5 ต.ค. 2019 เวลา 10:41 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ตอนที่ 28
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561
เช้าวันนี้เพลียๆเพราะเมื่อคืนสะดุ้งตื่นกลางดึกได้ยินเสียงหัวเราะผู้หญิงกลางป่าดังมาก สักพักก็มีเสียงผู้ชายหัวเราะยาวๆดังมา ต่อมาก็ได้ยินเสียงประสานกันหมดเลยๆ
นั่งนึกดู อ่อ..มีคณะหนึ่ง มีรถยนต์หลายคันตอนสักสองสามทุ่ม
เข้ามากางเต๊นท์อยู่ถัดจากผมไปประมาณ20-30 เมตร
มีเปิดเพลงจัดปาร์ตี้สนุกกันเลยทีเดียว ผมเองตอนนี้เดินทางมาพักใหญ่ก็ฝึกฝนรับมือต่อความเงียบ ความวังเวง แต่การรับมือกับความวุ่นวายนี้
สงสัยต้องฝึกฝนไว้บ้างละ ต้องทำสมาธิแล้วปล่อยวางกันเลยทีเดียว
เช้านี้ผมเลือกเดินไปจุดชมวิวใกล้ๆประมาณ 200 เมตร
ส่วนภูสอยดาวที่ต้องเดิน 6 กิโล ครั้งนี้ผมคงต้องขอผ่านไปก่อน
ตามสภาพร่างกาย
วิว
วิว
จากนั้นผมก็กลับมานั่งที่เต๊นท์เพื่อรอเสื้อผ้าแห้ง
เพราะเมื่อวานผมซักตากเอาไว้ รอให้แดดออกสักพักคงจะแห้ง
พอสายๆผมก็ออกจากอุทยานเดินทางต่อ
ก็มีการอาการเริ่มหิวก็เจอร้านอาหารระแวกนั่น
ในเขตใกล้ๆอุทยาน แต่ไม่ได้แวะ เพราะส่วนใหญ่
ผมจะแวะกินตามร้านอาหารเล็กๆตามหมู่บ้าน
เพื่อให้ใกล้ชิดกับคนพื้นที่มากที่สุด
ทีนี้ทางเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา มียุ้งข้าวโพดตามข้างทางเป็นระยะๆ ไม่ค่อยมีหมู่บ้าน อากาศก็ร้อน ผมก็เริ่มหิวมากขึ้น แต่ระยะทางตามภูเขานี่ กว่าจะได้แต่ละกิโลนี่ต้องใช้เวลา ผมก็รีบขับแต่ก็ไม่เจอร้านกับข้าวสักที
ส่วนใหญ่เจอแต่ไร่ข้าวโพด ผมหิว ผมเริ่มคิด ทำไมไม่กินมาก่อนนะ ทำไมต้องมาเหนื่อยแบบนี้ ความคิดเริ่มฟุ้งซาน จนในระหว่างขับ สายตาผมไปเจอพระธุดงค์กำลังเดินสวนทางมา กลางแดดร้อนๆผมก็เกิดสะกิดในใจ ว่าพระท่านเดินมา กว่าจะถึง เราหิวขับรถยังไงไม่นานก็คงถึงจุดร้านกับข้าว แต่ถ้าพระธุดงค์ละ ถ้าหิวถ้าเหนื่อย ต้องอดทนแค่ไหนกว่าจะเจอหมู่บ้าน เจอแล้วก็ซื้อกินเองไม่ได้ ต้องบิณฑบาทอีก คงต้องลำบากและอดทนกว่าเราเยอะ พอคิดได้อย่างนั้น ความทุกข์ร้อนหิวของผมก็เบาลง และสุดท้ายผมก็ได้กินอยู่ดี พออิ่มความทุกข์ร้อนก็หายไป นี่ละคน
เส้นทางที่เจอพระธุดงค์
ผมก็ออกเดินทางไปเรื่อยๆตามทางจนเข้าเขตพิษณุโลก
และกำลังเลือกว่าจะไปที่ไหนต่อ ระหว่างนั้นผมก็หาที่จอดรถ
เพื่อเติมน้ำมันจากถังสำรอง ซึ่งการปลดสัมภาระออกเพื่อเติมน้ำมัน
ผมรู้สึกว่าตัวเองทำได้คล่องมากขึ้น เพราะทำมาหลายครั้งนั้นเอง
และการแพ็คสัมภาระมัดเชือกต่างๆก็รู้สึกว่าทำได้เร็วขึ้น
จอดรถเติมน้ำมัน
จากนั้นผมก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปทางเขาค้อ
ซึ่งแถวนี้มีที่สามารถไปพักได้เยอะมาก
ผมก็ลังเลอยู่ว่าจะไปไหนดี
สุดท้ายผมตัดสินใจที่จะไปทุ่งแสลงหลวง
เหตุเพราะผมยังไม่เคยเข้าไปนั้นเอง
แต่ข้อมูลอะไรผมก็ไม่ค่อยมีมาก ไปถึงก็คงรู้เอง
เส้นทางวันนี้
พอไปถึงผมก็เลือกสถานที่กางเต๊นท์โดยเลือกที่เงียบๆ
ไม่ค่อยมีคนอยู่แถวปลายสวนสนด้านล่าง
สถานที่แห่งนี้เป็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไป
จากยอดเขาสูงโดยสิ้นเชิง เป็นทุ่งหญ้าใหญ่ ให้ความรู้สึก
ราบเรียบโปร่งสบาย เพราะการเดินทางที่ผ่านมา
ผมจะเลือกตามยอดเขาหรือตามป่าเป็นหลัก
พอมาเจอทุ่งแบบนี้ความรู้สึกมันก็เลยแตกต่าง
จุดกางเต๊นท์
ทุ่งแสลงหลวง
พอตกเย็นเริ่มค่ำมืด ผมก็เห็นดวงจันทร์ดวงโตโผล่ที่ปลายต้นสน
ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก ผมก็นั่งแหงนมองไปเรื่อย คืนนี้ค่อนข้างสว่าง
ด้วยแสงจันทร์และประกอบกับเป็นทุ่งโล่ง ผมก็สามารถชมวิวกลางคืน
ของทุ่งแสงลหลวงแห่งนี้ได้ บรรยากาศมันชวนฝันจริงๆ
ผมรู้สึกดีใจที่ได้เข้ามาที่แห่งนี้
ดวงจันทร์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา