23 ก.ย. 2019 เวลา 11:18 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ตอนที่ 17
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561
เช้าวันนี้ผมตั้งใจจะออกเดินทางสายๆ
เพราะว่าเสื้อผ้าและอุปกร์ยังไม่แห้ง
ต้องตากแดดช่วงเช้าสักพักก่อน
พอสายๆผมก็เก็บข้าวของออกเดินทางต่อ
โดยผมมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือต่อไป ซึ่งจังหวะนี้
ผมแทบไม่ค่อยได้คิดอย่างอื่น นอกจากมองถนนที่อยู่ตรงหน้า
เพราะเส้นทางคดเคี้ยวไปตามภูเขาแทบหาทางตรงไม่ได้เลย
ไม่ได้ใส่ใจแม้จะจอดถ่ายรูป ผมเริ่มรู้สึกว่า
จิตใจกำลังดิ่งเป็นสมาธิอยู่กับการขับรถ ไม่รู้ว่าเดินทางมาไกลแค่ไหน
ผ่านมากี่โค้งก็ไม่อาจนับได้ ผมใส่ใจกับถนนทุกโค้ง
มองเห็นแม้กระทั่งเม็ดหินดินทราบบนถนน
ผมพยายามที่จะเข้าโค้งให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
มันเริ่มเป็นความสนุก
จนบ่ายๆผมก็จอดพักกินข้าว มีป้ายเขียนว่า
จุดชมวิวแม่ลาหลวง
จอดแวะพัก
พักกินข้าว
พอกินข้าวเสร็จผมก็ออกเดินทางต่อ
ซึ่งผมเริ่มจับจุดศูนย์ถ่วงรถได้ดีขึ้น
เพราะรถมอเตอร์ไซบรรทุกอุปกรณ์เยอะ
ถ้าเลี้ยวไม่ดี โค้งไม่ดีอาจล้มได้ง่ายๆ
ซึ่งบางโค้งผมก็เกือบหลุดเหมือนกัน
ล้อรถนี่วิ่งไต่ขอบถนนเลย เกือบหลุดลงข้างทาง
แต่มันก็ทำให้ผมมีสติมากยิ่งขึ้น
ผมคิดว่ามันเหมือนการฝึกวิชามาก
ฝึกจิตใจได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
จังหวะ ความเร็ว อารมณ์ เพราะมันเป็นการขับระยะยาว
และน่าจะเป็นการขับทางโค้งตามภูเขาที่ยาวไกลกว่าที่ผมเคยขับมาในชีวิต
ผมเริ่มค้นพบแล้วว่า ถึงแม้จะโค้งเหมือนกัน
แต่ระยะทางที่ไกลกว่า มันต่างกันมากในความรู้สึก
ผมเริ่มเข้าใจคำว่า การยืนระยะให้ได้ คือสิ่งสำคัญในการเดินทางไกล
ไม่ใช่ความเก่งกาจ ความรวดเร็วที่ไม่ต่อเนื่อง
แต่เป็นการใช้ความเร็วที่สม่ำเสมอที่เหมาะสมกับเราเอง
และสามารถยืนระยะในการขับได้อย่างต่อเนื่อง
อันนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ความประมาทหรือคึกคะนอง
เพียงชั่วเวลานิดเดียว อาจเปลี่ยนชีวิตเราได้เลย
เหมือนผ่านความรู้สึกมาเนิ่นนานมาก
ผมก็ได้มาถึงที่แห่งนี้ ปางอุ๋ง ที่เคยได้ยินมานาน
เส้นทางคดเคี้ยวที่ยาวไกล
เนื่องจากผมมาถึงก็เริ่มมืดแล้วผมจึงรีบกางเต๊นท์
โดยผมเลือกกางในจุดที่ไม่ค่อยมีคนแยกออกมาอยู่ริมน้ำ
ผมก็มีเดินไปทักทายพี่ๆที่อยู่ใกล้ที่สุดแถวนั้น ก็ได้สอบถามพูดคุยกันพอสมควร เค้าก็เดินทางมาหลายวันแล้วเหมือนกัน เค้ามากันสี่ห้าคน
ลาพักร้อนมาเที่ยวกัน หลังจากนั้นก็ขอเฟสกันไว้เพื่อใช้ติดตามกันต่อไป
กางเต๊นท์ริมน้ำ
พอเตรียมของอะไรเสร็จผมก็จัดแจงต้มน้ำร้อน
โดยวันนี้ผมจะเปลี่ยนวิธีการกินจากเดิมๆ
ซึ่งผมก็คิดคิดค้นเมณูอาหารมาเป็นครั้งที่ 3
โดยไม่เกรงใจบรรยากาศสถานที่เลยทีเดียว
- ครั้งที่ 1 ลองเอามาม่าผสมกับโจ๊กใส่เครื่องมาม่า
รสชาติแทบกินไม่ได้ แต่ก็กินจนหมดจบไปหนึ่งคืน
- ครั้งที่ 2 ลองเอามาม่าบดพอประมาณผสมโจ๊กไม่ใส่เครื่องปรุงมันจะเละๆหน่อยแต่ก็พอทานได้จบไปหนึ่งคืน
- ครั้งที่ 3 วันนี้เอามาม่าบดแล้วผสมกับโจ๊กครึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำร้อนให้สุกไม่ต้องใส่เครื่องปรุง แล้วตอนจะกิน ให้โรยมาม่าที่บดไว้ส่วนที่เหลือโรยหน้า เวลากินมันก็จะกรุบๆหน่อย แปลกไปอีกแบบ
ซึ่งบอกเลยว่ากินปกติดีที่สุดครับ ผมก็แค่อยากลองดู
เมณูคืนนี้โจ๊กโรยมาม่า
กินเสร็จผมก็นั่งมองไปทางอ่างเก็บน้ำมืดๆ
มีเพียงแสงสะท้อนไฟในน้ำนิดหน่อย
มีเสียงเฮฮาจากนักท่องเที่ยวอื่นมาไกลๆ
บรรยากาศเหมือนเราอยู่ในที่เงียบๆท้ายตลาด
แล้วนั่งอยู่ริมน้ำ มันก็สงบไปอีกแบบ
มีหิ้งห้อยนิดหน่อยอีกฝั่งหนึ่งของน้ำ
ไม่รู้ใช่หรือป่าว แต่ผมคิดว่ามันคือหิงห้อยละกัน
ในคืนนี้ผมก็คงได้นอนกับพื้นที่เอียงๆเพราะผมเลือกทำเลนี้เอง
หวังว่าจะไม่กลิ้งละเมอตกน้ำ และวันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา