"เมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับรถด้วยความเร็วสูงไม่จำเป็นต้องผิดเสมอไป"
ถ้าอ่านหัวข้อของบทความนี้แล้วขอผู้อ่านได้โปรดอย่าเข้าใจผิด แอดมินไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้คนขับรถเร็วแต่อย่างใด
Cr. pixabay
เพียงแต่อยากให้ผู้อ่านได้เห็นมุมมองของกฎหมายที่คนทั่วไปอาจมองข้าม หรือเข้าใจผิดมาโดยตลอด
แน่นอนว่าการขับรถด้วยความเร็วสูงย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าขับด้วยความเร็วปกติ
แต่ในบางเหตุการณ์คนที่ขับรถเร็วก็ไม่ได้เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุเสมอไป
ลองมาดูตัวอย่างนี้กันครับ
พี่สิงห์มีอาชีพขับรถบรรทุกสิบล้อและรถพ่วง มีประสบการณ์ขับรถมากกว่า 20 ปี น้อง ๆ ในวงการรถพ่วงต่างนับถือพี่สิงห์เป็นพี่ใหญ่ของวงการ
Cr. pixabay
ในวันเกิดเหตุ พี่สิงห์ได้ขับรถบรรทุกพ่วง
ไปรับสินค้าจากท่าเรือคลองเตยเพื่อนำไปส่งให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณถนนมิตรภาพ จังหวัดสระบุรี
พี่สิงห์ค่อนข้างคุ้นเคยกับเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากได้ขับรถส่งของบนถนนเส้นนี้มาหลายปีแล้ว ทำให้มีความชำนาญและสามารถจดจำเส้นทางได้เป็นอย่างดี
ด้วยความที่คุ้นเคยกับเส้นทาง ทำให้พี่สิงห์ตัดสินใจที่จะขับรถด้วยความเร็วมากกว่าปกติ และเพื่อจะแซงรถบรรทุกคันอื่นที่ขับช้าบริเวณเลนซ้ายสุดของถนน
เหมือนเบื้องบนจะเขียนบทมาให้พี่สิงห์ต้องตกที่นั่งลำบาก ระหว่างที่พี่สิงห์กำลังขับรถด้วยความเร็วสูงอยู่บนเลนกลางของถนนนั้น
น้องสายเสมอ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต ซึ่งกำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนเลนขวาสุดเพื่อเตรียมตัวกลับรถในช่องทางกลับรถบริเวณเกาะกลางถนนเพื่อไปเรียนภาคบ่าย
Cr. pixabay
ด้วยความที่น้องสายเสมอ ขับรถเป็นอย่างเดียว แถมไม่เคยตรวจเช็คสภาพรถมาก่อน ได้ขับรถมาด้วยความเร็วสูงเนื่องจากกลัวจะไปเรียนไม่ทัน
และเมื่อใกล้ถึงจุดกลับรถ น้องสายเสมอได้
เหยีบบเบรคกระทันหัน ทำให้รถของน้องสายเสมอสะบัดหมุนมายังเลนกลางที่พี่สิงห์กำลังขับรถพ่วงมาด้วยความเร็วสูง
พี่สิงห์ไม่สามารถเบรครถพ่วงได้ทัน เนื่องจากกระทันหันเกินไป จึงทำให้รถพ่วงของพี่สิงห์ชนกับรถยนต์ของน้องสายเสมอเข้าอย่างจัง
ผลจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้น้องสายเสมอเสียชีวิตทันที ส่วนพี่สิงห์ถูกดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
Cr. pixabay
ส่วนศาลท่านจะตัดสินออกมายังไง ลองมาดูกันครับ
"แม้จำเลยจะขับรถบรรทุกสิบล้อและรถพ่วงด้วยความเร็วสูง แต่จำเลยขับรถในทางเดินรถของตนโดยถูกต้อง
ส่วนผู้ตาย มิได้จอดรถเพื่อรอกลับรถในช่องกลับรถอย่างในภาวะปกติธรรมดา
หากแต่เป็นเพราะรถที่ผู้ตายขับเกิดเสียการทรงตัวแล้วหมุนเข้าไปในทางเดินรถของจำเลยและขวางรถที่จำเลยขับในระยะกระชั้นชิด
ในภาวะเช่นนั้นไม่ว่าจำเลยจะขับมาในลักษณะเช่นใดจำเลยย่อมไม่อาจจะหลบหลีกเพื่อมิให้ชนกับรถที่ผู้ตายขับได้
ดังนั้น การที่จำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อและรถพ่วงด้วยความเร็วสูงและไม่ขับให้อยู่ในช่องเดินรถด้านซ้ายจึงมิใช่เป็นผลโดยตรงที่ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกัน
จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทและกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย"
ศาลพิพากษายกฟ้อง
(อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 4883/2553)
📌 เรื่องนี้สรุปได้ว่า พี่สิงห์รอดตัวไม่ต้องติดคุก เนื่องจากศาลท่านมองว่าการที่พี่สิงห์ขับรถพ่วงมาด้วยความเร็วสูง ไม่ใช่
"ผลโดยตรง" ของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
ไม่อย่างงั้นพี่สิงห์ของเรา คงได้เปลี่ยนชื่อเป็นน้องเหมียวก็งานนี้แหละครับ 😿
Cr. pixabay
ขอบคุณภาพจาก pixabay
ถ้าได้ประโยชน์จากบทความนี้ ช่วยกด Like, Share ด้วยนะครับ 😻
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
