10 ก.ค. 2019 เวลา 09:30 • การศึกษา
เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากประเทศเกาหลีใต้?
เกาหลีที่เราเรียกจนคุ้นเคยกันส่วนมากเราจะหมายถึงประเทศเกาหลีใต้หรือชื่อเป็นทางการว่าสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปเยือนมาในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 62 ที่ผ่านมา ด้วยจิตวิญญาณของนักการตลาดก็ไม่ลืมที่จะ เก็บข้อมูลด้านการค้าขายและการตลาดรวมถึงการพัฒนาของประเทศมาด้วย
เริ่มต้นจากมาดูข้อมูลทางสถิติของประเทศเกาหลีใต้เปรียบเทียบกับประเทศไทย เพื่อจะได้ทำให้เข้าใจระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศนี้ดีขึ้นตามข้อมูลตามตาราง เราจะเห็นว่ารายได้ประชากรเกาหลีใต้มากกว่าเราถึง 4.5 เท่า แต่มีความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่สูงกว่าไทยถึง 4 เท่า อายุเฉลี่ยและอัตราการเกิดอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ
แต่สิ่งที่ผู้เขียนได้รับข้อมูลของประเทศนี้จากคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่และเพื่อนชาวเกาหลีใต้ ที่ทำให้ผู้เขียนสงสัยมาตลอดว่าทำไมประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่เล็กกว่าไทย มีปัญหาเรื่องการทำเกษตรจากที่เป็นประเทศในภูมิภาคเขตหนาวที่ทั้งปีทำการเกษตรได้ไม่เกิน 4 เดือน และยังมีประวัติศาสตร์อันขมขื่นจากการรุกรานของเทศที่ใหญ่กว่าถึง 2 ประเทศคือจีนและญี่ปุ่น ผู้คนเคยอดอยากมากมาย แทบจะไม่มีแต้มต่ออะไรเลยในเวทีโลก แต่ทำไมจึงก้าวมาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) เป็นอันดับที่ 12 ของโลก ใน ขณะที่ประเทศไทยเราอยู่ในลำดับที่ 25 (ก็ไม่ได้ขี้เหล่เท่าไหร่นะในระดับโลก) แต่ทว่าประเทศเรามีข้อได้เปรียบมากมายเมื่อเทียบกับเขา นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมเขาจึงเจริญกว่าเรามาก
คนในประเทศเกาหลีใต้เขาพบเรื่องราวที่ถูกกดขี่ข่มเหงมากหลายครั้ง ทั้งยังพบกับการโกงกินของนักการเมืองอย่างมโหฬารในอดีตไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ผ่านมาได้และก้าวหน้าสู่ลำดับต้นๆของโลก มีสินค้าที่คนทั่วโลกรู้จักดีหลายๆยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นซัมซุง แอลจี และ ฮุนได เป็นต้น และยังพบว่าคนในประเทศนี้มีจิตวิญญาณของชาตินิยมสูงมากในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตที่ดีที่สุดต้องเก็บไว้ให้คนในประเทศก่อนหากมีเหลือค่อยทำการส่งออก สินค้าที่ผลิตในประเทศจะได้รับการอุดหนุนจากคนในชาติ นอกจากนั้นผู้เขียนยังได้ข้อมูลมาว่าหากใครมีโครงการอะไรที่ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจให้นำเสนอรัฐบาลและจะได้รับการสนับสนุนเพื่อให้โครงการนั้นเกิดขึ้นเพื่อสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม
และเราจะพบว่าคนไทยและคนทั่วโลกต่างเป็นติ่งเกาหลีกันด้วยจากศิลปินดารานักร้อง และหลายคนก็ติดละครเกาหลีมากๆเอาซะด้วย ทั้งยังสร้างกระแสได้อย่างสม่ำเสมอดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเยือนประเทศและสร้างรายได้มหาศาลทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งออกวัฒนธรรมรวมถึงวัฒนธรรมการกินด้วย นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น เกิดจากการวางแผนแบบบูรณาการของคนในชาติทุกภาคส่วน ที่ทำการวางแผนระยะยาวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นี่เป็นการตลาดขั้นเทพของโลกเลยก็ว่าได้ เราลองนึกภาพในองค์กรหรือหน่วยงานที่เราทำงานด้วยหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีโครงการสักอย่างที่กว่าจะหาคนที่มองไปในทิศทางเดียวกันที่ว่ายากแสนสาหัสแล้ว คนที่ลงมือทำร่วมกันยิ่งยากกว่าอีก แล้วเกาหลีใต้ทั้งประเทศสามารถทำได้นี่คือเรื่องที่เราน่าเรียนรู้เอามากๆ
การที่จะทำให้คนทั้งประเทศหันมาส่งเสริมซึ่งกันและกันมองเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ อะไรที่ทำให้เกิดขึ้นได้คือคำถามสำคัญที่เราน่าเรียนรู้ ทุกคนก็รู้ว่าการร่วมมือร่วมใจกันทำให้เกิดพลัง ทำให้สามารถสร้างผลลัพธ์มากมายต่อสังคม สุดท้ายเราก็ได้รับผลประโยชน์นั้น สิ่งเหล่านี้มีกี่คนที่ไม่รู้บ้างซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามีน้อยมาก เพราะมีหลายประเทศหลายหน่วยงานก็ไม่ได้ลงมือทำให้เกิดขึ้นแม้ว่าจะรู้ก็ตาม และผู้เขียนก็ยังได้ข้อมูลจากคนในประเทศว่าหน่วยงานของไทยมากมายก็มาดูงานที่เกาหลีใต้ด้วยและได้ข้อมูลเหล่านี้กลับไปด้วย ซึ่งเราสามารถนำความรู้เรื่องนี้มาต่อยอดปรับเข้ากับคนในประเทศของเราได้หากเราตั้งใจจริง
คำตอบที่สงสัยข้างต้นก็คือการที่ทำให้คนในชาติมีวิธีคิดที่ไปในทางเดียวกัน มองเห็นเป้าหมายร่วมกันก่อนแล้วคนในชาติจะได้รับประโยชน์ คนไทยเองเราก็ไม่ได้เก่งน้อยกว่าเขาเลย ผู้เขียนเชื่อว่าหากนำมาเทียบคนต่อต่อคนกินกันไม่ขาดแน่ๆ การที่มาสร้างวิธีคิดที่เห็นร่วมกันมองประโยชน์ส่วนรวมหากเราทำได้ผู้เขียนเชื่อว่าเรามีผลลัพธ์มากกว่าเกาหลีใต้อย่างมหาศาลแน่นอน เพราะเรามีความได้เปรียบมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับเขา
ผู้เขียนเคยได้รับการแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง (The seven habits highly effective people) และผู้เขียนพบว่าเกาหลีใต้ได้นำข้อมูลจากหนังสือเล่มนี้ไปบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนของนักเรียนนักศึกษา จึงทำให้คนชาติพัฒนาไปไกลในระดับต้นๆของโลก และผู้เขียนยังได้ข้อมูลจากคนในประเทศนี้และคนไทยที่อยู่ในประเทศนี้ด้วยซึ่งเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกันด้วย นี่คือสิ่งที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุดหากหน่วยงานใดจะบรรจุหลักสูตรนี้ลงไปในองค์กร และมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผลลัพธ์ในระดับหลายพันล้านและเกษียนจากการทำงานแล้วทั้งที่ท่านก็อายุไม่มาก ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสได้พบท่านที่ประเทศสิงคโปรในหลายปีที่ผ่านมา ท่านบอกว่าขนาดผม(กู)ทำได้ไม่ครบทั้ง 7 ข้อผม(กู)ยังมีผลลัพธ์ขนาดนี้เลย คุณ(มึง)ว่าควรจะไปศึกษาหรือปล่าว
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแบ่งปันมุมมองที่เป็นข้อมูลจากมุมที่ผู้เขียนได้พบมา ที่เป็นทั้งข้อคิดเห็นส่วนตัวและข้อเท็จจริงที่ปฎิเสธ์ไม่ได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้นะครับ
#เรียนรู้อะไรได้บ้างจากประเทศเกาหลีใต้ #มีข้อจำกัดมากมายแต่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ #ระดับโลก
#มองเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ #คนไทยก็ทำได้ #คนไทยทำได้ดีกว่าแน่นอน
FB Page: Thailand Modern Marketing
Blockdit: ยุคใหม่การตลาดของไทย
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง
อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
โหลดที่ http://www.blockdit.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา