31 ส.ค. 2019 เวลา 23:30
พุทธ​ประวัติ​ ตอนที่ 6
ขนานพระนามพระราชกุมาร
หลังจากที่พระเจ้าสุทโธทนะ
ได้ทราบถึงคำทำนายของเหล่า พราหมณ์​อาจารย์​ทั้ง 8 เกี่ยวกับ
พระราชโอรสเสร็จแล้ว พระองค์​จึงได้ทรงตรัสถาม พราหมณ์​เหล่านั้นต่อ
พระเจ้า​สุทโธ​ท​นะ​ตรัสถาม :
"ท่านพราหมณ์​ทั้งหลายเอย อันพระราชโอรสของเรานั้น จักต้องเห็นหรือรับรู้สิ่งใดกันเล่า จึงจักออกบวช ? "
พราหมณ์​ทั้งแปด ทูลตอบ :
"ข้าแต่พระราชาเจ้า เมื่อพระราชโอรสได้ทอดเห็นนิมิตทั้ง
4 ประการ​ คือ
ประการแรก -​ คนแก่
ประการที่สอง -​ คนเจ็บ
ประการที่สาม - คนตาย
ประการ​ที่สี่ -​ บรรพชิต จึงจักสละ​พระ​ราชสมบัติออกบวช แล้วจักได้ตรัสรู้เป็นองค์พระสัพพัญญูพุทธเจ้า พระเจ้าข้า"
องค์ราชาพระเจ้าสุทโธทนะ
เมื่อได้สดับดังนั้นแล้ว จึงมีพระดำริในพระทัย (คิดในใจ) ว่า :
"อันตัวเรานี้ มิได้​ปรารถนา​เลยแม้แต่น้อย ที่จักให้ราชโอรสของเรานั้นออกบวช และได้​ตรัสรู้​เป็น
พระ​สัพพัญญู​เจ้าเลย...
แต่แท้จริงแล้ว ตัวเรานั้นปรารถนาจักให้พระโอรสได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เสวยราชสมบัติเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่ามหาทวีปทั้ง 4 อันเป็น​เกียรติ​ยศอย่างสูงสุด นี้แหละ​เป็นสิ่งที่บรรดาเหล่ากษัตริย์ทั้งปวงปรารถนา"
เมื่อ​พระองค์​คิดได้เช่นนั้น จึงได้มีพระบัญชารับสั่งเด็ดขาดว่า :
"นับตั้งแต่​บัดนี้ไป ท่านทั้งหลายจงอย่าให้รูปนิมิตทั้ง 4 ประการนี้ เข้ามา​ใกล้พระราชโอรสของเราโดยเด็ดขาด"
จากนั้นพระองค์​ ก็รับสั่งให้มีการจัดตั้งเวรยามทั่วทั้ง 4 ทิศ ให้คอยระวังรักษาอย่าให้นิมิตทั้ง 4 นั้น​ปรากฏ​ขึ้นเข้ามาสู่ทัศนวิสัยของพระราชโอรสได้
***ขนาน​พระนาม​***
ในเวลา​ต่อมา...
เมื่อพิธีการทำนายพระลักษณะของพระราชกุมารเสร็จเรียบร้อยแล้ว บรรดา​เหล่าพราหมณ์​ทั้งหลายจึงได้กล่าวขนานพระนามอันเป็นมงคลแก่พระราชกุมาร
โดยอาศัยเหตุที่ พระราชกุมาร มีพระรัศมีเปล่งออกจากพระสรีระ (ร่างกาย) จึงได้​ถวาย​พระนามตามนิมิตที่เห็นกันดังนั้นว่า :
"พระอังคีรสราชกุมาร
หรือ​ อีกพระนามหนึ่งว่า
พระสิทธัตถราชกุมาร"
***ซึ่ง​มีความหมาย​ว่า : พระราชกุมารผู้ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ***
(แต่มหาชนทั่วไปในยุคสมัยนั้นเขาจะนิยมเรียกชื่อตามโครตเป็นหลักดังนั้นชื่อส่วนมากที่เรียกพระราชกุมารจะนิยมเรียกกันว่า : "โคตมะ"
นั่นเองขอรับ)
และในงานพิธีมงคลนี้เอง ก็ได้มีฝ่ายศากยราชสกุลทั้งหลายที่มาร่วมพิธีในวันนี้ด้วย ต่างก็ได้ยินยอมพร้อมใจกันถวายพระโอรสของตน สกุลละพระองค์
ด้วยเหตุที่หวังว่า :
ถ้าพระราชกุมารนี้ ออกบวชได้และตรัสรู้เป็นองค์พระสัพพัญญูเจ้าแล้ว พระองค์​นั้นจักได้มี พระขัตติยสมณะเป็นบริวารแวดล้อม​แก่​พระองค์​นั่นเอง
หลังจาก​พระราชพิธีต่างๆ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว...
ฝ่าย พราหมณ์​ทั้งแปด
เมื่อได้กลับถึงเคหสถานบ้านเรือนของตนเองแล้ว ต่างก็ได้เรียกบุตรของตนมาสั่งว่า :
"ลูกเอย... บัดนี้บิดาได้ล่วงเข้าสู่วัยชราภาพแล้ว คงจักไม่มีชีวิตยืนยาวอยู่ จนได้เห็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะออกบวช และได้บรรลุ
*พระสัพพัญญุตญาณได้*
ถ้าหากในอนาคตข้างหน้าพระราชกุมารนี้ทรงออกบวชบำเพ็ญ​
ความเพียร​จนได้​ตรัสรู้​
พระโพธิญาณแล้ว
ขอพวกเจ้าทั้งหลายจงออกบวช
ในศาสนาของพระองค์เถิด เพื่อ​ที่​พระองค์​จักได้แสดงธรรมโปรดพวกเจ้าทั้งหลาย ให้ได้​บรรลุ​อมตะธรรมตามเช่นพระองค์​บ้าง"
***ในอนาคตเบื้องหน้า***
พราหมณ์​ทั้ง 7 คน ก็มี​ชีวิต​จนสิ้นอายุขัยของตน เว้นก็แต่เพียงท่านโกณฑัญญพราหมณ์​ผู้เดียวที่มีชีวิตอยู่จนได้ออกบวชติดตามพุทธองค์ พร้อมกับได้ชักชวนบุตรของพราหมณ์​เหล่านั้นออกบวชอีก 4 คน คือ
- ท่านวัปปะ
- ท่านภัททิยะ
- ท่านมหานามะ
- ท่านอัสสชิ
รวมเป็น 5 บุคคล ที่พวกเราท่านทั้งหลายต่างเรียกขานพวกท่านกันว่า "ปัญจวัคคีย์​" นั้นเอง
เอวัง​ก็มี​ด้วยประการฉะนี้​
หากท่านผู้ใดชอบ ก็ขอฝากติดตามอ่านตอนต่อไปด่วยนะขอรับ ^-^
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน​ผู้อ่าน​ขอธรรมของพระพุทธองค์จงมีแด่ ท่าน​ สาธุครับ​ (ต้นธรรม)
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือ.ปฐมสมโพธิกถา
- หนังสือพุทธประวัติ​ตามแนวปฐมสมโพธิ (พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์)
- เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่/ภาพประกอบ.ต้นธรรม
โฆษณา