28 ก.ย. 2019 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
Pomelo สร้างความเเตกต่างได้อย่างไร ท่ามกลางตลาดเเฟชั่นที่เเข่งขันสูง | สมองไหลจะเล่าให้ฟัง...
1
Pomelo เป็น Startup ที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นของผู้หญิงอย่างเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 โดย David Jou อดีต Managing Director ของ Lazada ของประเทศไทย
ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ Lazada จึงทำให้ David Jou ได้เรียนรู้ตลาดแฟชั่นในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมากพอสมควร นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจออกมาเปิดเว็บไชต์ E-commerce ของตัวเอง
David Jou บินมาสำรวจตลาดในเมืองไทยจนพบว่าเมืองไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการทำ E-commerce มากๆ เพราะเมืองไทยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลาง Fashion
1
ด้วยความที่เมืองไทยเองก็เป็นเมืองแฟชั่นอยู่แล้ว เเถมยังมีช่างฝีมือเก่งๆ ในวงการอีกมากมาย อีกทั้งในตอนนั้นคนไทยก็เริ่มมีการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นด้วย
แต่แน่นอนว่าสินค้าแฟชั่นที่จำหน่ายอยู่ในโลกออนไลน์ของประเทศไทยนั้นมีการแข่งขันที่สูงมาก Pomelo จึงต้องหาไอเดียอะไรบางอย่างเพื่อที่จะลุยตลาดนี้
ซึ่งกลยุทธ์ของ Pomelo คือการโฟกัสไปที่การออกแบบและผลิตสินค้าของตัวเองขึ้นมาจำหน่าย โดยสินค้าของ Pomelo จะถูกออกแบบและผลิตจากประเทศเกาหลี
ด้วยความเเตกต่างของสินค้าจากดีไชน์ที่สวยงามและคุณภาพที่ดีของสินค้า จึงทำให้ Pomelo ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันที่ “ราคา” กับเว็บไซต์อื่นๆ อีกต่อไป
เพราะโดยทั่วไปเเล้วหากมีสินค้าเหมือนกันทุกอย่าง เเต่วางจำหน่ายอยู่ในเว็บไซต์ E-commerce ที่เป็นคู่แข่งกัน สิ่งที่เว็บไซต์ E-commerce ทั่วไปทำมักเป็นการ “ลดราคา” สินค้าให้ถูกกว่าคู่แข่ง เพราะลูกค้ามักจะเลือกสั่งซื้อจากเว็บไซต์ที่มีราคาถูกที่สุดเสมอ
แต่สินค้าของ Pomelo ออกแบบขึ้นมาเองและผลิตเอง ทำให้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนจึงตั้งราคาได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องนี้
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากๆ ก็คือการทำการตลาดของ Pomelo เพราะบริษัทจะเน้นการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ Social media เป็นหลักอย่าง Facebook กับ Instagram
โดยจะทำการโพสรูปแฟชั่นสวยๆจนเหมือนเป็นนิดยสารด้านแฟชั่นที่สาวๆ เปิดเข้ามาดูแล้วต้องรู้สึกหลงจนจนห้ามใจไม่ไหวเเละอยากที่จะเข้าไปซื้อสินค้าต่อในเว็บไซต์ เป็นการกระตุ้นให้อยากด้วยรูปภาพแฟชั่นสวยๆ แล้วค่อยปิดด้วยการขาย
นอกจากคุณภาพเเละดีไซด์ของสินค้าเเล้ว อีกหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะทำให้ Pomelo ประสบความสำเร็จก็คือการให้บริการ
เพราะหากลูกค้าที่ส่งชื้อสินค้าจาก Pomelo ไปแล้วเกิดใส่ไม่พอดี จะสามารถคืนสินค้าได้ฟรีภายใน 365 วัน ขอเพียงแค่ลูกค้าอย่าตัดป้ายสินค้าออกเท่านั้น
1
ซึ่งลูกค้าก็สามารถที่จะคืนสินค้าได้อย่างสะดวกมากๆ โดยการนำเอาสินค้าไปคืนที่ร้าน 7-Eleven หรือ BTS Skybox
3
ซึ่งการคืนสินค้าได้หลังจากการซื้อไปเเล้ว ช่วยให้ลูกค้าไม่มีความสี่ยงที่จะลองสั่งซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ เพราะแน่นอนว่าการสั่งซื้อเสื้อผ้าออนไลน์มีความเสี่ยงจากการที่ไม่ได้เห็นของจริง
นอกจากนี้ Pomelo ยังมีการทำ Weekly new หรือการนำเอาสินค้าแฟชั่นใหม่ๆ มาวางขายในเว็บไซต์ทุกๆ สัปดาห์อีกด้วย เพราะหากลูกค้าเปิดเว็บไชด์มาแล้วเจอแต่สินค้าแบบเต็มๆก็อาจจะทำให้เขาไม่สนใจที่จะสั่งซื้ออีกก็ได้
ชื่อของ Pomelo จึงกลายเป็นที่จดจำของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี จนตอนนี้ก็เริ่มมีการเปิดสาขาแบบออฟไลน์บ้างเเล้ว โดยในประเทศไทยจะมีห้าร้านอยู่ที่ สยามเซ็นเตอร์
ซึ่งข้อดีของการขยายไปเปิดหน้าร้านจริงๆ คือช่วยให้ลูกค้าได้มีโชว์รูมสำหรับมาลองสัมผัสสินค้าจริงๆ เพราะการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ลูกค้าจะมีความกังวลว่าสินค้าที่ได้รับจะไม่เหมือนกับที่คาดหวังเอาไว้
การได้มาลองสัมผัสสินค้าจริงก็จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้าของ Pomelo เเละกล้าที่จะสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้นในอนาคต
Pomelo ได้รับเงินระดมทุนจาก Central Group ห้างสรรพสินค้าเบอร์หนึ่งของประเทศไทย เเละก่อนหน้านี้ก็เคยได้รับเงินระดมทุนกว่า 600 ล้านบาทจาก JD.com ซึ่งเป็นเว็บไชด์ Ecommerce คู่แข่งเบอร์หนึ่งของ Alibaba ในประเทศจีนอีกด้วย
1
การที่ Pomelo สามารถสร้างจุดยืนของตัวเองโดยการโฟกัสที่สินค้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงเท่านั้น จึงทำให้ Pomelo โดดเด่นกว่าคนอื่น
1
เพราะตลาด E.commerce สำหรับสินคำในแนวกว้างนั้นมักถูกครองตลาดโดยยักษใหญ่อย่าง Lazada, Central, JD, Shopee ไปหมดแล้ว
ดังนั้นการแข่งขันในแนวกว้างที่มียักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย การโฟกัสตลาดเฉพาะกลุ่มที่เจาะจงไปยังสินค้าใดสินค้าหนึ่งนั้น จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จที่มากกว่าได้
หากถูกใจบทความนี้ ก็อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ เเละกดติดตามเพจ "สมองไหล" กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆ ที่มีมาเสริฟให้คุณทุกวัน
ขอบคุณครับ 🙏
Source :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา