Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MidnMarry
•
ติดตาม
28 ส.ค. 2019 เวลา 12:49 • บันเทิง
Finally Return Home
Pairing: เสิ่นเว่ย/จ้าวอวิ๋นหลาน
จ้าวอวิ๋นหลานไม่เคยมีครอบครัวในฝัน
เพราะตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว พ่อเห็นการปกป้องชาวไฮ่ชิงสำคัญกว่าลูกชายคนเดียวของตนเอง
พอโตขึ้นมาได้นิดหน่อย เขาก็ได้เห็นกับตาตนเองว่าสำหรับพ่อของเขา แม่เองก็สำคัญไม่เท่าเช่นกัน
กระสุนที่ยิงอย่างแน่วแน่จากปลายปากกระบอกปืนของพ่อ มุ่งตรงเข้าสู่คนร้ายที่รัดคอแม่ไว้เป็นตัวประกัน
พ่อบอกแค่ว่า "แม่จะต้องเข้าใจ" ซึ่งจ้าวอวิ๋นหลานไม่เชื่อเลยซักนิด แต่เขาในวัยสิบขวบจะไปทำอะไรได้
เสียงระเบิดดังขึ้น แล้วเขาก็ไม่ได้พบหน้าบุคคลเพียงคนเดียวบนโลกที่รอคอยเขากลับบ้านอีกเลย...
หลังจากนั้นจ้าวอวิ๋นหลานก็ไม่เคยรู้จักกับคำว่า 'ครอบครัว'
จนกระทั่งได้พบกับสมาชิกทีมสืบสวนพิเศษ
ทุกคนเป็นมิตร พร้อมให้ความช่วยเหลือ และแม้ไม่พูดออกมา แต่การกระทำของทุกคนก็ทำให้จ้าวรู้ว่าเขามีกลุ่มคนที่สามารถพึ่งได้อยู่
แต่ถึงจะบอกว่าพึ่งพาได้ พวกเขาก็ยังไม่ใช่สิ่งที่จ้าวอวิ๋นหลานตามหา เพื่อนก็คือเพื่อน มีขอบเขตความสนิท มีกำแพงบางๆกั้นระหว่างสมาชิกแต่ละคน
มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทุกคนในทีมมั่นคง แต่สำหรับจ้าวที่ไร้ซึ่งที่พักพิงทางจิตใจ...
มันอ้างว้างเหลือเกิน...
แล้วเขาก็ได้มาพบกับเสิ่นเว่ย
มันอาจจะฟังดูไม่สมจริง แต่ครั้งแรกที่เขาได้จ้องลึกลงไปในดวงตาของอีกฝ่าย
เขาเหมือนเห็น 'บ้าน' อยู่ในนั้น
ทั้งๆที่ใครๆก็บอกว่าอีกฝ่ายดูไม่น่าไว้ใจ สมาชิกในทีมต่างก็เตือนให้เขาระวังตัว
แต่ทุกครั้งที่จ้าวอวิ๋นหลานยืนข้างๆศาตราจารย์หนุ่ม เขารู้สึกปลอดภัย รู้สึกเหมือนว่าสามารถต่อกรกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ต่อไปได้
หลังจากที่พบกับเสิ่นเว่ย จ้าวคิดว่าเขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เขาต้องการมาตลอดคืออะไร
เขาไม่แน่ใจนะว่าจะเรียกความรู้สึกนี้ว่ายังไงดี
แฟนเก่าของจ้าวเคยบอกเขาว่า ความชอบ คือการที่เรามองใครซักคนแล้วรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับล้านตัวกระพือปีกอยู่ในท้อง
แต่กับเสิ่นเว่ย มันเรียบง่ายกว่านั้น
มันเป็นความรู้สึกเหมือนคลื่นเบาๆกระทบชายหาด มันรู้สึก... สมบูรณ์? เหมือนว่าความหมายของชีวิตที่ตามหามาแสนนาน ในที่สุดก็ได้คำตอบ
ไม่รู้สึกปั่นป่วนหรือใจเต้นแรงเลยแม้แต่น้อย
กลับกัน เขารู้สึกเหมือนลมหายใจเป็นปกติอีกครั้ง เหมือนในที่สุดความสงบก็มาเยือน มันเรียบนิ่ง แต่ก็รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
เธอบอกว่าเขาจะรู้สึกเหมือนอยากให้อีกฝ่ายอยู่ข้างกายตลอดเวลา
อันนี้จ้าวไม่เถียง แต่อันที่จริง เขาไม่ได้อยากตัวติดกับเสิ่นเว่ยมากขนาดนั้น
มีหลายครั้งที่พวกเขาต้องแยกกันไปปฏิบัติงาน และแน่นอนว่าเขาเป็นห่วงอีกฝ่ายอยู่เป็นระยะๆ ถึงแม้ว่าหากว่ากันตามพลังแล้ว เสิ่นเว่ยจะเก่งกว่าเขามากๆก็เถอะ
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเสิ่นเว่ยต้องอยู่ตรงนี้
ตราบใดก็ตามที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายปลอดภัย เขาก็อยากเห็นอีกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเอง
เพราะแบบนี้จ้าวอวิ๋นหลานก็เลยไม่เข้าใจซักที
ว่าสรุปแล้วความรู้สึกของเขาเรียกว่าอะไร
คำว่า 'บ้าน' หรือ 'ครอบครัว' ของเสิ่นเว่ยพังทลายไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อน
ตอนที่อุกกาบาตลูกยักษ์ตกลงกลางหมู่บ้าน พรากเอาชีวิตพ่อแม่สุดที่รักของเขาไปโดยไม่เหลือเวลาให้แม้แต่จะกล่าวอำลา
หลังจากนั้นไม่นาน น้องชายเพียงคนเดียวก็ถูกลักพาตัวไปอีก
เขาจมอยู่กับความคิดที่ว่าตนเองไม่สามารถปกป้องใครได้เลยมาครึ่งชีวิต
แต่เพราะเส้นทางที่เขาเลือก ทำให้ไม่สามารถมานั่งเสียใจ หรือหวาดกลัวได้
เขาใช้หน้ากากสีดำและเสื้อคลุมสีเดียวกันปกปิดความอ่อนแอของตนเอง
แววตาสั่นไหวของเขาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ศัตรูจะเห็นก่อนสิ้นลมหายใจด้วยคมดาบที่ตวัดอย่างคล่องแคล่ว
คนแรกที่เขาสามารถเปิดเผยความอ่อนแอของตนเองได้คือ คุนหลุน ที่ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าเป็นจ้าวอวิ๋นหลาน
ชายเพียงคนเดียวที่จะสามารถรับฟังเรื่องราวของเขาด้วยแววตาเป็นประกาย และบอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว
คนเดียวที่เขาสามารถปล่อยวางภาระและหน้าที่ทุกอย่างได้ยามอยู่ต่อหน้า
เขาไม่ใช่ยมฑูตในชุดดำที่น่าเกรงขาม แต่เป็นเพียงเด็กหนุ่มคนนึงที่หวาดกลัวหนทางข้างหน้า
สำหรับเสิ่นเว่ย คุนหลุนคือคนที่ทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องอีกครั้ง
อีกฝ่ายเหมือนบ้านที่ป้องกันเขาจากมรสุมทางอารมณ์ เหมือนเตาผิงท่ามกลางพายุหิมะ
ตอนที่เสิ่นเว่ยได้พบกับจ้าวอวิ๋นหลานอีกครั้ง เขาสาบานกับตนเองว่าจะปกป้องชายหนุ่มเอาไว้ให้ได้
เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของเขาคืออะไร เพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าคำตอบจะสำคัญ
เขาแค่รู้สึกโล่งใจทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของจ้าว
รู้สึกเหมือนลอยได้ยามที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อของเขาออกมา เหมือนมันเป็นคำวิเศษ หรือเวทย์มนตร์อะไรซักอย่างที่มีแค่จ้าวคนเดียวที่ใช้ได้
ราวกับว่านาฬิกาชีวิตของเขาเริ่มออกเดิน เป้าหมายของเขาชัดเจนมากกว่าหน้าที่ทั้งหมดที่ผ่านมา
นั่นคือการปกป้องจ้าวอวิ๋นหลาน
แม้นั่นจะทำให้เขาดูไม่น่าไว้ใจในสายตาของคนรอบข้างก็ตาม
แต่หากเพื่อคนที่เขาเฝ้ารอมาแสนนาน สิ่งอื่นๆใดๆในโลกนี้ก็ไม่มีค่าให้เขาใส่ใจ
งานที่จ้าวอวิ๋นหลานทำอยู่อันตรายเกินไป ใครๆก็รู้ เสิ่นเว่ยไม่ชอบเวลาที่เห็นคนสำคัญต้องเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยง
แต่สำหรับจ้าวอวิ๋นหลาน ชีวิตที่ไม่ได้ช่วยคนอื่น ก็ไร้ค่า
ก็เหมือนกับเสิ่นเว่ยที่ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมถ้าปกป้องอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ได้
มันเหมือนเป็นแรงดึงดูดแปลกๆ เพราะในขณะที่จ้าววิ่งไล่ปัญหา เสิ่นเว่ยก็ต้องคอยตามปกป้องโดยไม่ให้ชายหนุ่มรู้ตัว
แต่มองๆไป แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เพราะไม่ว่าคราใดที่จ้าวตกอยู่ในปัญหาแล้วเสิ่นเว่ยเข้ามาช่วยไว้ได้
เขาก็จะได้เห็นแววตาและรอยยิ้มของจ้าวที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน
มันเหมือนอีกฝ่ายรู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องมา
เหมือนว่ากำลังสนุก และโล่งใจในเวลาเดียวกัน
เหมือนว่าได้กลับ ‘บ้าน’ เสียที
Talk//
เกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ... คือเซียใล้เวลาหาข้อมูลเรื่องซิลฟีอาธานนานมาก แล้วเรื่องมันก็ประมาณสองปีที่แล้ว ดังนั้นแหล่งเก็บข้อมูลเซียเลยมีในโทรศัพท์เครื่องที่เซียใช้อยู่ กับแล็บท็อป (เขียนไว้ในโน๊ต)
หนึ่งในเรื่องที่เก็บไว้ในนั้นคือเรื่อง เทศกาลในอาณาจักร ซึ่งใช้เวลาคิดนานมาก เพราะเอามาจากเทศกาลบนโลก แต่ดัดแปลงให้มีรายละเอียดมากขึ้น และผูกกับดินแดนต่างๆมากขึ้น (พอมนุษย์เอาไปก็เอาไปดัดแปลงให้เข้าใจง่ายและคล้องกับศาสนา วัฒนธรรม ฯลฯ)
ทีนี้วันนี้ก็เปิดโทรศัพท์เตรียมพิมพ์นิยายค่ะ แต่ปรากฏว่า... เปิดคอมไม่ติด😭 ทำยังไงก็เปิดไม่ได้ ชาร์จแบตก็แล้ว พลิกไปมาก็แล้ว ตอนนี้เหลืออย่างเดียวคือจับทุ่มลงพื้น(...)
วันนี้เลยขอเอาเรื่องนี้ที่แต่งตุนไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน (แบบนี้แหละ) มาลงแทนนะคะ ขอโทษทุกคนที่รอด้วยค่ะ😢
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตาม ขอโทษอีกครั้ง รักนะคะ💕✨
1 บันทึก
18
11
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
One Shot Story
1
18
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย