Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อมร ทองสุก
•
ติดตาม
14 ส.ค. 2019 เวลา 03:24 • ปรัชญา
ขงจื่อ
ตอนที่ 17
ประสบเคราะห์กรรมที่เมืองเฉินและไช่
เมื่อปีก่อนคริสตศักราชที่ 489 ขณะนั้นขงจื่อมีอายุ 63 ปี เนื่องจากเจ้าแคว้นฉู่คือฉู่เจาหวังทรงมีพระประสงค์ที่จะเรียกขงจื่อเข้าเฝ้าเพื่อถวายข้อราชการ ในระหว่างที่ท่านกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังแคว้นฉู่จะต้องผ่านแคว้นเฉินและแคว้นไช่ ครั้นทางเจ้าแคว้นเฉินและไช่ได้ทรงทราบข่าวที่ฉู่เจาหวังทรงเรียกขงจื่อเข้าพบ ทั้งสองพระองค์ก็ทรงวิตกว่าหากขงจื่อได้มีโอกาสช่วยราชการฉู่เจาหวังจริง เมื่อนั้นแคว้นฉู่ก็จะมีความแข็งแกร่งจนกระทั่งเป็นภัยคุกคามแก่แคว้นเฉินและแคว้นไช่ในที่สุด ดังนั้นสองเจ้าแคว้นจึงทรงสั่งให้ยกทัพมาสกัดคณะขงจื่ออย่างพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ปรากฏว่าขงจื่อและเหล่าลูกศิษย์ต้องถูกห้อมล้อมอยู่ท่ามกลางสองกองทัพและขาดเสบียงอาหารเป็นเวลานานถึง 7 วัน ยังดีที่ขงจื่อได้สั่งให้จื่อก้งลอบส่งข่าวให้ฉู่เจาหวังได้ทรงทราบ ดังนั้นทางแคว้นฉู่จึงได้จัดกองกำลังเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ขงจื่อได้สำเร็จ
แต่ในระหว่างที่ทุกคนต่างหิวโหยอิดโรยจนล้มป่วยไปตาม ๆ กันนั้น ขงจื่อได้พยายามดีดพิณบรรเลงเพลงปลอบใจเหล่าลูกศิษย์ด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ขณะเดียวกันท่านก็รู้ว่าเหล่าลูกศิษย์มีความขุ่นเคืองอยู่ภายในใจ จึงเรียกจื่อลู่เข้าพบแล้วถามว่า “เราไม่ใช่วัวไม่ใช่เสือ แต่กลับต้องมาโลดแล่นบนท้องทุ่ง หรือว่ามรรคาของเราผิดไปแล้วอย่างนั้นหรือ? เหตุไฉนเราจึงต้องประสบกับชะตากรรมเช่นนี้ด้วย?”
1
ครั้นจื่อลู่ซึ่งมีนิสัยบุ่มบ่ามได้ฟังก็กล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจว่า “ผู้ทรงความเมตตาธรรมไม่มีทางอับจนอย่างแน่นอน เหตุที่เราเป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะท่านอาจารย์ยังไม่บรรลุสู่ภาวะแห่งเมตตาธรรมกระมัง ดังนั้นคนอื่นจึงไม่ยอมเชื่อมั่นในพวกเรา หรืออาจเป็นเพราะท่านอาจารย์ยังไม่บรรลุสู่ปัญญาธรรมกระมัง ดังนั้นผู้คนจึงไม่ยอมให้เราเดินหน้า ศิษย์เคยได้ยินท่านอาจารย์กล่าวว่า คนที่ทำดีฟ้าย่อมเป็นใจ คนที่ทำชั่วฟ้าย่อมประทานภัย บัดนี้อาจารย์ก็เจริญบ่มเพาะในคุณธรรมมาช้านาน แต่ไฉนจึงยังต้องอับจนเช่นนี้อีกเล่า?”
ขงจื่อเห็นจื่อลู่เริ่มมีความสับสน จึงชี้แนะขึ้นว่า “จื่อลู่เอ๋ย แสดงว่าเจ้ายังไม่เข้าใจ อาจารย์จะขออธิบายให้เจ้าฟังเอง เจ้ากล่าวว่าผู้มีเมตตาธรรมจึงจะเป็นที่ยอมรับของผู้คน ถ้าเช่นนั้นป๋ออี๋และสูฉีผู้ทรงความเมตตาธรรมในอดีตก็คงไม่ต้องอดตายที่ภูเขาโส่วหยางซัน เจ้าเข้าใจว่าผู้ทรงปัญญาธรรมจะต้องเป็นที่ยอมรับของเหล่าเจ้าแคว้น ถ้าเช่นนั้นเจ้าชายปี่กันก็คงจะไม่ถูกลงโทษให้ควักหัวใจ เจ้ากล่าวว่าผู้มีความจงรักภักดีจะต้องได้รับผลดี ถ้าเช่นนั้นกวนหลงเฝิงก็คงจะไม่ถูกสังหาร เจ้าเข้าใจว่าคนที่กล้าทัดทานแล้วจะต้องมีคนรับฟัง ถ้าอย่างนั้นอู๋จื่อซวีก็คงไม่ถูกประหาร จึงเห็นได้ว่า คนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ใช่ว่าจะต้องได้รับผลที่ดีเสมอไป แต่ทว่า แม้นดอกกล้วยไม้ป่าจะอยู่ท่ามกลางหุบเขาลึกโดยไม่มีผู้คนมาดอมดม แต่มันก็หาได้เคยหยุดส่งกลิ่นหอมไม่ ฉันใด อันปราชญ์วิญญูแม้นจะไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คน แต่เขาก็จะไม่ยอมลดการฝึกฝนบ่มเพาะคุณธรรมความดีลงเลย ฉันนั้น” ครั้นจื่อลู่ได้ฟังก็มีความเข้าใจกระจ่างแจ้ง จึงกล่าวขอบพระคุณแล้วอำลาจากไป
ขงจื่อได้เรียกจื่อก้งเข้าพบในลำดับถัดไปแล้วยังคงถามคำถามเช่นเดิมอีก
จื่อก้งตอบว่า “มรรคาของท่านอาจารย์ลุ่มลึกสูงใหญ่จนเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าถึง จึงอยากจะขอให้ท่านอาจารย์ลดระดับลงสักหน่อยก็คงจะดี”
1
ครั้นขงจื่อได้ฟังก็กล่าวว่า “จื่อก้งเอ๋ย ชาวนาที่เก่งกาจก็ใช่ว่าจะต้องได้รับผลผลิตที่ดีเสมอไป ช่างฝีมือที่ชำนาญก็ใช่ว่าจะประดิษฐ์สิ่งของได้ถูกใจทุกคนได้ตลอดกาล สำหรับวิญญูผู้ทรงธรรมก็เช่นกัน แม้นเขาจะมีคุณธรรมอันดีเลิศเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเป็นที่ยอมรับได้เสมอไป จื่อก้งเอ๋ย เป็นเพราะเจ้ามีอุดมการณ์ที่คับแคบเกินไป ความคิดของเจ้ายังไม่มีความลุ่มลึกพอต่างหาก” ครั้นจื่อก้งได้ฟังก็รู้ตัวว่าได้พลั้งผิดไป จึงกล่าวขอบพระคุณแล้วอำลาจากไป
ต่อมาขงจื่อได้เรียกศิษย์รักเหยียนหุยเข้าพบแล้วถามคำถามเช่นเดิม เหยียนหุยตอบว่า “มรรคาของท่านอาจารย์นั้นยิ่งใหญ่ลุ่มลึกจนไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนในใต้หล้า แต่แม้นจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยลดความพยายามที่จะผลักดันเมตตาธรรมอย่างสุดกำลังความสามารถ การที่ชาวโลกไม่ยอมรับท่าน จึงนับว่าเป็นความอัปยศของเหล่าเจ้าแคว้นเสียมากกว่า หาใช่ความผิดของท่านอาจารย์ไม่ และก็เพราะไม่เป็นที่ยอมรับของคนในใต้หล้านี้นี่เอง จึงยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นวิญญูแห่งท่านอาจารย์ได้มากยิ่งขึ้น”
ครั้นขงจื่อฟังแล้วก็กล่าวขึ้นด้วยความดีใจว่า “เหยียนหุยเอ๋ย หากเจ้ามียศฐาบรรดาศักดิ์ อาจารย์ยินดีที่จะอยู่ช่วยงานให้กับเจ้า”
เรื่องราวข้างต้นเป็นบทความที่มีปรากฏอยู่ในขงจื่อเจียอวี่ (孔子家語) ซึ่งความจริงก็ได้สะท้อนคำสอนของขงจื่อข้อหนึ่งที่ว่า “วิญญูชนจะมั่นคงแม้นต้องอับจน ส่วนทุรชนจะก่อกรรมทำเข็ญเมื่ออยู่ในความอับจน” ในท่ามกลางสภาวะอันเลวร้าย ความจริงก็เป็นบททดสอบดูความหนักแน่นในคุณธรรมความดีได้เป็นอย่างดี ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟฉันใด คุณธรรมอันเจิดจรัสก็ย่อมไม่แพ้พ่ายต่อการทดสอบฉันนั้น
1
3 บันทึก
5
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขงจื่อ
3
5
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย