Samuel shenton : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Samuel_Shenton
ทฤษฎีโลกแบน :
อธิบายระบบGPS สำหรับโลกแบน :
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
