2 ต.ค. 2019 เวลา 12:16 • สุขภาพ
Canesten 500 mg ครั้งเดียว กับ 100 มิลลิกรัม 6 วัน หรือ 100 มิลลิกรัม 3 วัน แตกต่างกันอย่างไร
อาการตกขาวและคันในช่องคลอดส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา ซึ่งปัจจัยกระตุ้น เช่น ความอับชื้น การสวนล้างช่องคลอด การรับประทานยาคุมกำเนิด หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งการรักษาก็คือการใช้ยาฆ่าเชื้อรา ซึ่งรูปแบบของยาฆ่าเชื้อราที่ใช้มีทั้งแบบยาเม็ดรับประทานและยาเหน็บช่องคลอด
ยาเหน็บช่องคลอดยี่ห้อฮิตติดตลาดที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีคือ คาเนสเทน (Canesten) ซึ่งตัวยาออกฤทธิ์คือ Clotrimazole มีจำหน่ายทั้งแบบ 500 มิลลิกรัมและ 100 มิลลิกรัม
ทีนี้ควรเลือกใช้แบบไหนดี
โดสที่แนะนำที่ใช้ในการรักษาการติดเชื้อราในช่องคลอด (Vulvovaginal candidiasis) เป็นดังนี้
- ขนาด 500 มิลลิกรัมเหน็บช่องคลอดครั้งเดียว
- ขนาด 100 มิลลิกรัมเหน็บช่องคลอดครั้งละ 1 เม็ดวันละ 1 ครั้งติดต่อกัน 6 วัน
- ขนาด 100 มิลลิกรัมเหน็บช่องคลอดครั้งละ 2 เม็ดวันละ 1 ครั้งติดต่อกัน 3 วัน
จากการศึกษา [1] เทียบประสิทธิภาพของยาแบบ Randomized controlled study ในผู้หญิงที่มีอาการตกขาวในช่องคลอดจำนวน 99 ระหว่าง 500mg ครั้งเดียวกับ 100mg 6 วันโดยทั้งสองกลุ่มมีใช้ยา Clotrimazole รูปแบบครีมด้วยพบว่ากลุ่ม 500mg รักษาหาย 82.4% และกลุ่ม 100mg รักษาหาย 84.5% ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มสามารถทนยาได้ดีเหมือนกันและเมื่อติดตามผลไป สัปดาห์พบว่ากลุ่ม 500mg มีแนวโน้มที่ดีกว่ากลุ่ม 100mg เล็กน้อยแต่ผลกลับกันในสัปดาห์ที่ 4 หลังการรักษา แต่ทั้งนี้อาจเป็นผลเนื่องจากการติดเชื้อซ้ำได้
ส่วนอีกหนึ่งการศึกษา [2] เป็นการเทียบระหว่าง 500mg 1 วัน, 200mg 3 วันและ 100mg 6 วัน โดยดูผลจาก Vaginal secretion levels (คือวัดจาก inhibition zones ของยาต่อการเจริญเติบโตของเชื้อ Candida) พบว่าค่า Vaginal secretion levels ในวันที่ 3 หลังการรักษาของการใช้ยาแบบครั้งเดียว 500mg มีค่าสูงสุด ส่วนการใช้ยาแบบ 3 วันและ 6 วันให้ผลลัพธ์พอกัน
การศึกษาสุดท้าย [3] เป็น randomized, double-blind trial เทียบการใช้ยาแบบ 500mg ครั้งเดียวกับ 200mg 3 วันในผู้ป่วย 42 รายและทำการติดตามการรักษาที่ 1 สัปดาห์และ 1 เดือนหลังการให้ยาพบว่า การรักษาทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพทางคลินิกและไม่แตกต่างต่อผลการตอบสนองของการฆ่าเชื้อรา เมื่อติดตามการรักษาไป 1 เดือนพบว่า กลุ่ม 500mg มีเปอร์เซนของการขจัดเชื้อ 89% และกลุ่ม 200mg มี 83% มีการรายงานพบช่องคลอดบวม 1 รายในกลุ่ม 200mg แต่โดยรวมสรุปว่าการใช้ยาทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งทางประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ดังนั้นจากทั้งสามการศึกษาจะเห็นว่าจริงๆด้านประสิทธิภาพแทบไม่ได้แตกต่างกันในฤทธิ์ของการฆ่าเชื้อรา แม้ว่าการใช้แบบ 500mg ครั้งเดียวจะมีข้อมูลสนับสนุนมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบแบบ head-to-head แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับความสะดวกในการใช้ยาของผู้ป่วย
ส่วนการใช้ยาขณะมีประจำเดือนขึ้นกับขนาดยาที่ใช้เป็นหลัก โดยแนะนำถ้าใช้เป็น Clotrimazole 500 mg สอดครั้งเดียว ให้หลีกเลี่ยงการใช้ในระหว่างมีประจำเดือน แต่ถ้าหากใช้เป็น Clotrimazole 100 mg 6 วัน แนะนำให้ใช้ติดต่อกันไม่ต้องหยุดใช้ขณะมีประจำเดือน
เอกสารอ้างอิง
1. Loendersloot EW. Et al. Efficacy and tolerability of single-dose versus six-day treatment of candidal vulvovaginitis with vaginal tablets of clotrimazole. Am J Obstet Gynecol. 1985 Aug 1;152(7 Pt 2):953-5.
2. Mendling W, Plempel M. Vaginal secretion levels after 6 days, 3 days and 1 day of treatment with 100, 200 and 500 mg vaginal tablets of clotrimazole and their therapeutic efficacy. Chemotherapy. 1982;28 Suppl 1:43-7.
3. Floyd R Jr, Hodgson C. One-day treatment of vulvovaginal candidiasis with a 500-mg clotrimazole vaginal tablet compared with a three-day regimen of two 100-mg vaginal tablets daily. Clin Ther. 1986;8(2):181-6.
โฆษณา