11 ก.ย. 2019 เวลา 17:25 • ท่องเที่ยว
Ep. 3 : ประโยคเดียว 21 ปี
หลายคนคงสงสัยว่า บ้านผางามมีหลักในการทำงานอย่างไร? จึงสามารถมัดใจลูกค้าได้เหนียวแน่น
หลักการนั้น มาจากคำพูดประโยคเดียวของพี่ท่านหนึ่งครับ
ในตอนแรกที่บ้านผางามเปิดเป็น Homestay เราก็เริ่มจากมีบ้าน 1 หลังให้คนรู้จักแวะมาพัก และแนะนำบอกต่อกันมาครับ
1 ในคณะแรกๆที่มาพักกับเรา เป็นพี่ผู้หญิงชื่อพี่ทิม และพี่เค้าพาเด็กๆมาด้วย 3 คนครับ เป็นลูกชายลูกครึ่ง และเด็กต่างชาติเพื่อนน้องอีก 2 คนครับ
พี่เค้ามาพักอยู่กับเรานานมาก ผมจำได้ว่าราวๆ 5 วัน 4 คืนได้ครับ ผมรู้สึกเกรงใจมากๆ เพราะเรารู้สึกว่า พี่เค้ามาอยู่กับเราหลายวัน แต่เราไม่มีอะไรให้พี่เค้าทำเลย เลยใช้เวลาที่ว่าง อยู่เล่นกับเด็กๆ ชวนทำอะไรไปเรื่อย
ความรู้สึกผมคือ อยากให้เค้ารู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน แล้วเพื่อนอย่างผมก็พาทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย
อย่างไรก็ตาม พี่เค้าและน้องๆก็ไม่ได้เบื่ออย่างที่ผมคิด ในคืนก่อนวันกลับ พี่ทิมก็พูดกับผม
พี่ทิม : น้องบี พี่ขออะไรซักอย่างได้มั้ย?
บี : ได้ครับพี่
พี่ทิม : ถ้าวันนึง บ้านผางามเติบโตไปแล้ว พี่ไม่อยากให้บรรยากาศแบบนี้หายไป อยากให้บีรักษาความเป็นกันเองแบบนี้
บี : ได้สิครับ ^ ^
ผมได้คิดอะไรบางอย่างกับประโยคนี้ มันเป็นเรื่องที่เด็กวัย 23 อย่างผมไม่ทันได้คิด ใช่ วันนึงธุรกิจเราอาจจะโต และด้วยความเป็นธุรกิจ เราก็อาจจะหลงลืมบางอย่างไปได้ คำพูดนี้เตือนสติผมได้ดีทีเดียว
พี่ทิมและน้องๆร่ำลาไปแล้ว.. พี่และน้องอาจไม่รู้เลยว่า สัญญาที่ผมให้กับพี่ไว้ ผมยังรักษามันมาตลอด 21 ปี
ตั้งแต่ลูกค้าคนแรกที่เข้ามา จนกระทั่งลูกค้าคนสุดท้ายที่ก้าวออกไป ในวันที่ผางามที่วังน้ำเขียวปิดตัวลง ผมยังคงรักษาความใกล้ชิดกับเค้าเหมือนเพื่อน.. ไม่ใช่ลูกค้า
นั่นคือสาเหตุที่ทำไมคนที่มาบ้านผางาม ถึงรู้สึกว่าทำไมเจ้าของที่นี่กันเองจัง ไม่เคยรู้จักกันก็มาคุยสนิทกันได้เหมือนยังกะเป็นเพื่อนกัน
ใช่ครับ.. เพราะคุณไม่ใช่ลูกค้า.. คุณคือเพื่อนสำหรับผมครับ ^ ^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา