6 ก.ย. 2019 เวลา 04:30
พุทธ​ประวัติ​ ตอนที่ 8
บรรลุปฐมณาน ณ วันพิธีแรกนาขวัญ
*พระ​บรมโพธิสัตว์เจ้า​*
ครั้น​ตั้งแต่​พระองค์​ทรงประสูติรวมตลอดเวลาจวบจนถึงปัจจุบัน ณ ตอนนี้ พระองค์​ก็ทรง​ได้รับการอภิบาลบำรุงเลี้ยงดูอย่างดีเลิศ มิได้ขาดตกบกพร่องในสิ่งใดๆเลย
และเมื่อเวลาได้ผ่านเลยมาจนกระทั่งถึงวันงานพิธีมงคลเสี่ยงทายมาถึง กล่าวคือ วันพระราชพิธีวัปปมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ นั่นเอง
พระเจ้า​สุทโธ​ท​นะ​องค์​ราชา
ทรงรับสั่งให้เหล่าข้าราชบริพาร​ให้จัดเตรียมตกแต่งพระนครและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่สำคัญในงานพระราชพิธี อันมีคันไถ ธัญพืช​เสี่ยงทาย และพระโค เป็นต้น
ครั้นเมื่อเจ้าหน้าที่พนักงานได้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เสร็จแล้ว...
พระเจ้า​สุทโธ​ท​นะ​ พร้อมด้วยเหล่าหมู่อำมาตย์ พราหมณ์​ และคหบดีทั้งหลาย ก็ได้เคลื่อนขบวนเสด็จสู่สถานที่ ณ ลานมณฑลพิธีกระทำการแรกนาขวัญโดยบัดนั้น...
*ในการเสด็จไปทำพิธีในครั้งนี้เอง*
พระเจ้า​สุทโธ​ท​นะ​ ได้โปรดให้เชิญพระราชกุมารเสด็จตามไป ณ ที่นั้นด้วย และทรงให้พระกุมารประทับอยู่ภายใต้ต้นชมพู (ต้น​หว้า) ที่มีขนาดใหญ่ ที่ปกคลุม​หนาแน่ไปด้วยกิ่งและใบ อันมีร่มเงาที่ร่มรื่นเหมาะสมกับพระราชโอรส
ทั้งนี้ภายใต้ต้นชมพูนั้นใหญ่นั้น
ยังประดับตกแต่งไปด้วยผ้าม่านอันวิจิตรงดงาม โดยที่มีพระพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลายคอยเฝ้าปฏิบัติรับใช้ใกล้ชิดพระองค์อยู่ตลอดเวลา
แต่ทว่า...
เมื่อคราวที่พิธีแรกนาขวัญได้เริ่มขึ้นจริงๆ เหล่าพวกพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลายต่างก็ได้พากันละทิ้งพระราชกุมาร
เพื่อที่จะเร่งรีบไปดูพิธีแรกนาขวัญกันหมด แล้วทิ้งให้พระราชกุมารประทับอยู่ใต้ต้นชมพู ตามลำพังเพียงพระองค์เดียว
สมัยก่อนในหมู่บ้านผมที่สุโขทัยมีต้นหว้าใหญ่อยู่หนึ่ง ต้นใหญ่มากๆ ผลหว้า จะมีรสชาติเปรี้ยวหวาน จิ้มกับเกลือและกะปิแจ่มมากๆครับ ^ ^
ในขณะนั้นเอง...
เมื่อพระ​บรม​โพธิสัตว์​ราชกุมารเสด็จประทับอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว จึงเกิดความสงบสงัดนิ่ง พระองค์​จึง​เสด็จ​ลุกขึ้น​ประทับ​นั่งสมาธิ​ และเริ่มเจริญอานาปานสติกรรมฐาน (การดูลมหายใจเข้าและออกอย่างมีสติ)
จน​ทำให้​ พระองค์​นั้นได้บรรลุ "ปฐมฌาน" ขึ้นในทันที
และขณะนั้นเองก็เป็นเวลายามบ่ายแล้ว ธรรมดาร่มเงาของต้นไม้ทั้งหลายย่อมต้องเบี่ยงเบนคล้อยตามแสงสุริยาเป็นปกติทั้งหมด
แต่ทว่า...
มีก็แต่เพียงเงาของต้นชมพูใหญ่นั้น ยังคงปกคลุมแน่นิ่งอยู่ที่เดิม เสมือนประหนึ่งว่าเวลานี้ยังคงเป็นเวลาเที่ยงวันอยู่เช่นเดิม
เงานั้น มิได้เปลี่ยนแปลงเอนเอียงไปตามแสงตะวันดังเช่นต้นไม้อื่นๆ เลย เหตุนิมิตนี้ปรากฏ​ขึ้นเป็นที่น่าอัศจรรย์​ใจยิ่งนัก
เมื่อพวกพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลายได้กลับมาจากงานพิธี แล้วได้เห็น ปรากฏ​การที่เกิดขึ้นกับพระกุมารต่างก็พากันตกใจกับสิ่งที่เห็น!!!
จึงได้รีบนำความเข้ากราบบังคมทูลพระเจ้าสุทโธทนะ ให้​ทรงทราบทันที เมื่อ​พระองค์​สดับ​รับฟังความแล้ว จึงได้รีบเสด็จมาหาพระราชโอรสโดยเร็วพลัน...
เมื่อ​พระองค์​มาถึง ณ ต้นชมพู​ พระองค์​ได้ทอดพระเนตร​เห็นความ มหัศจรรย์​เช่นนั้น จึง​ยก​พระ​หัตถ์​นมัสการ​ พร้อมกับตรัสวาจาถึงพระราชโอรสว่า...
พระเจ้า​สุทโธ​ท​นะ​ตรัส :
"เมื่อวันที่พระราชโอรสของเราได้ประสูติใหม่ๆ นั้น ท่านกาฬเทวิลดาบส​อาจารย์​ ท่านเข้ามาเยี่ยมเยือนและพระราชโอรสของเราก็แสดงปาฏิหาริย์​ขึ้น ปานประหนึ่งว่าเสด็จขึ้นไปยืนบนชฎาของพระดาบส (ดาบสในยุคสมัยนั้นจะนิยมม้วนผม รวบมัดขึ้นไป คล้ายๆกับเหมือนว่าสวมชฎานั่นเองครับ)
เรา​เอง​ก็ได้ อภิวันทนาการกราบพระราชโอรสครั้งหนึ่งแล้ว...
มาในครั้งนี้ ก็ได้แสดงปาฏิหาริย์​อีกครั้ง เราขอถวายอัญชลีกราบเป็นคำรบสอง"
ครั้นเมื่อตรัสวาจาแล้ว พระองค์​ก็ทรงกราบพระโอรส แล้วรับสั่งให้พระราชโอรสเสด็จกลับไปพักผ่อนพระวรกาย ในพระนครกรุง​กบิลพัสดุ์โดยลำดับ...
เอวัง​ก็มี​ด้วยประการฉะนี้​
หากท่านผู้ใดชอบ ก็ขอฝากติดตามอ่านตอนต่อไปด้วยนะขอรับ ^-^
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน​ผู้อ่าน​ขอธรรมของพระพุทธองค์จงมีแด่ ท่าน​ สาธุครับ​ (ต้นธรรม)
เอกสารอ้างอิง
- หนังสือ.ปฐมสมโพธิกถา
- หนังสือพุทธประวัติ​ตามแนวปฐมสมโพธิ (พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์)
- เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่/ภาพประกอบ.ต้นธรรม
โฆษณา