5 ก.ย. 2019 เวลา 13:13 • หนังสือ
ฮาร์วาร์ด เล่มที่ 2
"วิชาความสำเร็จของคนคิดเป็น"
สำหรับครั้งนี้จะเป็นเล่มภาคต่อจากหนังสือเล่มแรกคือ ฮาร์วาร์ด เล่มที่ 1 "วิชาชีวิตที่ไม่มีในตำรา" สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านเล่มแรกแล้วมาอ่านเล่มนี้เลย ไม่งงครับเพราะทางผู้เขียนไม่ได้แยกอะไรจนเกินไป จนทำให้ไม่สามารถอ่านไม่ได้ ถ้ามาอ่านเล่มนี้แล้วกลับไปอ่านเล่มแรกก็ยังสนุกเหมือนเดิม ผมรับประกันฟันเฟริมแน่นอน ฮาฮ่าฮ่า ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองอ่านเล่มแรกก็สามารถกลับไปอ่านได้ที่โพสต์ก่อนหน้านี้นะครับ
เล่มนี้จะมาในแนวให้คนทั่วไปอย่างเราทุกคนเริ่มที่จะคิดเป็นมากยิ่งขึ้น เพราะสิ่งสำคัญยิ่งกว่าความฉลาดคือต้องมีวิธีคิดที่ดีและคิดเป็น มีความมุมานะ และความขยัน หากฉลาดแต่คิดไม่เป็นและไม่ขยัน ก็มิอาจประสบความสำเร็จได้ "ต่อให้พื้นดินอุดมสมบูรณ์แค่ไหน หากไม่ลงมือเพราะปลูก จะไม่มีวันได้เชยชมดอกผลที่งอกงาม คนเราก็เช่นกันต่อให้ฉลาดมากแค่ไหน หากคิดไม่เป็นและไม่ขยัน ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ"
HARVARD'S 4:30 A.M.
บทที่ 2 : สร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง
"คนที่ยอดเยี่ยมที่สุด มักจะเป็นคนที่ขยันที่สุด"
เราจะต้องเร็วและขยันกว่าคนอื่น จึงจะมีโอกาสลิ้มลองรสชาติแห่งความสำเร็จ การที่คนคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ดูได้จากยามว่างของเขาว่าใช้ไปอย่างเกิดประโยชน์หรือไม่ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
"หากไม่ขยัน พรสวรรค์ก็ไร้ค่า"
หากไม่มีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน พรสรรค์ที่ติดตัวมาก็ไม่มีค่าอะไร และหากคุณไม่ได้ฉลาดเหมือนคนอื่น แล้วก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร คุณต้องใช้ความขยันมาเติมเต็มในสิ่งที่ยังขาดหายไป หากคุณมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะดูราบรื่นไปหมด ซึ่งความขยันนี่เองเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จ
"จงมุ่งมั่นให้ถึงที่สุด ไม่ใช่แค่พยายาม"
ขอเพียงมุ่งมั่นให้ถึงที่สุด คุณก็จะพบกับความสำเร็จ ไม่ว่าเราจะเรียนอะไรหรือทำอะไรก็ตาม ขอเพียงมีความตั้งใจและพยายามทำมันอย่างเต็มที่ พัฒนาความสามารถของตัวเองให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น เช่นนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่เราเรียนรู้ไม่ได้หรือทำไม่ได้แล้วล่ะ ดังสุภาษิตที่ว่าประตูที่เปิด-ปิด มอดจะไม่กิน คือของที่มีการใช้งานสม่ำเสมอ มักจะไม่พังง่าย ๆ สมองของคนเราก็เช่นกัน "สมองยิ่งใช้ยิ่งฉลาด"
"แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่"
ผู้ที่ทำเรื่องใหญ่ได้สำเร็จ ย่อมไม่ปฎิเสธเรื่องเล็ก ๆ ลงมือทำในเรื่องเล็ก ๆ ก่อนแล้วค่อยพุ่งชนเป้าหมายใหญ่ คุณต้องมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ในขณะเดียวกันต้องไม่มองข้ามเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตด้วย เพราะเรื่องเหล่านั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ!
"ความเกียจคร้านเหมือนฝุ่นละออง ต่อให้เหล็กที่มีความแข็งที่สุด หากถูกกระทบก็ย่อมเกิดเป็นสนิม"
ความเกียจคร้านคือที่มาของความหายนะ มันสามารถทำลายชีวิตคนคนหนึ่ง หรือแม้กระทั่งชนชาติหนึ่งได้ราบเรียบ ความเกียจคร้านสามารถกลืนกินปฏิภาณไหวพริบของคนคนหนึ่งได้ ความเกียจคร้านก็เหมือนกับสนิม ที่สามารถทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานมากกว่าการหักโหมทำงานหนักเสียอีก ผิดกับความขยันที่เปรียบเสมือนกุญแจ ยิ่งใช้งานบ่อย ยิ่งดูเงางาม มีชีวิตชีวา
"ขยันกับความฉลาดเป็นฝาแฝดกัน ส่วนเกียจคร้านกับความโง่เปรียบเสมือนพี่น้องท้องเดียวกัน"
ความฉลาดไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่าย ๆ หากไม่ขยันคุณก็ไม่มีวันฉลาด ต่อให้พื้นดินที่อุดมสมบูรณ์แค่ไหน หากไม่ลงมือเพาะปลูก จะไม่มีวันได้เชยชมดอกผลที่งอกงาม คนเราก็เช่นกัน ต่อให้ฉลาดมากแค่ไหนหากคิดไม่เป็นและไม่ขยัน ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ
"หมั่นทบทวนการกระทำของตัวเอง จึงจะมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิต"
มีเพียงคนที่ทบทวนการกระทำของตัวเองอยู่เสมอเท่านั้น ที่จะเข้าใจว่าตัวเองแตกต่างจากผู้อื่นอย่างไรและเขาจะมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตมากกว่าคนอื่น ๆ คนทุกคนต้องหมั่นทบทวนการกระทำของตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิดพลาดต่าง ๆ ในอดีตเกิดขึ้นซ้ำอีก เมื่อทำแบบนี้แล้ว ชีวิตข้างหน้าจะมีแต่ความราบรื่น
บทที่ 3 : กระตือรือร้นอย่างเต็มเปี่ยม
"ปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่ ล้วนมีที่มาจากพลังแห่งความเชื่อมั่นในตัวเอง"
คนที่เชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ ต่อให้ต้องยกภูเขาทั้งลูกก็สามารถทำได้ เชื่อว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว เชื่อว่าตัวเองทำได้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถพิชิตได้ หากไม่สามารถเอาชนะความกลัว ถือว่ายังใช้ชีวิตไม่เป็น คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้ตัดสินที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่ความเชื่อมั่นในตัวเองของเราต่างหาก
"ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้ชีวิต และเป็นตัวกำหนดโชคชะตา"
ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้ชีวิต สามารถประคับประคองชีวิตให้ก้าวต่อไป ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นตัวกำหนดโชคชะตา สามารถกำหนดหนทางในอนาคตได้
"การน้อยเนื้อต่ำใจเปรียบเหมือนจมอยู่ในสระโคลน ทำอย่างไรก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ"
เมื่อคนเราจมปลักอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน ก็ไม่สามารถทำออกมาให้ดีได้ หากต้องการปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ ก็ต้องเอาชนะความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่มีอยู่ในตัวเองให้ได้!
"หากขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ภายในใจจะมีแต่ความหวาดกลัว"
ความกลัวเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า เป็นตัวขัดขวางความสำเร็จ เมื่อความกลัวเข้ามาอยู่ภายในใจแล้ว มันก็จะซ่อนอยู่ไม่ไปไหน ความกลัวเปรียบเสมือนมีดที่คอยทิ่มแทงจิตใจของคนคนนั้น
"ไม่มีคำว่า เป็นไปไม่ได้ ในพจนานุกรมของผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง"
ยิ่งมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากเท่าไหร่ ความสำเร็จก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะรู้ถึงความสามารถและเป้าหมายของตนเป็นอย่างดี เมื่อมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ถือว่าประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
"ความเชื่อมั่นในตัวเองอาจไม่ได้ให้ผลสำเร็จที่ชัดเจน แต่ก็บอกให้เรารู้ว่าทำอย่างไรจึงจะได้มันมา"
ความเชื่อมั่นในตัวเองไม่ใช่เครื่องมือสู่ความสำเร็จ และก็ไม่ใช่วิธีการที่จะได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่เมื่อคุณมีความเชื่อมั่นในตัวเองก็จะรู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จ ความเชื่อมั่นในตัวเองนั้น ทำให้สมองของเราคิดอะไรได้มากมาย ทำให้เราได้รับเลือกโอกาสต่าง ๆ และยังเป็นแรงผลักดันให้เราทำเป้าหมายอื่น ๆ จนสำเร็จอีกด้วย คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น มันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับที่คิดไว้ ขอเพียงคุณมีความเชื่อมั่นและลงมือทำ เป้าหมายที่หวังเอาไว้อาจเป็นจริงขึ้นมาก็ได้
"ไม่มีใครที่ไม่เคยเจอมรสุมชีวิต"
เมื่อเราต้องประสบกับอุปสรรคและความยากลำบาก เราไม่มีทางเลี่ยง ทำได้เพียงแต่เผชิญหน้ากับมัน คนเราเกิดมา ไม่มีใครที่ไม่เคยเจอมรสุมชีวิต! สิ่งที่เราควรทำคือ ต้องรักษาความเชื่อมั่นในตัวเองเอาไว้ให้ดี เพราะนี่คืออาวุธที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ได้ ในโลกนี้ไม่มีอุปสรรคที่แท้จริง สิ่งที่เรียกว่าอุปสรรคนั้นก็คือ การขาดความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับปัญหา!
"ความเชื่อมั่นที่แท้จริง มีพื้นฐานมาจากความตั้งใจที่แน่วแน่"
หนึ่งในเคล็ดลับแห่งความเชื่อมั่นในตัวเอง คือหวั่นเกรงต่อความล้มเหลว ในช่วงที่ล้มแล้วลุกขึ้นมาได้นั้นจะทำให้เราเดินต่อไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น พลังของคนเราไม่ได้หมายถึงกำลังทางด้านร่างกาย แต่หมายถึงความสามารถในการอดทนอดกลั้นต่ออุปสรรคต่างหาก!
"ความสำเร็จ คือการเลือกเดินในเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นใจ"
มนุษย์กำหนดโชคชะตาตัวเอง ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นเสมือนเข็มทิศที่นำพาไปสู่ความสำเร็จ คนเราจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น สิ่งสำคัญคือมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากน้อยแค่ไหน คนที่ล้มเหลวนั้นมักจะคิดผิดในเรื่องที่คล้าย ๆ กันนั้นก็คือ ชอบอิจฉาและเลียนแบบคนอื่น โดยที่มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ความจริงแล้วการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงแค่คุณเดินในเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นใจ!
บทที่ 4 : ลงมือทำทันที
"เมื่อขาดความกระตือรือร้น จะไม่มีวันก้าวหน้าในชีวิต"
ขอเพียงคุณมีความกระตือรือร้นในการเรียนและการทำงานก็จะทำให้ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้ด้วยน้ำมือของคุณเอง คนเราไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ความกระตือรือร้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะทำให้เรามีใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ ทำให้เราทำได้ดีและเร็วขึ้น นี่เป็นคุณสมบัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคนพึงมี
"เมื่อมีความกระตือรือร้น คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้"
สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคุณได้ เส้นทางเดียวที่จะทำให้คุณกลายเป็นมหาเศรษฐี นั้นก็คือ คุณต้องทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบ และต้องมีความกระตือรือร้นในการเรียน หากคนคนหนึ่งขาดความกระตือรือร้น เขาก็จะดูแก่กว่าอายุจริง สภาพจิตใจก็ไม่ดี เหมือนคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ความกระตือรือร้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราแสดงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ออกมาได้และศักยภาพนี้สามารถทำให้เราก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จที่คาดหวังไว้ได้
"ความมั่นใจในตัวเองทำให้เกิดความกระตือรือร้นและความกระตือรือร้นนั้น พิชิตทุกอย่างในโลกนี้ได้"
ความกระตือรือร้นเป็นพลังจากภายในจิตใจ ทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง มีสมาธิและความพยายามในการเรียนและการทำงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
"เมื่อมีความกระตือรือร้นจนติดเป็นนิสัยแล้ว ความหวาดกลัวและวิตกกังวลจะหมดไปจากชีวิต"
ถ้าหากเรามีความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตทุก ๆ วัน ชีวิตก็จะมีแต่ความสำเร็จ ปฏิบัติต่อคนอื่นไว้อย่างไร คนอื่นก็จะปฏิบัติต่อคุณอย่างนั้น คุณใช้ชีวิตอย่างไร ชีวิตของคุณก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าหากเรามีความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตทุก ๆ วัน ชีวิตก็จะมีแต่ความสำเร็จ
"ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องมีความกระตือรือร้น"
คุณต้องมีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างเต็มที่ จึงจะประสบผลสำเร็จ คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาทำงานเยอะแค่ไหน แต่อยู่ที่งานที่เขาทำนั้นมีค่ามากแค่ไหนต่างหาก!
"กระตือรือร้นอย่างพอเหมาะ หากหักโหมเกินไปจะกลายเป็นผลเสีย"
ความกระตือรือร้นที่มากจนเกินไปไม่ได้ช่วยให้ประสบความสำเร็จ แต่กลับเป็นอุปสรรคสำคัญที่กีดขวางเส้นทางสู่ความสำเร็จ
บทที่ 5 : มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้
"เมื่อรู้สึกว่าสายเกินไป แต่นั้นอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็ได้"
เมื่อคุณมีความมุ่งมั่นที่จะทำอะไรสักอย่าง จงอย่าคิดว่ามันสายเกินไป สิ่งที่ยาวที่สุดในโลกคือเวลา ส่วนสิ่งที่สั่นที่สุดในโลกก็คือเวลาเช่นกัน! เพราะว่าเวลามันยาวจะทำอะไรก็ไม่จบไม่สิ้น และเวลามันก็สั้น ยังไม่ทันทำอะไรก็หมดไปแล้ว
"หากตอนนี้เอาแต่งีบหลับน้ำลายไหล อนาคตต่อไปอาจต้องหลั่งน้ำตา"
อยากประสบความสำเร็จนั้นไม่ยาก ขอเพียงรีบลงมือทำในทันที ความลับแห่งความสำเร็จคือการลงมือทำ หากไม่ลงมือทำ ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ความฝันถือเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่หากฝันเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ลงมือทำ ความฝันที่หวังไว้คงไม่มีวันสำเร็จ
"ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม แล้วคุณจะเหนือกว่าคนอื่นในเวลาอันรวดเร็ว"
ความสำเร็จในอดีตคือความทรงจำ สิ่งสำคัญคือความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม หากคุณเลือกเส้นทางนี้แล้ว ต้องมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มกำลังความสามารถ เอาชนะตัวเองและคนอื่นให้ได้!
"ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเริ่มต้นใหม่ที่ดี"
ขอเพียงลงมือทำทันที ต่อให้ยากลำบากสักแค่ไหน ก็สามารถชนะได้ง่าย ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ให้รีบลงมือทำ! หากไม่เดินหน้าก็แสดงว่ายอมแพ้ เดินหน้าช้าไปก็แพ้เช่นกัน คนที่ลงมือทำทุกอย่างเพื่อความฝันของตัวเอง โลกจะเปิดทางให้กับเขา
"ในการเรียนและการแข่งขันนั้น ประสิทธิภาพคือทุกสิ่งทุกอย่าง"
ไม่ว่าคุณจะคร่ำเครียดอยู่กับการเรียน หรือยุ่งอยู่กับการทำงาน ประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณอยู่เหนือผู้อื่น และไม่มีใครเป็นคนสมบูรณ์แบบ การแข่งขันในสังคมนั้น ประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ มันสามารถทำให้พนักงานและบริษัทอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ ทำให้คุณต้องหลงใหลและชื่นชมไปกับมัน หากมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนหน้าดำหน้าแดง ประสิทธิภาพที่ได้อาจไม่ดีดังที่คาดไว้
"อย่าปล่อยให้งานในวันนี้ ต้องไปทำในวันพรุ่งนี้"
คนที่รอคอยแต่วันพรุ่งนี้ มักจะไม่เห็นความสำคัญของวันนี้ บางทีวันพรุ่งนี้ที่คุณรอคอยนั้นอาจมาไม่ถึงก็ได้ เคล็ดลับแห่งความสำเร็จคือ ลงมือทำทันที งานของวันนี้ ต้องทำให้เสร็จวันนี้ หากต้องการประสบความสำเร็จเหนือผู้อื่น คุณต้องรีบลงมือทำ การเริ่มต้นในก้าวแรกนั้นสำคัญที่สุด!
"รีบลงมือทำ อย่ามัวแต่เกียจคร้าน"
อย่าปล่อยให้งานของวันนี้ต้องไปทำต่อในวันพรุ่งนี้โดยเด็ดขาด คนเรามีความเกียจคร้านในตัวเองทั้งนั้น หารู้ไม่ว่าความเกียจคร้านนี่เองเป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลว
"หากไม่เดินหน้าในวันนี้ พรุ่งนี้คงต้องวิ่งไล่ตาม"
ปัจจุบันคือจุดเริ่มต้นของอนาคต ไม่มีปัจจุบันก็ไม่มีอนาคต ใช้วันนี้อย่างมีคุณค่า แล้ววันพรุ่งนี้จะคืนกลับให้คุณเป็นสองเท่า และเวลาที่ทุกคนมีเหมือนกันนั้นคือ ปัจจุบัน
บทที่ 6 : เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
"ความรู้คือทรัพย์สินอันมีค่า แม้แต่โจรก็ไม่สามารถขโมยไปได้"
ความรู้มีค่ามากกว่าเงินทอง เพราะเงินทองไม่สามารถซื้อความรู้ได้ ภูเขาหนังสือใช้ความขยันเป็นเส้นทาง ทะเลความรู้ใช้ความขื่นขมเป็นเรือพา ขอเพียงมุ่งมั่นตั้งใจเรียน คุณก็สามารถหาความรู้ได้มากมาย ซึ่งความรู้เหล่านี้จะกลายเป็นทรัพย์สินที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
"มองว่าการเรียนรู้คือหน้าที่ ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง"
การเรียนรู้คือการใช้แรงงาน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดอันยิ่งใหญ่ วิชาความรู้ดุจเรือที่แล่นทวนสายน้ำ หากไม่ก้าวหน้าก็มีแต่ถอยหลัง หากเราไม่มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง นับวันความสามารถของเราก็ยิ่งถดถอย
"การเรียนนันยากลำบากเพียงชั่วคราว แต่หากไม่มีความรู้ คือความเจ็บปวดตลอดชีวิต"
ที่ดินหากไม่มีการเพาะปลูก ต่อให้อุดมสมบูรณ์แค่ไหนก็ไม่มีออกผล คนถ้าไม่เรียน ต่อให้ฉลาดแค่ไหนก็ไม่สามารถรู้หนังสือได้ โอกาสมักจะเป็นของคนที่มีความพร้อมเสมอ แต่ความสำเร็จมักจะเป็นของคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและรักการเรียนรู้
"ไม่หยุดที่ตะพัฒนาตนเอง นำความรู้ที่ได้จากการเรียนเปลี่ยนเป็นความสามารถ"
การเรียนรู้คือแรงผลักดัน มันสร้างโลกที่งดงามได้ การเรียนรู้นั้น มีส่วนช่วยให้คนเราเจริญเติบโต หากเราไม่เรียนรู้ เราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด
"คนที่ลงทุนลงแรงเพื่ออนาคต จึงจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อปัจจุบันตัวเอง"
การเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงโลก ความรู้ที่ได้สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคต ความจริงแล้วมีหลายคนที่ไม่รู้จักการลงทุนเพื่ออนาคตของตัวเอง มัวแต่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้า แต่หารู้ไม่ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับอนาคตที่น่าจะสดใสกว่านี้ของตัวเอง ดังนั้นผมอยากบอกกับพวกคุณว่า หากต้องการประสบความสำเร็จก็ต้องรู้จักการลงทุนเพื่ออนาคตของตัวเอง โดยการทำวันนี้ให้ดีที่สุด!
"จงเรียนให้หนักและเที่ยวเล่นให้เต็มที่"
การเที่ยวเล่นมีคุณค่าเท่ากับการทำงานหรืออาจพูดได้ว่าการเที่ยวเล่นเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน ก็ต้องใช้เวลาทุกนาที ทุกวินาที ทำมันให้เต็มที่ที่สุด และเมื่อเราทำงานที่รับผิดชอบอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายและเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง
"ต้องรอบรู้ในทุกด้าน อย่ารู้เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ"
เพียงรู้รอบด้าน ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม ไม่ว่าตอนไหนก็รู้สึกว่าไม่เพียงพอ ยิ่งอ่านหนังสือ ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองยังรู้น้อยเกินไป เพราะความรู้มันช่างมีความลึกซึ้งเหลือเกิน
บทที่ 7 : บริหารเวลาให้เป็น
"ความคิดสร้างสรรค์คือของขวัญอันล้ำค่าของชีวิต ต้องทลายกำแพงความคิดเก่า ๆ
ที่มีอยู่ภายในจิตใจ จึงจะไปสู่เส้นทางแหางความสำเร็จได้"
ความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์ หากไม่มีความสร้างสรรค์ ก็จะไม่มีความแปลกใหม่ ชีวิตก็ต้องอยู่กับสิ่งเดิม ๆ หากต้องการประสบความสำเร็จ จงปลดปล่อยจินตนาการของคุณออกมาให้เต็มที่
"หากต้องการเปลี่ยนแปลงผลการเรียน ต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนเสียก่อน"
คนที่คิดได้ แต่ผิด ยังดีกว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลย แต่คิดว่าตัวเองถูก ความคิดนั้นเป็นแรงผลักดันให้เราทำอะไรออกมาโดดเด่นกว่าผู้อื่นเสมอ เช่นเวลาร้องเพลง หากมีความมั่นใจก็จะร้องได้ดีและโดดเด่นกว่าคนอื่น และหากต้องการเรียนรู้ ต้องมีความเชื่อมั่นในตนเองก่อน
"อย่าปิดกั้นตัวเอง จินตนาการของคุณมีมากกว่าที่คุณคิด"
คนที่ลงมือทำ จึงจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่มีความคิดสร้างสรรค์นั้นมักจะมีจินตนาการที่ล้ำเลิศกว่าผู้อื่นเสมอ หากไม่มีจินตนาการก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
"เส้นทางสู่ความสำเร็จ ไม่ได้มีเพียงเส้นทางเดียว"
อัจฉริยะ คือคนที่ทำอะไรแตกต่างไปจากคนอื่นเท่านั้นเอง จินตนาการทำให้เราบินได้สูงขึ้น ส่วนความคิดสร้างสรรค์นั้นทำให้เราบินได้นานยิ่งกว่า เราจะไม่คิดว่าคำตอบของทุกปัญหามีเพียงคำตอบเดียว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ขอเพียงมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
"ความคิดและแรงบันดาลใจ มาจากชีวิตของคุณเอง"
คนที่มีความคิด ยินดีที่จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางปัญหา เขาจะรีบคิดหาวิธีแก้ไข แต่จะรอวิธีการที่เหมาะสมที่สุด แนวคิดทุกอย่างล้วนมาจากชีวิตของเราเอง เพราะชีวิตที่แปลกใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องนั่งคิดอยู่บนดวงจันทร์เท่านั้นจึงจะคิดออกมาได้
"ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ ทลายกำแพงความคิดเก่า ๆ ที่มีอยู่"
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง จะสามารถหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางความคิดต่าง ๆ ที่ตนเองสร้างขึ้นได้ ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเรียนรู้ในภายหลัง ความจริงแล้วคนเราเกิดมาก็มีสิ่งนี้ติดตัวมาด้วยอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ค่อยสันทัดหรือไม่มีโอกาสได้ใช้มันเท่านั้นเอง
"จะบินไปแตะขอบฟ้า ไม่จำเป็นต้องมีปีก"
ชีวิตคนเราก็เหมือนกับการเดินทาง โดยมีความคิดเป็นไกด์นำทาง หากไม่มีไกด์นำทาง ชีวิตของเราก็ต้องหยุดชะงัก เราต้องใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ และต้องเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ตลอดเวลาอีกด้วยเราถึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
บทที่ 8 : กำหนดกฎเกณฑ์ของตัวเอง
"แสงสว่างที่สาดส่องแต่ละตารางนิ้ว ล้วนทำให้เกิดชีวิตใหม่ได้เสมอ"
รู้ค่าเวลาทุกนาที ทุกวินาที เห็นคุณค่าของเวลาในวันนี้ เวลาคือสิ่งเดียวที่ไม่ควรใช้ให้หมดไปอย่างไร้ประโยชน์ การสูญเสียเวลาไปนั้นถือว่าเจ็บปวดที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการสูญเสียสิ่งอื่น ๆ เพราะเวลาทุกวินาทีนั้นมีค่ามาก เราจึงต้องลงมือทำในทันทีโดยไม่มีการผัดวันประกันพรุ่ง หากมีความคิด
เช่นนี้ คิดอะไรก็รีบลงมือทำ อนาคตของเราจะยิ่งสดใสมากขึ้นแน่นอน
"เวลาก็เหมือนกับโจร เมื่อหายไปแล้ว จะไม่เหลืออะไรไว้อีกเลย"
จำนวน 93% ของคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง สุดท้ายแล้วมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ เพราะการผัดวันประกันพรุ่งทำให้ความกระตือรือร้นลดลง หากเราเห็นคุณค่าของมัน เราก็ใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ หากไม่เห็นความสำคัญของมัน มันก็จะผ่านไปแบบไม่มีวันหวนกลับมา และเมื่อรู้สึกตัวทุกอย่างก็สายไปแล้ว
"หากปล่อยเวลาให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ เวลาจะไม่รอคุณเช่นกัน"
การปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ คือความผิดอันใหญ่หลวง เราควรให้ความสำคัญกับเวลาเป็นอย่างยิ่ง ต้องเห็นคุณค่าของเวลาทุกวินาที เพราะเราไม่รู้เลยว่าเวลาจะไปจากเราเมื่อไหร่ หากบริหารเวลาไม่เป็นก็จะทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งเวลาไม่เคยมีเพิ่มมากขึ้น แต่กลับน้อยลงเรื่อย ๆ
"พระเจ้ามักจะให้สิทธิ์แก่ผู้ที่บริหารเวลาเป็นก่อนเสมอ"
เวลาไม่เคยคอยใคร คนที่เห็นคุณค่าของเวลาเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ เราจะเห็นคุณค่าของเวลาหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่คำพูด แต่อยู่ที่การกระทำ คนที่เอาแต่พูดว่าจะเห็นคุณค่าของเวลานั้น สุดท้ายก็ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ จะเห็นได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เห็นคุณค่าของเวลาอย่างแท้จริง คนเราทุกคนต้องมีเป้าหมาย มีเส้นทางที่เลือกเดิน หลังจากนั้นก็ต้องเห็นความสำคัญของเวลาทุกวินาที เช่นนี้แล้วไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
"ให้ตัวเราเป็นตัวกำหนดวันเวลา อย่าปล่อยให้วันเวลาเป็นตัวกำหนดชีวิตเรา"
จัดการเวลาอย่างเหมาะสม ก็เท่ากับเป็นการประหยัดเวลา เราทุกคนต้องให้ความสำคัญกับวันนี้โดยไม่อาลัยอาวรณ์กับเมื่อวาน และไม่คาดหวังกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว แล้วเราจะรู้จักคุณค่าของเวลามากกว่าเดิม
"ระวัง! อย่าปล่อให้จอมโจรแห่งการเวลา ขโมยของมีค่าของเราไป"
คนที่เห็นคุณค่าของเวลา จะไม่เคยบ่นว่าเวลามีไม่พอ เวลาเป็นเงินเป็นทอง แต่สำคัญดั่งชีวิต จึงต้องดูแลให้ดีเหมืนกับที่ดูแลร่างกายของตัวเอง หากเราไม่ดูแลร่างกายให้ดีจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมา แต่หากไม่ดูแลเวลาให้ดี มันจะจากเราไปแบบไม่หวนกลับคืนมา
"ปล่อยเวลาให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย"
เวลา คือรากฐานสำคัญของความสำเร็จ เวลาจะมอบความเจ็บปวดให้กับคนที่เอาแต่เพ้อฝัน แต่จะมอบความสุขให้กับคนที่มีความคิดริเริ่ม บางทีอำนาจและความมั่งคั่งทำให้คนเราเกิดความเหลื่อมล้ำต่อกัน แต่โลกนี้ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ยุติธรรมกับทุกคนไม่ว่าจะเกิดมายากดีมีจนอย่างไร ทุกคนมีเหมือนกันหมด นั้นก็คือ เวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน เวลาสามารถทำให้ขอทานผู้ยากไร้และประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่มีความเท่าเทียมกัน แต่ในขณะเดียวกันเวลาคือสิ่งที่ไม่มีความยุติธรรมมากที่สุด และความไม่ยุติธรรมที่ว่านี้เกิดมาจากตัวเราเองทั้งสิ้น
บทที่ 9 :กำหนดความฝันให้แน่ชัด
"ความสำเร็จขั้นสูงสุด มาจากการรู้จักกำหนดกฏเกณฑ์ของตนเอง"
ความสำเร็จไม่ใช่มาง่าย ๆ มันต้องอาศัยจิตใจที่แน่วแน่ในการบริหารจัดการตนเอง การบังคับตนเองจัดอยู่ในความสามารถในการใช้ชีวิต มันทำให้คุณรู้จักเปรียบเทียบ ทบทวนตนเอง เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น การบังคับตนเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต มันทำให้คุณควบคุมอารมณ์ของตนเอง ต่อต้านสิ่งยั่วยุต่าง ๆ และพาคุณเดินไปสู่ความสำเร็จได้!
