9 ต.ค. 2019 เวลา 03:06 • ปรัชญา
ศิลปะแห่งการปล่อยวาง
ครั้งหนึ่งมีคนเคยถาม ไมเคิล แองเจโลว่า"ทำไมท่านถึงปั้นรูปปั้นเดวิดได้สวยงาม" ไมเคิล กล่าวว่า " ข้าแค่เอาส่วนที่ไม่ใช่ออกไปเท่านั้นเอง"
จริงๆแล้วเราไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้หมดเราต้องรู้จักที่จะปล่อยวางและขจัดเรื่องบางเรื่องออกไปจากใจเราบ้าง
ศิลปะแห่งการสร้างความสุขด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครสร้างความสุขของเราได้ นอกจากตัวเรา
คนบางคนมีเงินหลายพันล้านแต่ไม่มีความสุข คนบางคนมี ร้อยเดียวกับมีความสุข อะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ไม่มีความสุข เพราะอะไร?
อาจเป็นเพราะ" ความอยาก" ก็เป็นไปได้ที่ทำให้เรามีความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อวานผมไปกินบุฟเฟต์ ชาบู ตั้งใจกินมากจนกินอิ่มเกิน!!! ท้องรับไม่ไหว แทนที่จะมีความสุขในการกินกลับกลายเป็นความทุกข์เพราะท้องอืดท้องเฟ้อ ทรมานร่างกาย ต้องกลับมากินยาแก้ท้องอืด เกิดจากความอยากที่เกินพอดี ทำให้เป็นทุกข์
เปรียบเทียบวิถีคนเมืองในปัจจุบัน ที่ มีความอยาก ที่ไม่สิ้นสุด บ้าแบรนด์เนม กินหรู บ้าช๊อปปิ้ง แข่งขันกันทางวัตถุ ที่ผมกล่าวแบบนี้เพราะคนเมืองที่ผมอยู่เป็นแบบนี้จริงๆ อย่างเช่น นาฬิกา คุณค่าของมันคือดูเวลา แต่เราโดนการตลาดชักนำให้เราซื้อสินค้าที่แพงเกินความเป็นจริง ทั้งๆที่มันก็สามารถดูเวลาได้เหมือนกัน
สุดท้ายเราก็ใช้ชีวิต ที่เกินความจำเป็นโดยการก่อหนี้ ที่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย เพราะเราบ้าไปตามกระแสสังคมที่ต้องการอวดกัน จิตไปผูกติดกับค่านิยมแบบผิดๆ เพราะการตลาด ต้องการให้เราบริโภคสินค้าของเขา แบรนด์ดังๆเขาน่ะรวมค่าโฆษณาไปกับสินค้าแล้ว
การปล่อยวาง จะทำให้จิตเรา ลดความความอยากมีอยากได้ลง แต่ผมไม่ได้รวมหมายถึงการเลิกคิดถึงเป้าหมายน่ะ มันคนล่ะส่วนกัน การมีเป้าหมายมันทำให้เรามีการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า นักจิตวิทยาท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า " มนุษย์เรามีความสุขขึ้นเมื่อเราสามารถพัฒนาตนเองขึ้นในทุกๆวัน" ผมก็เห็นด้วยครับ
การปล่อยวาง ค่านิยมบางอย่าง แบบสวนกระแส อาจทำให้ตัวคุณเบาขึ้นก็เป็นได้ และการออกแบบความสุขของคุณอาจเหมือนที่ไมเคิล แองเจโล แกะสลักรูปปั้นเดวิดได้อย่างยอดเยี่ยม ก็เป็นได้ครับ
ช่องทางการติดตาม:twintrade เล่าหุ้นให้มันง่าย
โฆษณา