ความตายไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกลัวที่สุดครับ
เราต้องกลัว “การมีชีวิต แต่ไร้ชีวิต”ต่างหากหล่ะ
ถ้าเราตายเส้นชีพจรชีวิตของเราจะหยุดที่เส้นตรงครับ
ถ้าเรามีชีวิตอยู่ เส้นชีพจรชีวิตของเราจะขึ้นลงเป็นเส้นกราฟ
.
เคยสังเกตมั้ยครับ ว่าประสบการณ์จริงๆของชีวิต ชีวิตเรามีขึ้น มีลง
นั่นแสดงว่าเรากำลังหายใจอยู่
เราจะเจอจุดเปลี่ยนในชีวิต
เจอทั้งการพบคนที่รักและการพลัดพราก
เจอทั้งความสุขและเศร้า
เจอทั้งความสมหวังและผิดหวัง
เราจะเจอทั้งจุดสูงสุดในชีวิตและในขณะเดียวกัน เราจะเจอจุดต่ำสุดในชีวิต
และมันก็จะกลับไปสูงสุดอีกครั้ง
วนอยู่อย่างนั้น…
.
ลองมองชีวิตให้เหมือนรถไฟเหาะขนาดใหญ่ดูสิครับ
มันจะเริ่มต้นช้าๆให้คุณได้เตรียมใจไว้ก่อน
คุณจะเริ่มสงสัยว่าต่อจากนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น
มันจะพาคุณขึ้นไปและปล่อยคุณลงมาแบบทิ้งดิ่ง ระหว่างนั้นคุณจะกรีดร้องและมันก็จะเหวี่ยงคุณขึ้นไปใหม่
เราอาจจะหัวเราะทั้งที่มันเจ็บ
และก็อาจเสียน้ำตาเล็กน้อยให้กับมัน
แต่มันก็คือสีสันที่เราจดจำมันใช่มั้ยหล่ะ...
.
มันก็เหมือนกับชีวิตครับ
หลายครั้งที่เราได้เริ่มเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น
บางครั้งเราคิดในใจอยากให้มันหยุด “เมื่อไหร่มันจะจบสักทีนะ”
แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป…
.
บางทีเราคิดว่าความสำเร็จเป็นเส้นตรง
จากจุดเริ่มต้น แล้วก็ค่อยๆไต่ตรงขึ้นไปจนสำเร็จ
แต่จริงๆแล้วไม่เคยมีเคสแบบนั้นเกิดขึ้นเลย
เพราะคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนมักจะบอกตรงกันว่า ชีวิตมันมีขึ้นมีลง
.
รู้มั้ยครับว่า
ร่างกายของคนแทบเราจะเปลี่ยนไปหมดทุกๆ 7 - 15 ปีครับ
ทั้งหน้าตารูปร่างทุกอย่างเปลี่ยนหมด
จากเป็นเด็กผมสั้นตัวอ้วนก็กลายเป็นผมยาวตัวผอม
จากสมัยก่อนเด็กติดคอม ทุกวันนี้ก็กลายเป็นเด็กติดโทรศัพท์