10 ก.ย. 2019 เวลา 13:18 • ประวัติศาสตร์
shutdown Hong Kong ภาค 3 ฤาจะชนะกัน บนกองซากปรักหักพัง
สถานการณ์ฮ่องกงตอนนี้ เหตุการณ์ก็ยังคงยืดเยื้อต่อไป ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบศึกลงได้ แม่ผู้ว่าฮ่องกงจะถอนร่างกฎหมายที่เป็นปัญหาออกไปแล้วอย่างเป็นทางการ
แต่ถ้าว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังปักหลักชุมนุมต่อไป โดยบางกลุ่มก็แสดงให้เห็นว่า เป็นฝ่ายเดียวกับอเมริกา
เครดิตภาพ AFP
อยากที่ผู้เขียนเคยบอกไปแล้วว่า สถานการณ์ฮ่องกงตอนนี้ คือการประลองกำลังระหว่างอเมริกาและจีน เป็นการส่งออกประชาธิปไตยจากประเทศอเมริกา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนบน
เช่นประเทศอียิปต์ ประเทศลิเบีย ประเทศซีเรีย ประเทศตูนีเซีย เป็นต้น ได้เกิดภาวะที่เรียกว่าอาหรับสปริง คือการส่งออกประชาธิปไตยมาจากประเทศอเมริกานั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจในช่วงนี้ก็คือ การเผยตัวของลีกาซิง อภิมหาเศรษฐีราชาที่ดินของเกาะฮ่องกง ซึ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าอยู่ฝ่ายเดียวกับผู้ประท้วง
การที่ตัวขุนออกโรงแบบนี้ แสดงว่าสถานการณ์ใกล้ถึงจุด climax ทางการจีนจะทนการยั่วยุของฝ่ายผู้ประท้วงซึ่งมีเบื้องหลังโดยสหรัฐอเมริกา ได้อีกนานแค่ไหน
ทำให้นึกถึงพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เคยตรัส กับพลเอกสุจินดาคราประยูร และพลตรีจำลอง ศรีเมือง ในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ไว้มีใจความดังนี้
"ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน ต้องเข้าหากันไม่เผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา เพราะอันตรายมีอยู่ เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือด ปฏิบัติการรุนแรงต่อกันมันลืมตัว ลงท้ายก็ไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วจะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทางชนะ อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้เผชิญหน้ากันก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติประชาชน จะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯเสียหายประเทศชาติก็เสียหายไปทั้งหมด
1
แล้วจะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตนว่าชนะเวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง"
1
เครดิตภาพ th.wikipedia
ไม่น่าเชื่อว่า หลังจากพระราชดำรัส ออกมาแล้ว เหตุการณ์ที่ดูจะวิกฤตหาทางออกไม่เจอ ก็กลับสงบเรียบร้อย เหมือนไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก่อน ด้วยพระบารมี
1
ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ของประเทศฮ่องกงไม่มีผู้มีบารมีพอที่จะออกมาพูด แล้วทำให้เหตุการณ์สงบได้เช่นนี้
แต่ผู้อ่านไม่ต้องกลัวนะครับ เหตุการณ์วิกฤตของฮ่องกงครั้งนี้ เป็นแค่การประลองกำลังเฉยๆ ยังไม่ใช่ตัวจุดชนวนของสงครามโลกครั้งที่ 3
การรบกันเพื่อแย่งชิงฮ่องกงไม่ใช่เหตุผลพอที่จะก่อสงครามโลกได้
ถ้าชอบบทความนี้ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้เขียนด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา