17 ส.ค. 2019 เวลา 11:36 • ธุรกิจ
อยากจะขายของออนไลน์มีอะไรที่ต้องรู้ก่อน?
ตอนที่ 6
เมื่อได้รู้ช่องทางการนำเสนอว่ามีอะไรบ้างแล้ว มีรูปแบบอะไรบ้างที่เหมาะกับเราในการทำตลาดออนไลน์ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เราจะพิจารณาจากเครื่องมือใดได้บ้าง
Source : 5 Force model by Michael E. Porter
เพื่อให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการคิดเครื่องมือในการทำงานและสามารถสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อทำให้กระขบวนการทำงานไหลลื่นสามารถเพิ่มคานผ่อนแรงหรือพลังทวีคูณได้ (Leverage Power) การใช้เครื่องมือการตลาดที่ทั่วโลกให้การยอมรับแล้วและได้รับการพิสูจน์ผลลัพธ์มาเรียบร้อย จึงเป็นหนทางที่มีความรวดเร็วและทำงานได้เข้าเป้ามากขึ้น
โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า การวิเคราะห์แรงผลักดัน 5 ประการ โดย Michael E. Porter หรือ Porter's Five Forces Framework โดยมีหัวข้อดังนี้
1. อำนาจการต่อรองของเจ้าของสินค้าหรือผู้ผลิต (The Bargaining of Suppliers)
2. อำนาจการต่อรองของผู้ซื้อหรือลูกค้า (The Bargaining of Buyers of Customers)
3. สินค้าหรือบริการทดแทน (Threat of substitute products or services)
4. การเข้าสู่ธุรกิจของคู่แข่งรายใหม่ (Barrier of New Entrances)
5. คู่แข่งในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน (Rivalry among Current Competitors or existing firms)
วิธีการเบื้องต้นในการวิเคราะห์ตลาดออนไลน์ คือ
1. เจ้าของสินค้าหรือผู้ผลิตมีอำนาจการต่อรองไม่มาก
2. ลูกค้าหรือผู้ซื้อมีอำนาจการต่อรองไม่มาก
3. มีสินค้าที่สามารถทดแทนได้น้อยหรือไม่มีได้ยิ่งดี
4. เป็นธุรกิจที่รายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยาก
5. การแข่งขันไม่รุนแรง
6. เป็นช่องทางที่สามารถทำตลาดได้คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น Digital marketing หรือ Market place และต้องสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จำนวนมหาศาล
หากมีครบทั้ง 6 ข้อถือว่าเป็นตลาดที่น่าลงทุน ซึ่งต้องพิจารณาร่วมกับขนาดตลาดด้วย ผู้เขียนมั่นใจว่าตลาดที่มีขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ายังมีโอกาสมากมายสำหรับคนที่มองหาโอกาส
เราอาจจะใช้การให้น้ำหนักเป็นคะแนนหรือร้อยละของแต่ละหัวข้อก็ได้ เช่น อาจจะให้ทุกข้อๆละ 20 คะแนน หากผลรวมมากกว่า 80% เราจะลงทุนในตลาดนั้นๆ หรือ คะแนนเต็ม 100 แต่ทว่าขนาดตลาดเล็กมากอัตราการเติบโตต่ำ เราก็อาจจะเลือกไปลงทุนในตลาดที่ได้ผลรวมคะแนนที่ 50 ก็ได้ เป็นต้น
อีกเครื่องมือที่สำคัญที่ผู้เขียนขอแนะนำคือ 4 สาเหตุหลักมาในการวิเคราะห์ตลาด ที่มีมีการแบ่งปันแทรกในแต่ละตอนไว้เรื่อยๆ คือ
1. ผู้ซื้อมีปัญหาหรือมีโอกาสที่ใหญ่พอหรือไม่
2. ผู้ซื้อเป็นเจ้าของปัญหาหรือไม่
3. ผู้ซื้อรู้สึกไม่พอใจกับสินค้าที่อยู่ในปัจจุปัน
4. ผู้ซื้อเชื่อมั่นในตัวเราหรือไม่
แน่นอนว่าวิธีการนี้ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดที่เราจะตัดสินใจ เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่มีคนคิดค้นไว้ให้เราเอามาใช้ฟรีๆแล้วทำให้เรามีแกนในการตัดสินใจ เพราะบางครั้งการทำตลาดหลายๆคนและหลายครั้งก็ไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้เลยแต่ก็ประสบความสำเร็จก็มี
FB Page: Thailand Modern Marketing
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง
อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
โหลดที่ http://www.blockdit.com
โฆษณา