หรือเราจะกลับไปไม่ได้แล้ว??
จากสุนัขลากเลื่อนกลายเป็นสุนัขลากแพ 😰
ที่เห็นไม่ใช่สุนัขลากเลื่อนกับแพวิเศษที่สามารถวิ่งอยู่บนน้ำได้ แต่พวกมันกำลังวิ่งอยู่บนแผ่นน้ำแข็งซึ่งกำลังละลายที่กรีนแลนด์ Cr: Steffen M. Olcen/DMI/RT
จริงๆมีคนเขียนไปแล้วแต่ขอเขียนอีก เพราะเป็นวาระเร่งด่วนของมนุษยชาติ
ไฟป่าที่ไซบีเรียที่สามารถมองเห็นควันไฟป่าได้จากนอกโลก
ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีแต่ข่าวน่ากังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ตั้งแต่คลื่นความร้อนถล่มยุโรป อลาสก้าร้อนทำลายสถิติ เหตุไฟป่าในบริเวณ Arctic Circle
อลาสการ้อนปรอทแตก ทุบสถิติเป็นประวัติการณ์
มาวันนี้ได้เห็นคลิปน่าตกตะลึงของเหล่าสุนัขลากเลื่อนที่ต้องวิ่งลุยน้ำไปบนพื้นน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ เห็นแล้วหนาวเลยครับ โลกเรานี่ อาการหนักแล้ว 😱
อยากรู้ว่าน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายหนักมากขนาดไหนก็ลองดูคลิปด้านบนก็ได้ครับ เราไม่ใช่คนแถวนั้นก็อาจจะคิดว่า ก็แล้วยังไงก็แค่น้ำเชี่ยว
แต่ผู้เฒ่าผู้แก่แถวนั้นเห็นอาจจะช๊อคได้เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น
กราฟแสดงถึงอัตราการละลายในเดือนกรกฎาที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ พุ่งทะลุชาร์ตไปอย่างน่าสยดสยอง, Cr: CNN
บางคนอาจคิดว่าเพ้อเจ้อเดี๋ยวหน้าหนาวมันก็เย็นกลับมาเป็นน้ำแข็งใหม่เองแหละ แต่รู้อะไรไหมครับตอนนี้น้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ก็กำลังละลายอยู่แม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวของซีกโลกใต้
นักวิทยาศาสตร์กำลังงุนงงและหาคำตอบว่าเป็นเพราะอะไร หนึ่งในคำอธิบายอาจเป็นเพราะกระที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการไหลของกระแสน้ำอุ่น
น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือและกรีนแลนด์ละลายเยอะแล้วจะยังไง ??
แผ่นน้ำแข็งมีความสามารถในการสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์กลับสู่นอกโลกกว่า 90%ในขณะที่น้ำทะเลสะท้อนกลับไปได้เพียงแค่ 6%, Cr: ClimateCuriosity.com
แผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้จะทำหน้าที่เป็นเกราะสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์กลับสู่อวกาศ เมื่อเสียน้ำแข็งไปโลกก็จะเก็บอมความร้อนจากดวงอาทิตย์มากขึ้น โลกก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆน้ำแข็งจะละลายเร็วขึ้นเรื่อยๆเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปสู่ความหายนะของระบบนิเวศน์นั่นเอง
กรีนแลนด์สูญเสียความสามารถในการสะท้อนความร้อนกลับสู่นอกโลก โดยตั้งแต่ปี 2000 ความสามารถในการสะท้อนความร้อนลดลงจาก 81% เหลือ 76%
จากเหตุการณ์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พอจะคาดได้ว่าด้วยอุณหภูมิบรรยากาศที่สูงขึ้นเป็นเหตุให้เกิดไฟป่าเยอะผิดปกติในบริเวณที่ไม่เคยเกิดมาก่อน เช่น ไซบีเรีย
ซึ่งไฟป่ายังคาดว่าจะลุกลามไปถึงบริเวณดินที่มีถ่านพีท ซึ่งจะปลดปล่อยความร้อนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศอย่างมหาศาล
จากข่าวการละลายอย่างหนักของน้ำแข็งในบริเวณ Arctic Circle ก็ได้ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นแล้ว 0.5 มิลลิเมตรและคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 1 มิลลิเมตรตอนปลายปี อาจจะฟังดูเล็กน้อย แต่เดี๋ยวปีหน้ามาตามดูกันต่อ
Cr: Nancy Nehring/ iStock
ทั้งนี้ก็ยังมีคนอีกส่วนนึงเชื่อว่ามันเป็นเพียง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นวัฏจักร สายรักษ์โลกนอยย์กันไปเอง
ลองเข้าไปดูเขาหาคำอธิบาย เรื่อง Heat Wave ที่กำลังไล่ถล่มซีกโลกเหนือกัน
ผมว่าเราคงต้องเริ่มทำอะไรกันบ้างแล้วหละ แม้ว่ามันอาจจะ "คงไม่ทัน" รู้ครับว่าทุกคนมีเรื่องให้คิดให้ยุ่งมากกว่ามารักษ์โลก เริ่มจากปรับพฤติกรรมที่ไม่ลำบากตัวเราและช่วยประหยัดก่อน เช่น ซื้อกาแฟสดก็เอาแก้วไปเองได้ส่วนลดด้วย 😉
บางทีกว่าเราจะรู้ตัวว่าเราได้ผ่านจุดที่ย้อนกลับไปไม่ได้แล้วก็คงจะสายเกินไป และวันนี้เราก็อาจจะผ่านจุดนั้นมาแล้วก็ได้ ขอให้โชคดีนะทุกคน 😔
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
