3 ส.ค. 2019 เวลา 16:20 • ปรัชญา
”Master the art of Time Management”
วิธีบริหารเวลา แบบผู้ประสบความสำเร็จ
1
Time Management หรือ วิธีบริหารเวลา ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
หากจะพูดถึงทรัพยากรที่เราทุกคนที่มีเท่ากันก็คือเวลา ไม่ว่าจะจนหรือรวย จะมีชื่อเสียงเพียงใด แต่ทุกคนต่างมี 86400 วินาที ที่เท่ากันในแต่ละวัน
ซึ่งเวลาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถถ่ายโอน ยืมมาใช้ หรือ ย้อนคืนมาได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรรู้วิธีการบริหารจัดการเวลา
เพื่อให้เราสามารถใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละวัน
1.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
สาเหตุที่คนเราไม่ได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากขาดเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละวัน
จะเห็นว่าคนส่วนมากมักจะมีพฤติกรรมแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย เช่น การเล่นมือถือ หรือ ดูซีรี่เวลาว่างซึ่งเวลาส่วนมากเสียไปกับสิ่งที่ไม่มีสาระ และ ไม่ได้ก่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง
ในทางกลับกัน เราจะสังเกตว่าพฤติกรรมที่สำคัญของเหล่าผู้ที่ประสบความสำเร็จคือ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ในระยะยาว ระยะกลาง และ ระยะสั้น ทำให้เขาเหล่านั้นสามารถใช้เวลาสำหรับสิ่งที่สำคัญได้อย่างดีเยี่ยม
การตั้งเป้าหมายจึงเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ชี้ทางให้รู้ว่าชีวิตเราควรทำอะไร เวลาไหน ใช้เวลามากน้อยเพียงใด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
2.จัดลำดับความสำคัญ
เนื่องจากเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่คนเรามีสิ่งที่ต้องทำอยู่หลายสิ่งในแต่ละวัน ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้เวลากับงานแต่ละงานได้อย่างเหมาะสม
การจัดลำดับความสำคัญเบื้องต้นที่นิยมใช้กัน คือการแบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่ม ตามความสำคัญ และ ความเร่งด่วน
1.Important & Urgent
สิ่งที่จำเป็นและควรทำเป็นอันดับแรก ได้แก่ งานที่ทำงาน การจ่ายบิล ปัญหาสุขภาพที่เร่งด่วน
2.Important & Not urgent
สิ่งที่ควรทำเป็นลำดับต่อมารองจากข้อ 1 ได้แก่ การวางแผนชีวิต การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การวางแผนการเงิน การออกกำลังกายดูแลสุขภาพตนเอง
3.Not important & Urgent
สิ่งที่ไม่ได้สำคัญ แต่ควรรีบจัดการให้เสร็จ ได้แก่ การโทรศัพท์ การตอบอีเมล การตอบไลน์ การวางแผนท่องเที่ยว
4.Not important & Not urgent
เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปกับมัน ได้แก่ การเล่นเกม ดูซีรี่ เล่นมือถือ
3.เข้าใจความสัมพันธ์ของเงินและเวลา
หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่าเวลาสามารถซื้อขายได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความลับของคนที่ประสบความเร็จคือการใช้เงินเพื่อซื้อเวลาคนอื่น
วิธีการคือการจ้างให้คนอื่นมาทำในสิ่งที่เป็นงานประจำที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การทำความสะอาด การซื้อของ การทำอาหาร รวมไปจนถึง การขับรถ เพื่อให้พวกเขามีเวลาสำหรับใช้ทำงานในสิ่งที่สำคัญมากกกว่า
หลักการนี้แสดงให้เห็นว่าเงินที่เราได้รับขึ้นกับทักษะ และ ความสามารถของเรา ที่มีคนยอมจ่ายเงินเพื่อแลกมันมา
4.สร้างวินัยยามเช้า
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมักตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 ถึง 6 โมงเช้า
ประโยชน์ของการตื่นเช้าคือทำให้เรามีเวลามากกว่าคนทั่วไป และ เป็นเวลาที่สมองของเราสดชื่นที่สุด
วิธีสร้างวินัยยามเช้าที่แนะนำคือ แบ่งเวลาตอนเช้าเป็น 3 ส่วน
– 20 นาทีแรกที่ลุกจากเตียง ให้เริ่มออกกำลังกายง่ายๆ ทันที ไม่ว่าจะเป็น push up, squat, sit up ประโยชน์ที่ได้คือเลือดมีการไหลเวียนมากขึ้นทำให้ร่างกายสดชื่น อาการง่วงนอนหายไป
– 20 นาทีต่อมา ให้เริ่มเรียนรู้ในสิ่งที่น่าสนใจและเป็นการพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ, ฟัง podcast หรือ เรียนรู้จากสื่อออนไลน์อื่นๆ ประโยชน์ที่ได้คือทำให้เรามีการพัฒนาตนเองนำหน้าคนทั่วไป ในเวลาที่คนทั่วไปกำลังนอนหลับอยู่
– 20 นาทีสุดท้าย สำหรับทบทวนแผน Checklist ที่ต้องทำในวันนี้ ประโยชน์ที่ได้คือทำให้เรารู้ว่าวันนี้ต้องทำอะไร เพื่อให้เราสามารถจัดการเวลาได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเริ่มสร้างวินัยยามเช้าคือ ทำซ้ำๆ ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ให้เกิดเป็นนิสัย
สาเหตุที่คนส่วนมากล้มเหลวล้วนมาจากพวกเขาไม่มีวินัยเพียงพอที่จะคงพฤติกรรมเหล่านี้ไว้จนเกิดเป็นนิสัย
คนส่วนมากมักล้มเหลว เพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดวินัยที่จะพัฒนาตนเองอย่าสม่ำเสมอ
5.สร้างวินัยก่อนนอน
ก่อนนอนถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นกัน คนส่วนมากมักมีพฤติกรรมนอนเล่นมือถือบนเตียงโดยใช้เวลาอย่างไม่สามารถควบคุมตนเองได้ และมักจบลงด้วยการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้อีกวันไม่สดชื่น
วิธีที่เหมาะสมสำหรับการสร้างวินัยก่อนนอนคือ
– วางแผน Checklist สิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ล่วงหน้า
– เลิกเล่นมือถือก่อนนอน เพื่อเป็นการขจัดสิ่งรบกวนการนอนหลับ และ ไม่ให้เสียเวลาอย่างควบคุมไม่ได้
– นั่งสมาธิก่อนนอน ประโยชน์ของการทำสมาธิคือทำให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน และ เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้มีสมาธิมากขึ้น
– ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เนื่องจากปัจจุบันคนเราส่วนมากมีการใช้ร่างกายอย่างหนัก ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็น Office syndrome ดังนั้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนนอนจึงเป็นการทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และ ทำให้การนอนของเรามีคุณภาพมากขึ้น
6.เสริมสร้างความสำเร็จด้วยกฏ 2 นาที
“2 Minute rule” หรือ “กฏ 2 นาที” เป็นกฏที่ผมชอบมาก และ อยากแนะนำให้ทุกคนได้ใช้
กฏนี้กล่าวว่าหากมีสิ่งเราไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำ ให้เราบอกตัวเองว่าเราจะทำมันเพียง 2 นาที และ หากครบ 2 นาที แล้วเราไม่อยากทำต่อ ให้เราเลิกที่จะทำต่อได้
ยกตัวอย่างเช่น เราไม่อยากซ้อมดนตรี ก็ให้คิดว่าเราจะซ้อมเพียง 2 นาทีเท่านั้น หรือ หากเรามีหนังสือต้องเขียนให้เสร็จ ก็ให้คิดว่าเราจะเขียนหนังสือเพิ่มเพียง 2 นาทีเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อเราได้เริ่มทำไปแล้ว เราจะสามารถมีสมาธิกับงานของเราได้มากขึ้น และ ในความเป็นจริงคือเราจะสามารถทำมันได้นานกว่า 2 นาที
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับการทำอะไรก็ตามคือการเริ่มต้นที่จะทำ เพราะเวลาที่เราได้เริ่มทำอะไรไปแล้ว มันจะก่อให้เกิด momentum ที่ทำให้เราสามารถทำงานได้นานขึ้น
ผลสุดท้ายคือเราสามารถสร้างผลลัพธ์แม้จะไม่มากแต่ดีกว่าการไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย
ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับการทำอะไรก็ตามคือการเริ่มต้นที่จะทำ
บทความนี้เป็นบทความแรกของผมที่เขียนในเชิง Self Development เกี่ยวกับมุมมองการบริหารจัดการเวลา
ฝากติดตามผลงานต่อๆ ไปด้วยครับ
สามารถติดตามผลงานได้ทาง
Blockdit : elitetopedia
Facebook: elitetopedia
ขอบคุณครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา