เรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะแย่ไปทั้งหมด ผมพูดได้เต็มปากครับว่าคงไม่มีประเทศไหนออกมาบ่นตอนเศรษฐกิจดีช่วงนี้แน่นอน
หากหาความรู้สักนิดเราจะพบว่าหลายประเทศทั่วโลก GDPตกต่ำมาก EU คาดการณ์ว่าปี 2019 GDPแค่1%จีนคาดว่า 5% จะส่งผลต่อการส่งออกอย่างมาก สิ่งที่ทำได้คือการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐและการเติมกำลังซื้อในประเทศ ขณะเดียวกันธนาคารกลางยุโรปอัดเงินเข้าระบบเพือยื้อลมหายใจของบริษัทใหญ่ ทุกประเทศต่างออกมาตรการลดผลกระทบ
นี่คือจบมุมมองแบบมุมกว้างนะ
.
แต่ๆๆ
หากเรามามองแค่ปัญหาในบ้านเราครับจะสังเกตได้ว่า หากเกิดปัญหาต้มยำกุ้งรอบสองขึ้นจริง
จะสามารถเล่าเรื่องได้แบบนี้…
คือ
ต้มยำกุ้งชามแรกหากจำกันได้มันถูกปรุงโดยเชฟชวลิตปี 2540 ปัญหามาจากค่าเงินบาทลอยตัว
มาปีนี้ต้มยำกุ้งชามนี้ปรุงโดยเชฟประยุทธ ปัญหาอาจมาจากการแจกแหลกจนเสียความเชื่อมั่น
แน่นอนว่าไม่เหมือนกันครับ ต้มยำกุ้ง ปี 2540 คนรวยเจ้าสัวเก่าๆเริ่มล้มทำให้ กลางและล่างล้มตาม
แต่คราวนี้กลุ่มเจ้าสัว นายทุนแค่ระคายผิวบรรดาเจ้าสัวนิดหน่อย แต่กลางและล่าง จะเละครับ
.
สังเกตง่ายๆหากมองในมุมของผมนะไม่มีเจตนาพาดพิงแต่อย่างใดนะ
กรณีตัวอย่างคือ ชิม ช๊อป ใช้ เนี่ยญาติๆลุงๆป้าๆข้างบ้านผม 80% เขาเอาไปใช้ซื้อของตาม ซุปเปอร์มาร์เก็ตครับ (อันนี้แค่ญาติๆผมนะ)
คนได้ประโยชน์ก็มีแต่รายใหญ่ ส่วนรายย่อยจะได้แค่ประมาณ20% เท่านั้น นี่แหละครับที่'อาจ'มีส่วนทำให้คนขาดความเชื่อมั่นว่า นโยบายรัฐบาลจะมาช่วยกระตุ้นช่วยอะไรให้ คนที่ไม่ใช่นายทุนใหญ่ได้ส่วนแบ่งการตลาด แต่มันก็ใช่ว่าชิม ช๊อป ใช้จะแย่ไปทั้งหมด เพราะนโยบายก็ช่วยให้หลายบ้านมีเงินซื้อโน่นนี่เข้าบ้าน