"ต้องเรียนรู้ที่จะตัดสินตัวเองก่อน"
จงพิจารณาตนเองให้แน่ชัดก่อนที่จะไปตัดสินคนอื่นว่าตัวคุณกำลังหลอกตัวเองหรือผู้อื่นอยู่หรือเปล่า จงคิดให้ดี การตัดสินคนหรือเรื่องอะไรก็ตามอย่างยุติธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การพิจารณาตัวเองให้แน่ชัดนั้นยากยิ่งกว่า หลายคนมีความมั่นใจคิดว่าตัวเองมีความสามารถเหนือกว่าคนอื่น แต่ความจริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เราทุกคนต้องหมั่นพิจารณาตนเอง เพื่อให้รู้จักตนเองมากยิ่งขึ้น
1
"อย่ามัวแต่ยึดติดอยู่กับอดีต ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง"
ต้องรู้จักปล่อยวาง เพื่อระบายสิ่งที่ไม่ดีที่อยู่ภายในจิตใจให้หมดไป ในชีวิตคนเรามีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหมือนกับการเดินขึ้นเขา ย่อมต้องมีการเดินลงจากเขา เมื่อไปถึงสถานที่หนึ่งก็ย่อมต้องเปลี่ยนไปอีกสถานที่หนึ่ง ทำเรื่องนี้เสร็จก็ต้องไปทำเรื่องนั้นต่อ หากเรามัวแต่ยึดติดเรื่องราวในอดีต ให้มันส่งผลกระทบต่อเราในปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลยนะ! ดังนั้นเรื่องแย่ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว จงให้มันผ่านไป อย่าไปยึดติดกับมัน จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเดินหน้าสู่อนาคตที่สดใส
"อยากเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้ได้ก่อน"
มีคุณธรรมแต่ไร้ความสามารถ คือคนไม่มีคุณภาพ มีความสามารถแต่ไร้คุณธรรม คือคนที่น่ากลัว ต้องมีทั้งคุณธรรมและความสามารถ จึงจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ การทำให้คนเป็นผู้ใหญ่คือพื้นฐานของการศึกษา ส่วนการทำให้คนประสบความสำเร็จคือเป้าหมายของการศึกษา ก่อนที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ให้ได้เสียก่อน หากไม่รู้จักความหมายของคำว่า "คน" ก็คงไม่มีความรับผิดชอบตาอสังคมได้
"หลีกเลี่ยงการทำเรื่องที่ผิดซ้ำซาก ต้องคิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ"
คนที่คิดก่อนทำ มักจะทำอะไรไม่ผิดพลาด ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ต้องไม่บุ่มบ่าม คิดให้รอบคอบก่อนลงมือทำ แต่ในชีวิตจริงของเรานั้น มักจะเจอคนที่ทำอะไรไม่คิดทบทวนให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำ พอทำไปแล้วเกิดความผิดพลาด ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
"ศัตรูตัวสำคัญที่ขัดขวางความสำเร็จคือการที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้"
คนที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ไม่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นคนที่มีชีวิตอิสระ ความสามารถในการควบคุมตนเองมีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตของคนเรา เพราะคนที่ทำเรื่องใหญ่ ๆ ได้นั้นมักจะมีความอดทน แยกได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องไหนเป็นเรื่องเล็ก รู้จักการควบคุมตัวเอง ไม่ทำอะไรด้วยความบุ่มบ่าม
"ค่าของคน อยู่ที่การรู้ข้อผิดพลาดของตนเอง"
คนที่คิดว่าคนทั้งโลกผิดนั้น ความจริงตัวเองนั้นแหละผิด ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่ไม่มีคำตอบตายตัว หลายครั้งที่เราคิดว่าคนอื่นทำผิดพลาด ต่อมากลับพบว่าความจริงเป็นตัวเองต่างหากที่ทำผิด เราต้องเข้าใจประโยคที่ว่า มนุษย์มิใช่นักปราชญ์ ดังนั้นต้องเคยทำผิดพลาด คนไม่ใช่นักปราชญ์ไยจะไม่เคยทำผิดพลาด ในเมื่อทุกคนเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น เราควรให้ความสำคัญว่าจะรับมือกับความผิดพลาดนั้นอย่างไรต่างหาก
"ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ก่อน จึงจะสามารถควบคุมคนอื่นได้"
คุณไม่สามารถควบคุมผู้อื่นได้ แต่คุณควบคุมตัวคุณเองได้ เราทุกคนต้องรู้จักการควบคุมทั้งคำพูดและการกระทำของตัวเองให้ได้ การควบคุมตัวเองไม่ใช่แค่เปลือกนอก แต่มันต้องออกมาจากจิตใจด้วย จึงจะทำให้เรามีเสน่ห์ เป็นที่ดึงดูดสายตาของทุกคนได้อย่างง่ายดาย
บทที่ 10 : คว้าโอกาสให้อยู่หมัด
"ดอกไม้ในอุดมคติ มักจะเบ่งบานอยู่ในหนังสือที่เราอ่าน"
แม้กระทั่งในตอนนี้ คู่ต่อสู้ของคุณก็ยังไม่ยอมวางหนังสือลงจากมือ มีคำพูดที่ประเทศจีนกล่าวไว้ว่า "คฤหาสน์ทองคำล้วนมีอยู่ในตำรา หญิงสาวโฉมงามล้วนมีอยู่ในตำรา ธัญพืชนับพันล้วนมีอยู่ในตำรา" ทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จนั้น ย่อมต้องอ่านหนังสือ เพื่อทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง
"ความสำเร็จและความฝันเกิดจากแรงบันดาลใจของตัวเอง"
หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ก็ต้องวาดความฝันไว้ก่อนและต้องพูดตักเตือน สั่งสอนและให้กำลังใจตนเองเป็นประจำทุกวัน คนเราทุกคนล้วนมีความฝันเป็นของตัวเอง แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมาได้ แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ คนสำเร็จทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ต้องให้กำลังใจตัวเอง" การให้กำลังใจตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถทำให้คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จ การกระทำทุกอย่างของคนเราล้วนมีที่มาจากแรงกระตุ้นและกำลังใจ หากให้กำลังใจตัวเองเป็นประจำ เราก็จะแสดงควสมสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่และเดินไปสู่เป้าหมายได้ในที่สุด
"ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม จงอย่าละทิ้งแรงศรัทธาและอุดมคติของตัวเอง"
มีแรงศรัทธาเช่นไร ก็จะได้ผลลัพธ์เช่นนั้น การกระทำของคนเรานั้น มักจะได้รับอิทธิพลจากแรงศรัทธาของตนเอง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นผลจากการกระทำอีกทีหนึ่ง คำว่า "แรงศรัทธา" หมายความว่า "คำพูดในจิตใจของฉันที่พูดคุยกับตัวเองในวันนี้"
"อย่านำเป้าหมายของชีวิต ไปปะปนกับเรื่องฝันกลางวัน"
ความเป็นจริงอยู่ฝั่งนี้ ส่วนเป้าหมายอยู่อีกฝากฝั่งหนึ่ง ตรงกลางมีแม่น้ำขวางกั้นอยู่ ซึ่งการลงมือทำนั่นเอง จะเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างความจริงกับเป้าหมาย และอย่านำเป้าหมายของชีวิตไปปะปนกับเรื่องฝันกลางวัน เพราะความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงได้นั้นคือ ความฝันที่ไร้สาระ อย่าฝันในสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้ จงมุ่งมั่นทำความฝันที่มีโอกาสเป็นจริงโดยอาศัยความขยัน ตั้งใจและอดทนของตนเอง
"อย่ามัวแต่วิ่งไล่ตามความฝันอย่างไม่ลืมหูลืมตา เพราะความฝันที่แท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียว"
คนที่ไม่รู้จักตนเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะมีแต่อุปสรรคและปัญหาคอยกีดขวาง หลายครั้งที่เรามีความฝันแต่ล้มเลิกกลางคัน นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในชีวิตของใครหลายคน อย่าทุ่มเทเวลาและแรงกายไปขุดบ่อน้ำตื้นหลาย ๆ บ่อ แต่ควรขุดบ่อน้ำลึกเพียงบ่อเดียวให้สำเร็จ ความฝันของคนเรานั้นไม่ควรมีมากจนเกินไป ควรจะมีเพียงหนึ่งเดียว แล้วจงมุ่งมั่นตั้งใจทำความฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมา
"คนที่ไร้เป้าหมาย ก็เหมือนเรือที่ไร้เข็มทิศ"
ความสำเร็จเกิดจากความมุ่งมั่นพยายามอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เป้าหมายที่ตนเองคาดหวังไว้เป็นจริงขึ้นมา หากคนเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายแล้วก็จะทำอะไรไม่สำเร็จเลยสักอย่าง โปรดจงจำเอาไว้ว่า "ขอเพียงมีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น"
"ทำเรื่องที่ตัวเองถนัดก่อน"
คนเราทุกคนต่างก็มีนิสัย หน้าที่และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงควรค้นหาสิ่งที่ตนเองถนัดและทำมันออกมาให้ดีที่สุด ความจริงแล้วโลกภายนอกนั้นเต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุ หากเราไปลุ่มหลงอยู่กับสิ่งยั่วยุเหล่านั้น ชีวิตก็เหมืนตกลงไปในเหวลึก ไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้อีก
"ต้องรู้สิ่งที่ตัวเองต้องการก่อน จากนั้นค่อยทำสิ่งนั้นให้สำเร็จขึ้นมา"
การตัดสินใจของคนเราก็เหมือนกับนาฬิกาข้อมือที่ไม่สามารถเดินได้ตรงกันทุกเรือน ดังนั้นทุกคนควรมีความเชื่อมั่นในตนเอง การที่คนเราทำอะไรแล้วล้มเลิกกลางคันเสียก่อนหรือไม่สามารถทำจนประสบความสำเร็จได้นั้น สาเหตุสำคัญคือยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ดังนั้นเมื่อคุณต้องการลงมือทำอะไรสักอย่าง คุณต้องมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน
HARVARD'S 4:30 A.M.
"จะคว้าโอกาสที่อยู่รอบตัวได้อย่างไร"
คนเราไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตาม หากไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างที่ทุ่มเทลงไปก็สูญเปล่า นักปราชญ์ชมวอังกฤษกล่าวไว้ว่า คนฉลาดมันจะสร้างโอกาสด้วยมือของตัวเอง มากกว่าการรอคอยโอกาสที่จะได้รับ ความสำเร็จนั้นมาจากความพยายามของตัวเราเอง ขอเพียงคุณอย่าปล่อยให้โอกาสที่ดีหลุดลอยไป หมั่นพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แล้วความสำเร็จจะอยู่ในมือของคุณ!
"คนหนุ่มสาวต้องรีบคว้าโอกาสที่ดีเอาไว้"
ชีวิตคนเรามันสั้นนัก โอกาสที่ดีไม่ได้มีบ่อย ๆ ดังนั้นจึงต้องรีบคว้าเอาไว้ มิเช่นนั้นแล้วอาจพลาดไปทั้งชีวิต หลายครั้งที่โอกาสดี ๆ จากเราไปแบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นเมื่อมีโอกาสดี ๆ มาถึง เราจึงควรเห็นคุณค่าและคว้ามันมาให้ได้
"จงเอื้อมไปคว้าโอกาสด้วยมือของตัวเอง"
ชีวิตและหน้าที่การงานของเรานั้นไม่ใช่สวรรค์เป็นผู้ลิขิต แต่มาจากความมุ่งมั่นของเราต่างหาก คนเรามักจะมองไม่เห็นโอกาสรอบ ๆ ตัว คิดแต่จะไปทำงานหาเงินไกลบ้าน ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วโอกาสดี ๆ มันอยู่ใกล้ ๆ ตัวเรมนี่แหละ
"โอกาสมาแล้ว อย่ามัวแต่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น"
โอกาสใคร ๆ ก็มีได้ แต่หลายคนยังไม่รู้ตัวเองได้เจอกับมันแล้ว หลายครั้งสิ่งที่เราพลาดไปไม่ใช่โอกาส แต่เป็นเพราะเราไม่ยอมคว้ามันไว้ต่างหาก หากมีโอกาสเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน จงรีบคว้ามันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ หากมัวแต่นิ่งนอนใจ โอกาสจะหลุดลอยไปแบบไม่มีวันหวนกลับมา
"หลายครั้งที่ต้องเสียโอกาสไป เพราะความลังเลใจ"
โอกาสมาเร็วไปเร็ว ดังนั้นต้องรีบคว้ามันเอาไว้ให้ได้ มีชาวยิวเคยพูดไว้เกี่ยวกับเมื่อโอกาสมาถึงว่า "ชีวิตของคนเรานั้นมีอยู่สามสิ่งที่ไม่สามารถใช้เยอะจนเกินไป นั้นก็คือ ยีสต์ กับเกลือที่ใช้ทาขนมปัง และความลังเล" เพราะหากว่าใส่ยีสต์มากเกินไป ขนมปังจะเปรี้ยว หากใส่เกลือมากเกินไป ขนมปังก็จะเค็ม และหากมีความลังเลใจมากจนเกินไปก็จะพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ก็ต้องรู้จักคว้าโอกาสเอาไว้ อย่าลังเลและเลือกมากจนเกินไป
"ความลังเลใจ ทำให้สูญเสียโอกาสที่ดีไป"
การคิดรอบคอบจนเกินไป ทำให้คนเรามองเห็นความสำคัญของโอกาสไม่มากพอ สุดท้ายก็ต้องพลาดโอกาสดี ๆ ไป มีท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า "อันตรายที่สุดของความลังเลใจ คือการพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ และโอกาสไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ เวลาที่ผ่านไปไม่อาจย้อนกลับมาได้" หากทำอะไรมัวแต่ลังเล ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงกันแน่ สุดท้ายแล้วก็จะไม่ประสบความสำเร็จเลยสักอย่าง
"โอกาสมักจะอยู่ในเป้าหมาย ที่คุณเฝ้าปรารถนา"
โอกาสมักจะชอบคนที่เตรียมตัวพร้อม นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดนั้นก็คือ คนที่มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ พวกเขาจะมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน และจะมุ่งมั่นทำทุวิถีทางเพื่อให้เป้าหมายนั้นสำเร็จขึ้นมา
"ต้องรู้จักคว้าโอกาสและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง"
การกระทำที่โง่เขลา ทำให้ยากจนข้นแค้น ส่วนการลงมือทำที่ถูกจังหวะ จะทำให้ร่ำรวย จงเลือกโอกาสที่เข้ามาให้เหมาะสมกับสิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุด และจงอย่าเลือกเดินในเส้นทางที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง บนเส้นทางชีวิตของคนเรานั้น มีโอกาสมากมายให้เราเลือก ดังนั้นนอกจากที่เราต้องพยายามคว้ามันเอาไว้ให้ได้แล้ว ยังต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองอีกด้วย
HARVARD'S 4:30 A.M.
ในตลอดระยะเวลาในการอ่านหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้สอนในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ ควบคุมตัวเองเป็นหลักสำคัญใหญ่ ๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ความฝัน เป้าหมายของตัวเราเอง ควบคุมแบบไหน ยังไงไม่ให้วอกแวกหรือหลุดโฟกัสไปกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของเรา สิ่งที่มากกว่าการคิดได้ คือ "เราต้องคิดให้เป็น พร้อมกับลงมือทำไปพร้อม ๆ กัน"
ตั้งแต่อ่านเล่มแรกผมก็บอกว่าดีแล้วนะครับและมาบวกกับเล่มนี้ บอกได้คำเดียวว่า "โคตรครบครัน โคตรดีอ่ะจริง ๆ" สำหรับใครสนใจที่อยากจะอ่านตัวเต็มต่อสามารถไปหาซื้อมาอ่านกันได้เลย
>>> อ่านหนังสือพัฒนาตนเอง <<<
05.09.2019

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา