11 ก.ย. 2019 เวลา 17:00
EP. 2 : ความไม่พร้อม
คุณรู้มั้ย ศัตรูแรกของการทำธุรกิจบ้านผางามคือ “ ความไม่พร้อม “ครับ
ความไม่พร้อมนี่ ถ้าให้ผมเปรียบเทียบเป็นคนล่ะก้อ.. เค้าก็คือคุณครูใจร้ายในแว่นหนาเตอะพร้อมไม่เรียวอันโตนั่นเอง!
คุณจะต้องเจอหน้าเค้าอยู่ทุกๆวัน หวาดกลัว ตื่นเต้นว่าเราแต่งตัวดีแล้วหรือยัง? วันนี้กูจะพลาดอะไรอีกรึเปล่าวะเนี่ย? ก็ได้แต่ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด
ความกลัวนี้ ถึงขั้นในเช้าของหลายๆวัน เราแทบไม่อยากลุกขึ้นไปโรงเรียนเลยทีเดียว!
ตอนเริ่มธุรกิจใหม่ก็เช่นกัน คุณต้องอยู่กับความไม่พร้อมต่างๆนานา มันจะมีแต่ความรู้สึกอยากปรับปรุงเรื่องนั้นเรื่องนี้เต็มไปหมด
อยากเปลี่ยนนี่แต่ก็ยังไม่มีเงินพอ อยากทำได้อย่างนี้แต่ยังไม่เก่งพอ แล้วคุณก็ต้องอยู่กับความรู้สึกนี้อยู่ทุกๆวัน
ที่คุณพอจะทำได้ก็คือ ตั้งใจบริการ ทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจ เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดตรงนั้น
สองปีแรก เป็นช่วงที่ผมต้องอดทนกับความรู้สึกไม่พร้อม คำแนะนำของลูกค้าว่าทำไมห้องพักไม่มีแอร์ น่าจะทำห้องเพิ่มนะ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เหรอ ทำไมไฟดับนานจัง หลายเรื่องก็อยากทำ แต่มันยังทำไม่ได้ ก็ต้องเลี้ยงความรู้สึกลูกค้ากันไป
และก็เป็นสองปีแรกนี่แหละ ที่ผมจดจำได้ดีที่สุด และรู้สึกว่าได้พัฒนา ได้บทเรียนหลายอย่าง
เพราะส่วนใหญ่แล้ว บทเรียนที่เปลี่ยนชีวิตเรา ไม่ได้มาจากตอนที่เราสำเร็จทุกอย่างแล้ว นั่งชิลๆ แล้วมันจะปิ๊งแว้บมาเอง
แต่มันมักจะมาจากตอนที่ลูกค้ากำลังจะเข้าเช็คอิน.. อีกด้านห้องครัวก็ทำอาหารเที่ยงขึ้นไม่ทัน.. แล้วจู่ๆไฟก็ดับอีก!
ความคิดในหัวของเราก็จะประมาณว่า “ ผมจะเตรียมพร้อมเรื่องห้องให้ดีกว่านี้ คิดถึงเรื่องครัว และจะหาเครื่องปั่นไฟมาให้ได้! ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้ว! เพี๊ยะ! ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้ว! เพี๊ยะ! ! ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้วคร้าบคุณครู!!! เพี๊ยะๆๆ!! “ ว่าแล้วก็แก้ปัญหาต่อไปทั้งน้ำตา ^ ^
สิ่งที่จะบอกคือ.. จงอย่ากลัวความไม่พร้อม! เผชิญหน้ากับมันตรงๆ ทำได้บอกได้ ไม่ได้ก็ต้องทำให้ได้ในที่สุด! ความไม่พร้อมจะสร้างคุณให้แกร่ง แล้วมันจะค่อยๆพร้อมมากขึ้นๆ
แล้วในวันที่คุณยืนได้แล้ว.. คุณจะพบว่า ไม่มีเรื่องใดยากเกินจะทำอีกต่อไป! ^ ^
โบนัสแถม :
ความไม่พร้อม ทำให้ผมได้แรงบันดาลใจที่จะพัฒนาธุรกิจเราทำให้เราโด่งดังระดับประเทศครับ
แรงบันดาลใจที่ว่า มีที่มาแปลกซักหน่อย เพราะไม่ได้มาจากความคิดบวก การวางแผนที่ยอดเยี่ยม แต่มาจากความคับแค้นครับ!
สมัยผมเริ่มทำบ้านผางามใหม่ๆ เราได้บริษัทชื่อดังมาถ่ายทำโฆษณา พร้อมกับข่าวว่าจะมีซุปเปอร์สตาร์มาเยือนด้วย!
เราตื่นเต้นกันมาก เพราะที่ผ่านมา มีลูกค้ากันเองเป็นกลุ่มๆ ไม่เกิน 30 คน แต่นี่มีทีมงาน 70 คน รวมดารา ผู้ติดตามก็เกือบร้อยชีวิต
การดูแลก็เต็มที่ครับ บ้านพักดีๆที่เพิ่งทำหลังแรก ก็ยกให้ครอบครัวซุปเปอร์สตาร์ไป แม่ผม ขับรถไปกลับเกือบร้อยโล ไปซื้อยาควินินและผ้าเช็ดตัวให้ครอบครัวดารา ส่วนผมและทีมงาน คืนนั้นก็กางเต้นท์นอนที่ลานกางเต้นท์ครับ
วันรุ่งขึ้นก็ถ่ายทำโฆษณาทั้งวัน พี่ดาราก็น่ารักทั้งครอบครัว ผมก็เข้าฉากด้วย เป็นนักปีนเขา
ระหว่างพักเบรกบ่ายๆ นั่งอยู่ด้วยกัน พี่ดาราก็พูดเป็นภาษาอังกฤษกับผู้จัดการส่วนตัวว่า “ เฮ้! ที่รีสอร์ทใกล้ๆนี่ มีห้องพักดีๆนะ มีสวิมมิ่งพูลด้วย ไปพักกันมั้ย? “
ความเจ็บมันอยู่ที่ว่า.. เค้าพูดต่อหน้าผมแบบเผาขนเลย ด้วยสีหน้าท่าทีสบายๆ เพราะมั้นใจว่าภูธรอย่างผมคงฟังภาษาอังกฤษไม่ออกหรอก!
ผมชาไปทั้งตัว.. อยากเถียงกลับไป แต่ใช่.. มันก็เป็นความจริง.. มันยังไม่พร้อม..
ผมเดินกอดคอกับฝาแฝดผม ออกมาปาดน้ำตา แล้วเราตั้งปณิธานไว้ว่า “ รอก่อนนะ วันนึง เราจะเป็นรีสอร์ทที่ดังที่สุดในประเทศไทยให้ได้! “
“ แล้ววันนึงที่เราดังพอ แล้วครอบครัวนี้กลับมาขอพักกับเราอีก เราจะได้บอกกับเค้าได้เต็มปากว่า.. ขออภัยครับ ห้องเราเต็มแล้ว “ นั่นคือความฝันอันสูงสุดของเราตอนนั้น!
พลังความแค้นทำหน้าที่ขับดันสองพี่น้อง ให้มีความอึดบ้าเลือดผิดมนุษย์มนา พัฒนากิจกรรมและบริการ จนเป็นที่รู้จักในระดับประเทศใน 2-3 ปีต่อมา
ใน 4-5 ปีนับจากวันนั้น ผมมองย้อนมา และนึกรู้สึกขอบคุณ... ถ้าไม่มีเค้า.. พี่ดาราคนนั้น เราอาจจะไม่มาได้ไกลขนาดนี้ ^ ^
โอ๊ะ! เผลอเล่าความหลังซะยาวเชียว ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับ ^ ^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา