13 ส.ค. 2019 เวลา 04:44 • สุขภาพ
อาการคันเป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุ โดยปกติมักเกิดจากโรคผิวหนังเป็นหลัก และส่วนน้อยเกิดจากระบบอื่นของร่างกาย
1
เมื่อมีอาการคันเกิดขึ้นสิ่งแรกที่ต้องสังเกตคือ มีรอยโรค เช่น ผื่นแดง ตุ่มน้ำ หรือขุยลอกหรือไม่ หากมีรอยโรคที่ผิวหนังควรให้แพทย์วินิจฉัยถึงสาเหตุความเป็นไปได้ของโรค แต่หากไม่มีรอยโรคที่จำเพาะก็อาจเกิดจากระบบอื่นของร่างกาย
สาเหตุของอาการคันที่พบได้บ่อย
1.โรคผิวหนัง
-หิด (scabies) โรคติดต่อทางผิวหนังที่เกิดจากตัวหิด ไรชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บนผิวของมนุษย์ อาการคันรุนแรงและมีตุ่มผื่นแดงขึ้นเป็นจุด มักจะคันจากที่หนึ่งแล้วกระจายไปบริเวณอื่น ๆ เป็นมากที่รักแร้สะดือ อวัยวะเพศ
-ผื่นแพ้แมลง มักเกิดขึ้นหลังโดนแมลงกัดต่อย เนื่องจากพิษของแมลงทำให้เกิดผื่นขึ้นมักพบนอกร่มผ้า แขนขา เป็นต้น
-ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นผื่นเป็นๆหายๆ มักพบในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้เดิม ผื่นมักจะแดงคันร่วมกับผิวแห้ง
-ผื่นแพ้สัมผัส เกิดขึ้นหลังจากสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอม เช่น สารเคมี
-ลมพิษ ผื่นแดงนูน ขอบเขตไม่ชัดเจน อาจมีอาการบวมร่วมด้วย
2
2.โรคระบบอื่นๆของร่างกาย
-ไตวายเรื้อรัง
-ท่อน้ำดีอุดตัน
-โรคไทรอยด์
-โรคเบาหวาน
-โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
-โรคไขกระดูกมีความผิดปกติ
-อื่นๆ
3.ผลข้างเคียงของยา (ไม่ใช่อาการแพ้ยา)
-แอสไพริน
-ยาแก้ปวดมอร์ฟีน โคเดอีน
-ฮอร์โมนทดแทน
-วิตามินบีรวม
เมื่อมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค เนื่องจากหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะทำให้ผู้ป่วยเกาจนเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังตามมาได้
อาการที่ควรส่งต่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แก่
1.คันร่วมกับความผิดปกติที่ระบบอื่น ไข้สูง ซึม
2.อาการคันจากลมพิษรุนแรงที่มีอาการบวมร่วมด้วย
เอกสารอ้างอิง
Dermatology. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย.
โฆษณา