Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต101
•
ติดตาม
25 ก.ย. 2019 เวลา 09:06 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ตอนที่ 19
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561(ต่อ)
ผมขับรถตะลอนหาที่นอนมาเรื่อยๆ
และได้มาหยุดอยู่ที่สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย
สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยกองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียง
สะพานประวัติศาสตร์ ปาย
ผมก็ยืนอ่านป้ายประวัติของสะพานแห่งนี้
ก็ทำให้นึกถึงยุคสมัยที่มีสงครามว่าผู้คนจะลำบากกันขนาดไหน
แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว
สะพาน
ผมก็สอบถามผู้คนแถวๆนั้นว่าผมสามารถมารถกางเต๊นท์นอนตรงไหนได้บ้าง จนผมไปเจอป้าที่ดูแลพื้นที่คนหนึ่ง ซึ่งมีเพิงพักอยู่
เป็นสถานที่ล่องแพของนักท่องเที่ยว ป้าบอกว่าสามารถกางเต๊นท์ได้
โดยมีค่าใช้จ่าย 100 บาท ในการกางเต๊นท์ ซึ่งถือว่าโอเครสำหรับที่นอนคืนนี้ เพราะมีห้องน้ำ ที่อาบน้ำ ผมก็จัดแจงกางเต๊นท์ไว้ที่ริมน้ำ
กางเต๊นท์ริมแม่น้ำปาย
ซึ่งในระหว่างกางเต๊นท์ผมก็มองดูนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่มาเที่ยวชมถ่ายรูปสะพานประวัติศาสตร์ แต่สำหรับผมวันนี้จะมากางเต๊นท์นอนเฝ้าดูสักคืนก็แล้วกัน
เฝ้าสะพาน
พอกางเสร็จผมก็ขึ้นไปเดินเล่นบนสะพานกับเค้าหน่อย
บรรยากาศบนสะพาน
นายแบบประจำสะพาน
ในระหว่างนั้นผมก็มองกลับไปที่เต๊นท์ของตัวเองที่กางทิ้งไว้
แล้วก็บันทึกภาพจากมุมบนสะพานไว้ซะหน่อย ซึ่งจากที่ผมดูบรรยากาศ
วันนี้ผมน่าจะเหมาคนเดียว เพราะไม่น่าจะมีคนอื่นมากางเต๊นท์ตรงนี้
คืนนี้น่าจะอยู่ริมน้ำคนเดียว
ซึ่งจุดนี้เค้ากำลังทำแพไว้เพิ่มเติมให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ล่องกันไปตามแม่น้ำปาย ซึ่งที่นี้ผมยังมีเวลา เลยกะว่าจะไปหาดูสถานที่อื่นๆต่อ
ผมก็เลยไปบอกป้าที่ดูแลพื้นที่และสอบถามสถานที่ๆน่าสนใจ
ทีนี้ป้าบอกว่า ตอนกลางคืนจะไม่มีใครอยู่ตรงนี้
ป้ากับลุงที่ดูแลก็จะกลับไปพักที่บ้าน ป้าก็บอกว่าป้าจะเติมน้ำจากน้ำพุร้อนบนเขาที่ต่อมานี่ไว้ในอ่างซีเมนท์ไว้ให้ สามารถลงไปนอนแช่ได้เลยนะ
ปกติเค้าจะให้ตักอาบ แต่วันนี้ไม่มีใครมา อยู่คนเดียวลงนอนแช่น้ำร้อนได้เลย ซึ่งในส่วนนี้ผมก็พอนึกออกว่าต่อมาจากไหน เพราะก่อนหน้านี้ผมผ่านภูเขาที่มีน้ำพุร้อนมา ก่อนจะมาถึงตรงนี้ ป้าก็บอกสถานที่ปิดเปิดไฟต่างๆไว้ให้ และได้เอาเบอร์ไว้ให้ผมเผื่อจะโทรติดต่ออะไร ส่วนเต๊นท์ป้าบอกว่ากางทิ้งไว้แล้วไปเที่ยวได้เลย แถวนี้ไม่มีขโมยหรอก จะนอนก็ค่อยกลับมา
จากนั้นผมก็ขับรถออกไป เพื่อสำรวจเมืองต่อไป และทราบว่ามีจุดชมวิวพระอาทิตย์อยู่ ชื่อแกนแคนยอนต์ปาย ผมก็ขับรถแวะและเดินขึ้นไปชม
นักท่องเที่ยวอื่นๆ
พอผมขึ้นไปถึงบริเวณนั้นผมก็พบสิ่งที่น่าประหลาดใจบางอย่าง
ก็คือมีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด แต่ที่น่าแปลกคือแทบไม่มีคนไทยเลย
ร้อยละ90-95เปอร์เซ็น เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด
นักท่องเที่ยวตางชาติ
ผมพยายามมองหาคนไทยและสอบถามเหตุผลว่าทำไม
เค้าบอกว่ามีคนทำบล๊อกท่องเที่ยวชื่อดังเป็นชาวต่างชาติ
แล้วทำเมืองปายเป็นไฮไลท์ นักท่องเที่ยวต่างชาติเลยตามบล๊อกท่องเที่ยวมากันเยอะ และเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบ คือความเรียบง่าย
ชมพระอาทิตย์ตก
แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่ชาวต่างชาติ
ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศนี้ เราเองเป็นคนไทยก็ควรที่จะสำรวจดูบ้าง
จากนั้นผมก็นั่งเล่นพัก จนพระอาทิตย์ตกดินไป พอเริ่มมืดเค้าบอกว่ามีถนนคนเดินปายอยู่ในเมืองสามารถเข้าไปเที่ยวชมตลาดยามค่ำคืนได้
ผมก็เลยขับรถฝ่าความเย็นไปต่อเพราะสถานที่ผมพักก็ห่างจากตัวเมืองอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ไกลเกินที่จะไปถึง
ถนนคนเดินปาย
ถนนคนเดินปาย
เป็นที่ๆมีอาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าอุปกรณ์ต่างๆที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ และที่น่าสนใจก็คือ มีวงดนตรีครอบครับหนึ่งมาเล่นอยู่ที่ถนนคนเดิน ซึ่งเค้าเล่นเพลงที่เค้าแต่งเองและมีการนำซีดีเพลงผลงานของเค้ามาขาย ซึ่งผมฟังแล้วชอบมาและยืนฟังและบันทึกวิดีโอไว้ เสียงเพลงทำนองค่อนข้างมีเอกลักษณ์แบบเมืองเหนือ ผมก็เลยซื้อผลงานมาไว้ฟัง 1 อัลบั้ม เผื่อไว้กลับบ้านไปจะได้เปิดฟัง ซึ่งสำหรับผมแล้วนี่คือจุดที่น่าสนใจและทำให้ผมมีความสุขมากกับบทเพลงที่ได้ฟังคืนนี้
บทเพลงเมืองปาย
ในระหว่างเดินเล่นในตลาดผมก็ยังรู้สึกเจ็บขาอยู่ ตั้งแต่ที่ล้มที่เนินช้างศึกที่กาญจนบุรี ซึ่งที่จริงก็ยังเจ็บมาตลอดไม่หาย แต่ก็พยายามไปต่อ พยายามไป ถ้ามันยังเดินได้อยู่ แต่ในใจผมก็คิดหลายอย่างว่าการเดินเขาเดินป่าที่เราคาดคิดไว้ว่าเราอาจจะไป แต่ถ้าขายังเป็นลักษณะนี้ผมก็ไม่สามารถเดินทางแบบนั้นได้ ผมสังเกตเห็นมีร้านนวดอยู่ข้างทางในถนนคนเดิน
ผมก็เลยเข้าไปสอบถามว่าสามารถนวดแก้อาการเส้นข้อเท้าเคล็ดได้หรือไม่ เค้าบอกคนที่นวดแก้เส้นเคล็ดได้ไม่อยู่ ผมก็เลยเดินออกมา
บังเอิญไปเจออีกร้าน และผมก็สอบถามเหมือนเดิม เค้าก็บอกว่าทำได้
ผมก็เลยได้นวดแก้อาการที่ร้านนี้ การนวดก็เจ็บระบมพอสมควรเพราะเป็นการนวดไปจุดเส้นที่ข้อเท้าเราเคล็ด พอเสร็จก็ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ คนนวดก็ถามอาการ เค้าบอกว่าแบบนี้มันไม่หายได้ทันที
แต่ถ้าฝืนนวดไปมันจะระบมป่าวๆเค้าก็เลยเอายาคลายเส้นให้ผมกลับไปกินด้วย ผมก็ขอบคุณเค้า
จากนั้นผมก็เดินทางกลับจากในเมืองแล้วขับฝ่าลมหนาวกลับไปยังที่พัก
พอมาถึงบริเวณนั้นก็ค่อนข้างมืดมีแสงไฟจากเพิงเล็กน้อยซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว ผมก็จัดแจงลงแช่น้ำจากน้ำพุร้อนที่ต่อลงมา ผมนอนแช่น้ำร้อนพลางแหงนหน้ามองดาวบนฟ้า มันเป็นอะไรที่รู้สึกดีมาก ผมก็นอนแช่พลางทบทวนเรื่องราวการเดินทางการเดินทาง จนมาถึงที่นี่ ค่ากางเต๊น 100 เดียว ได้ทั้งบรรยากาศและได้นอนแช่น้ำพุร้อนแบบนี้ มันสุดยอดจริงๆ
และวันนี้ก็ผ่านไปอีกวันสำหรับผม
1 บันทึก
48
15
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชีวิต101 ภาค 1
1
48
15
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย