ผมพลิกหน้ากระดาษไปตรงที่หนังสือถูกคั่นหน้าไว้ หน้าที่กำลังบรรยายถึง Tree of Ténéré ต้นไม้ที่ได้รับการขนานนามว่า ต้นไม้แห่งความโดดเดี่ยว
เจ้าต้นไม้นี่ยืนต้นเพียวเดียวดายกลางทะเลทรายซาฮาร่าที่ร้อนระอุ ในรัศมีรอบๆ หลายร้อยไมล์ ไม่มีต้นไม้ยืนต้นอื่นใดอีกเลย มีเพียง Tree of Ténéré ต้นเดียวเท่านั่นที่เติบโตอย่างอ้างว้าง ท่ามกลางความเปล่าเปลี่ยวสุดขั้วในผืนทรายที่เวิ้งว้างสุดสายตา
ผมปิดหนังสือลง คั่นหน้าไว้ที่รูปต้นไม้เหล็กที่ถูกนำมาตั้งไว้ทดแทนตรงตำแหน่งที่ Tree of Ténéré เคยยืนต้นอยู่ เหมือนภาพจำของดาวที่ฝั่งแน่นในหัวใจของผม ตลอดมาและตลอดไป แต่ก็หลงเหลือแค่เพียงความทรงจำเท่านั้น
ไม่มีเธอที่ยืนให้ร่มเงายามแดดร้อนแผดเผา หรือคอยบังลมหนาวเหน็บที่กรีดเซาะไปตามพื้นทรายที่โอบล้อมอยู่อีกต่อไป ก้อนหินเล็กๆ อย่างผม ที่ฝั่งตัวแน่นอยู่ที่ข้างโคนต้นไม่เคยห่างไปไหน คอยอยู่เคียงข้างอย่างไม่ย่อท้อ แต่ก็เปล่าประโยชน์ ก้อนหินอย่างผมก็เป็นได้แค่ก้อนหินที่กองอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่แพ้กัน ไม่ใช่ต้นไม้ที่ผลิใบอ่อนซึ่งแม้ไกลออกไปหลายร้อยไมล์ Tree of Ténéré ก็ยังตั้งตารอคอย