สามป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ป่าฝนเป็นระบบนิเวศที่เก่าแก่ที่สุดของโลกครอบคลุมเพียงแค่ 6%ของพื้นผิวโลก แต่ยังมีพืชและสัตว์ในโลกมากกว่าครึ่งหนึ่ง
ป่าเขตร้อนอยู่บนโลกระหว่างละติจูด 22ºเหนือและ 22º ใต้ มีพืชและสัตว์กว่า 30 ล้านชนิดอาศัย
ที่ตั้งของป่าฝนหลักๆของโลก wikipedia
ป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดคือ ...ในอเมริกาใต้
ที่ใหญ่ที่สุดคือ
ป่าที่ครอบคลุมลุ่มน้ำอเมซอน
ป่าดงดิบอเมซอนครอบคลุมพื้นที่เก้าประเทศ
- บราซิล
- เปรู
- โคลัมเบีย
- เวเนซุเอลา
- เอกวาดอร์
- โบลิเวีย
- กายอานา
- ซูรินาเม
และเฟรนช์เกียนา
ความสำคัญของป่าฝนเขตร้อนอเมซอนคือที่นี่ผลิตออกซิเจนในโลกมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยบราซิลจะมีพื้นที่มากสุดคือมีพื้นที่ป่าราว 60% กระทรวงสิ่งแวดล้อมของบราซิลรายงานว่า "ป่าอเมซอน" เป็นแหล่งนิเวศน์วิทยาที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล มีพื้นที่ 4,196,943 ล้าน km2 (IBGE, 2004), มีสายพันธ์ุต้นไม้ 2,500 สายพันธุ์ต้นไม้ (หรือหนึ่งในสามของไม้เขตร้อนทั้งหมดในโลก) และ 30,000 สายพันธุ์พืช (จาก 100,000 ในอเมริกาใต้) เจริญเติบโต”
ป่าในอเมซอน ออกซิเจน 20% บนโลกมาจากที่นี่ การเผาป่ารอบล่าสุดจะส่งผลตรงนี้ด้วย ภาพ usa today
ในแอฟริกา
ป่าฝนคองโกใหญ่เป็นอันดับสอง มีพื้นที่ 1,780,000 ตารางกิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำคองโก
ป่าฝนคองโกมีพื้นที่ครอบคลุมเก้าประเทศ
- แองโกลา,
- แคเมอรูน,
- สาธารณรัฐอัฟริกากลาง,
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก,
- สาธารณรัฐคองโก,
- บุรุนดี,
- รวันดา,
- แทนซาเนีย
และแซมเบีย
ทุกคนมีส่วนร่วมในอาณาเขตของตนในลุ่มน้ำคองโก ป่าฝนคองโก“ มีต้นไม้มากกว่า 600 สายพันธุ์และสัตว์นับหมื่นสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีปริมาณคาร์บอนสูงที่สุดต่อเฮกตาร์เนื่องจากมีความหนาแน่นสูงของพืชพรรณ”
ความสมบูรณ์ของป่าฝนคองโก ภาพ WWF
ในเอเชีย
ป่าฝนที่ใหญ่เป็นอันดับสามอยู่ในเอเชีย
ในประเทศอินโดนีเซีย ป่าฝนของอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพและวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก หมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกอินโดนีเซียประกอบด้วยเกาะเกือบ 18,000 เกาะที่ทอดยาวระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย ประกอบด้วยป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียมันเป็นถิ่นกำเนิดของภาษาพื้นเมืองหลายร้อยภาษาและสัตว์กว่า 3,000 สายพันธุ์รวมถึงเสือสุมาตราช้างแคระช้างแรดและลิงอุรังอุตัง
ป่าในที่อื่นโดนีเซีย ที่แต่เดิมคือแหล่งป่าสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภาพ ran.org
อินโดนีเซียมีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าที่สูงที่สุดในโลกและตอนนี้เหลือพื้นที่เพียงครึ่งหนึ่งของพื้นที่ป่าดั้งเดิม ถึงแม้ว่าการประมาณการอาจจะแตกต่างกันไป แต่การศึกษาชี้ให้เห็นว่าป่าฝนอินโดนีเซียมากกว่าหนึ่งล้านเฮกตาร์ (2.4 ล้านเอเคอร์) ถูกทำลายล้างและหายไปในแต่ละปี
อินโดนีเซียมีปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการทำลายล้างป่าทั้งหมดนี้ สายพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเช่นเสือชวาได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และอีกหลายชนิดเช่นลิงอุรังอุตังถูกคุกคามอย่างหนักหน่วง การเผาป่าดงดิบปล่อยควันหนาทึบที่ปิดการจราจรทางอากาศและสร้างมลภาวะในระดับภูมิภาค กระตุ้นให้เกิดการเตือนภัยด้านสาธารณสุขในเขตเมืองรวมถึงประเทศข้างเคียงที่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร สารกำจัดศัตรูพืชและการไหลของน้ำเสียโรงงานกำลังก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำและดินในท้องถิ่น
หายนะแห่งป่าที่อินโดนีเซีย
ขนาดของการทำลายป่าฝนของอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่มากจนตอนนี้มันมี ผลกระทบอย่างสำคัญต่อสภาพอากาศของโลก ระบบนิเวศน์ของป่าฝนและป่าพรุจัดเก็บคาร์บอนไว้ได้หลายพันล้านตันและการทำลายล้างของพวกมันจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกขนาดใหญ่ออกสู่บรรยากาศ
ขณะนี้อินโดนีเซียเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและจีน โดย 85% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากป่าดงดิบและป่าพรุที่เสื่อมโทรมและสูญเสีย
ตอนนี้ร้อยละห้าของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมาจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นมากกว่าการปล่อยรวมกันจากการขับรถยนต์รถบรรทุกรถไฟและรถโดยสารในสหรัฐอเมริกาทุกปีรวมกัน
นักชีววิทยาคาดการณ์ว่าป่าฝนมีพืชและสัตว์บนบกประมาณ 50% ของโลก ซึ่งยังไม่นับรวมถึงแร่และอื่น ๆ ป่าเก็บสะสมคาร์บอนมากกว่าป่าชนิดอื่น ๆ และไม่สามารถถูกแทนที่ได้
คณะวนศาสตร์และการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของเยลได้ระบุว่าป่าเขตร้อนที่รวมกันทั้งหมดนั้นมีคาร์บอนประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของโลก
เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป ยืนยันโดยกล่าวว่า“ ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาป่าฝนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกถูกทำลาย แม้ว่าปรากฏการณ์นี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ขนาดและจังหวะในการทำลายล้างปัจจุบันนั้นน่าตกใจ"
ทราบไหมว่า
“ ในปี 2560 ป่าขนาดหนึ่งสนามฟุตบอลบนโลกใบนี้ที่ไหนสักที่หายไปทุกวินาที
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
