“ขโมยของที่คนร้ายลักทรัพย์มา จะมีความผิดหรือไม่?"
ในกรณีที่ทรัพย์สินของเราถูกคนร้ายขโมยไป เราซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินถือว่าเป็น ผู้เสียหาย และมีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายใช่มั้ยครับ แต่เคยคิดกันเล่น ๆ มั้ยครับว่า หากทรัพย์สินของเราที่ถูกขโมยไปนั้นได้ถูกขโมยไปอีกทอดหนึ่ง เจ้าคนที่ขโมยของชิ้นนั้นไปจากคนร้ายจะมีความผิดหรือไม่ (ขโมยของขโมย) เราลองมาดูเรื่องนี้กันครับ
นายโชคชัย เด็กมัธยมเรียนดีสอบได้ที่ 1 ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน นายโชคชัยสอบได้ที่ 1 เหมือนเคย พ่อแม่เห็นลูกตั้งใจเรียนไม่อยากให้นั่งรถเมล์ไปโรงเรียน จึงซื้อรถมอเตอร์ไซค์คันงามให้เป็นของขวัญ
เช้าวันรุ่งขึ้น นายโชคชัย ขี่มอเตอร์ไซค์คันงามไปโรงเรียน เกิดไปสะดุดตานายโชกโชน ขาโจ๋ประจำโรงเรียนและแก๊งเด็กแว้นย่านฝั่งธน นายโชกโชนเมื่อได้เห็นรถคันดังกล่าวก็เกิดชอบใจขึ้นมาทันที จึงวางแผนกับพรรคพวกเพื่อขโมยรถของนายโชคชัย
ในขณะที่นายโชคชัยเลิกเรียนและขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน นายโชกโชนกับพวกก็ได้สะกดรอยตามนายโชคชัยไป จนเมื่อได้จังหวะที่นายโชคชัยแวะซื้อกับข้าวที่ตลาดและจอดรถไว้ข้างทาง นายโชกโชนกับพวกจึงได้ช่วยกันขโมยรถไปได้สำเร็จ
นายโชกโชนได้นำรถมอเตอร์ไซค์ไปปรับแต่งเพื่อนำไปใช้ขี่ซิ่งตามท้องถนนอยู่เป็นระยะเวลาหลายเดือน โดยขณะที่ไม่ได้ขี่ก็จะนำไปจอดไว้ที่บ้านพักของตน ซึ่งที่บ้านหลังดังกล่าวก็เป็นที่ซ่องสุม รวมตัวของกลุ่มเด็กแว้นของนายโชกโชน
นายโชคช่วย ลูกพี่ในแก๊งของนายโชกโชนซึ่งเข้าออกบ้านของนายโชกโชนได้เสมือนเป็นบ้านของตัวเอง เห็นมอเตอร์ไซค์ที่นายโชกโชนขโมยมาจากนายโชคชัยแล้วเกิดชอบใจ จึงได้ฉวยโอกาสตอนที่นายโชกโชนไม่อยู่บ้าน เอารถคันดังกล่าวไปและได้ใช้มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวในการขายยาบ้า จนกระทั่งถูกตำรวจจับพร้อมของกลาง
ซึ่งนอกจากข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว นายโชคช่วยยังถูกแจ้งข้อหาและฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่ง
มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า จะสามารถดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์กับนายโชคช่วยได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่นายโชกโชนไปขโมยมาจากนายโชคชัยอีกทอดหนึ่งมาก่อน ❓❓❓
เรื่องนี้ได้เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้แล้ว ซึ่งสรุปได้ว่า
การที่นายโชคช่วยเอารถมอเตอร์ไซค์ไปจากนายโชกโชนที่ลักทรัพย์มาจากนายโชคชัยอีกต่อหนึ่งโดยทุจริตจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา กล่าวคือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในทางอาญาและละเมิดในทางแพ่ง
เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญา กฎหมายให้เรียกทรัพย์สินหรือราคาคืนแทนผู้เสียหาย (นายโชคชัย) ด้วย หากพนักงานอัยการไม่เรียกให้ ผู้เสียหายก็มีสิทธิที่จะฟ้องทางแพ่งจากผู้ที่ลักทรัพย์ไปได้ เพื่อให้ผู้ลักทรัพย์คืนทรัพย์สินที่ลักไปพร้อมค่าเสียหาย หากไม่สามารถคืนได้อาจเป็นเพราะทรัพย์สินสูญหายหรือบุบสลายเสียหายไปจนใช้การไม่ได้ ผู้ที่ลักทรัพย์ไปก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน คือราคาทรัพย์สินและค่าเสียหาย
ดังนั้นผู้ที่ลักทรัพย์ไปจึงมีสิทธิครอบครองดูแลทรัพย์สินที่ลักไปไว้เพื่อคืนแก่ผู้เสียหายเพราะถ้าทรัพย์สินสูญหายหรือบุบสลายก็จะต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในทางแพ่งดังกล่าว
การที่นายโชคช่วยเอารถจักรยานยนต์ไปจากนายโชกโชนโดยทุจริต แม้เป็นการเอาไปจากการครอบครองของนายโชกโชนที่ลักทรัพย์มาจากนายโชคชัยผู้เสียหายอีกต่อหนึ่ง จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์
(อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 1785/2554)
สรุปก็คือ แม้จะเป็นทรัพย์สินที่คนร้ายได้ขโมยมา หากมีคนขโมยทรัพย์สินนั้นไปอีกทอดหนึ่ง คนขโมยก็ถือว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์เช่นกัน
ถ้าได้ประโยชน์จากบทความนี้ ช่วยกด Like, Share ด้วยนะครับ 😻
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
