“รู้หรือไม่ ลักทรัพย์ตัวเองก็อาจมีความผิดได้ !?”
“ใครมันจะไปขโมยของตัวเอง”
Cr. pixabay
“ถึงเอาไปจริงแล้วจะผิดยังไงในเมื่อมันทรัพย์สินของเขา”
ผู้อ่านหลายท่านคงกำลังคิดอย่างนี้อยู่ในใจ
แต่เชื่อแอดมินเถอะว่าลักทรัพย์ของตัวเองนั้นมีจริง และเมื่อเอาไปแล้วอาจมีความผิดถึงขั้นติดคุกได้ !!!
ก่อนอื่นเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน แอดมิน ขอปูพื้นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความผิดฐานลักทรัพย์ก่อน
การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์นั้น จะต้องประกอบไปด้วย
1. ต้องมีการเอาทรัพย์ไป โดยที่ทรัพย์นั้น
2. เป็นของคนอื่น หรือ
3. ที่คนอื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
4. ต้องมีเจตนาทุจริต
แอดมินอยากให้ผู้อ่านโฟกัสกับข้อ 3.
“ที่คนอื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย”
เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องที่แอดมินจะนำเสนอวันนี้
ลองมาดูตัวอย่างนี้กัน
วาร์ปสิ
‼️คำเตือน : เพื่ออรรถรส กรุณาใส่ทำนองฮิปฮอปประกอบการอ่าน
🎶 แอดพาผู้อ่านมาภาคใต้ของเมืองไทย ด้ามขวามทองอร่าม ทะเลอันดากับฟ้าใส ยังมีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนใจ ไม่เคยห่างไกลแม้ตัวอยู่ห่างกัน 🎵
🎶 พี่บ่าวบี กับพี่หลวงเป็ด เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ บ้านอยู่ติดกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ พอทำงานเสร็จก็มาพบหน้ากัน 🎵
🎶 โตมาทั้งสองพอเก็บเงินได้ และเป็นลูกจ้างคงไม่รวยง่ายๆ จึงลงหุ้นกันไปซื้อจับจ่าย สวนยางมาทำหวังรวยสบายสบาย 🎵
🎶 ทั้งคู่ตกลงกันไว้อย่างนี้ ให้หกเดือนแรกเป็นพี่บ่าวบี เก็บผลผลิตในต้นยางของพี่ ออกขายได้ทีเงินพี่เอาไป 🎵
🎶 ส่วนหกเดือนหลังเป็นพี่หลวงเป็ด กรีดได้เท่าไหร่ไม่ต้องหมกเม็ด เงินของพี่พี่รับเน็ดเน็ด รวยซะเข็ดพี่น้องเป็ดบี 🎵
Cr. pixabay
กลับมาสู่โหมดปกติ.....
แม้ที่ดินจะเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันของทั้งคู่ แต่พี่บ่าวบี และพี่หลวงเป็ดก็ได้ตกลงแบ่งการครอบครองสวนยางกันอย่างชัดเจน
โดยในครึ่งปีแรกพี่บ่าวบีจะเป็นผู้ครอบครองและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นยาง โดยที่พี่หลวงเป็ดจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับที่ดินสวนยางดังกล่าว
ส่วนครึ่งปีหลัง พี่หลวงเป็ดจะเป็นผู้เข้าครอบครองและเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยที่พี่บ่าวบีจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเช่นเดียวกัน
Cr. Thummech.com
แต่จนแล้วจนรอด ปัญหาก็เกิดขึ้น
พี่หลวงเป็ด ติดการพนันงอมแงม
เงินที่ได้จากการขายยางในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาก็ไม่พอใช้ จึงคิดจะไปเอาน้ำยางจากสวนยางมาขาย
ทั้งที่ตอนนี้สิทธิในการครอบครองสวนยางและน้ำยางต้องเป็นของพี่บ่าวบีตามที่ได้ตกลงกันไว้
พี่หลวงเป็ด จึงได้จ้างนายอ๊อด เด็กในสังกัด ให้ไปกรีดยางในสวนยางดังกล่าวเพื่อเอามาขาย
นายอ๊อดเข้าไปกรีดยางได้พอสมควร แต่ไม่ทันจะขนน้ำยางออกไปจากสวน ก็ถูกพี่บ่าวบีจับได้และส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เรื่องนี้พี่หลวงเป็ด สู้ขาดใจ เพราะเอาน้ำยางจากสวนของตัวเองจะผิดได้ยังไง
ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาออกมาอย่างนี้ครับ
"แม้จำเลยและผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมในสวนยางพาราที่เกิดเหตุ แต่ก่อนเกิดเหตุจำเลยยอมให้ผู้เสียหายครอบครองและได้ประโยชน์เพียงผู้เดียว
การที่จำเลยจ้างนายอ๊อดเข้าไปกรีดยางพาราจะเอาน้ำยางพาราไปเพียงผู้เดียว จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง ย่อมเป็นการทุจริตแล้ว
เมื่อน้ำยางพาราที่กรีดยังอยู่ในถ้วยรองน้ำยางยังไม่ได้ถูกนำไป จึงเป็นการพยายามกระทำความผิดฐานลักทรัพย์"
(อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 3142/2557)
📌 สรุปของเรื่องนี้ อยู่ที่คำว่า
“การครอบครอง” เพราะการลักทรัพย์เป็นการ “ทำลาย” การครอบครองของคนที่ครอบครองทรัพย์นั้น
ดังนั้น แม้จะเป็นเจ้าของรวมในทรัพย์สินเดียวกัน แต่ถ้าการครอบครองได้แบ่งกันเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน
การที่เจ้าของรวมคนหนึ่งเอาทรัพย์ไปจากเจ้าของรวมที่ครอบครองทรัพย์นั้น ก็เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้
ส่วนพี่หลวงเป็ดของเราเลยต้องรับประทานแห้วไปอีกปี โธ่........ไม่น่าเลย 🦆🦆🦆
Cr. pantip.com
ขอบคุณภาพจาก pixabay
ถ้าได้ประโยชน์จากบทความนี้ ช่วยกด Like, Share ด้วยนะครับ 😻
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
