16 ก.ย. 2019 เวลา 08:07 • ไลฟ์สไตล์
ซีรีส์แสงชีวิต
ตอน 'ความอิจฉา พาลงอเวจี'
นิสัยของมนุษยชาตินี้ชอบ อิจฉาริษยา
เห็นคนอื่นดี ทนอยู่ไม่ได้
นี้ล่ะเป็นนิสัย ของสรรพสัตว์ในโลก
น่ากลัว ...
สรุปแล้ว ถ้าเห็นคนอื่นเขาได้ดี
แล้วก็ มุทิตา พลอยยินดีด้วย เมื่อเขาได้ดี มันหายาก
4
โดยมากเมื่อเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้ ใจลุกเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
ความอิจฉาพยาบาท อาฆาต จองเวร เกิดขึ้นในจิตใจ
นั้นล่ะ แปลว่าคนคนนั้นถางทาง หรือ ทำถนน ไปสู่อเวจีมหานรก
1
(ดังนั้น)ถึงยังไงเราจะอิจฉายังไง เราก็ต้องพยายามหักห้ามจิตใจของเรา
ให้ถือเสมือนว่า ถ้าเราอิจฉาคนอื่น
ถึงจะเรื่องจริง เรื่องไม่จริง เรื่องอะไรก็ตาม
ถึงจะนิดๆ หน่อยๆ ก็ตาม มันเกิดขึ้นในใจของเรา
ไม่มีใครที่จะรู้ ยิ่งกว่าใจของเรา
ว่าขณะนี้ใจของเรา อิจฉาเรื่องอะไร
ถ้าพออิจฉาขึ้นมา ให้รู้เอาไว้เลยว่า
ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าบอกว่า
ความอิจฉาตัวนี้ล่ะ แปลว่าตัวเองถางทางทำถนน ไปสู่หน้าเหวหน้าผา ไปสู่อเวจีมหานรก
ให้พวกเราคิดอย่างนั้นเอาไว้
ในเมื่อเราเราคิดอย่างนั้นเอาไว้ เรารู้แล้วว่า
การอิจฉาพยาบาท การอาฆาตพยาบาท จองเวรคนอื่น ในทางที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นบาปอกุศลอย่างหนัก ในหลักของพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์จึงบอกว่า อย่ามาเกิดในโลกดีที่สุด
ถ้าอยู่ในโลกนี้ เรื่องอิจฉา พยาบาท อาฆาต
จองเวรกันมันอยู่ในโลกวัฏสงสารนี้ล่ะ
เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราทุกๆ ท่าน ศรัทธาญาติโยมทุกคน เมื่อได้ยินเสียงธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า สรุปแล้วก็เรื่องทำความชั่วทั้งหมด คิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว อย่าทำเสียเลยดีกว่า
เมื่อเราคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว กรรมชั่วให้ผล
ตนเองนั้นแล จะเดือดร้อนเมื่อภายหลัง ถ้าเราทำกรรมสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ สิ่งที่ไม่ดีจะให้ผล
อันนี้ให้พวกเราฟังเอาไว้
นี้แหละ...หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
โดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา "ความอิจฉาพาไปอเวจี"
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๘
ที่มาเรื่อง ภาพและภาพจากคลิป:
1
เพจ 'ธรรมะเน้นๆ A Great Degree Dhamma'
วันจันทร์ที่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา