11 ต.ค. 2019 เวลา 12:29 • ธุรกิจ
บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21!
นับแต่จัดตั้ง บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ (British East India Company) อังกฤษใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 250 ปี ในการยึดครองแผ่นดินอินเดียได้ทั้งหมด
ขณะที่ เฟสบุ๊ก ใช้เวลาเพียง 15 ปี ในการยึดครองเวลา ของมนุษย์ 2.4 พันล้านคน ทั่วโลก
ไทยเป็นประเทศที่เล่นโซเชียลมีเดียเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เฉลี่ยวันละกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง (หากรวมเวลาเล่นอินเตอร์เน็ต เกือบ 10 ชั่วโมงต่อวัน)
บริษัทอีสต์อินเดียตะวันออกอังกฤษ ยึดครองอินเดียได้ยังไง?
และบริษัทสตาร์ทอัพแบบ เฟสบุ๊ก เรียกได้ว่าเป็นบริษัทอินเดียตะวันออกในศตวรรษที่ 21 ได้หรือไม่??
หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย!
เมื่อประมาณ 420 ปีที่แล้ว ในปี คริสต์ศักราช 1,600 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 พระราชทานตราตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ มีสมาชิกเริ่มต้น 218 คน เป็นพ่อค้าที่ช่ำชองการค้า โดยให้บริษัทอินเดียตะวันออกมีอิสระทางการค้าเส้นทางใดก็ตามทางทิศตะวันออกของแหลมกู๊ดโฮป (Good Hope) ประเทศแอฟริกาใต้ในปัจจุบัน
1
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 Cr.Wikipedia
ถึงแม้รัฐบาลไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทโดยตรง แต่ก็มีการอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่บริษัท เช่น การสนับสนุนด้านกำลังทหารและแสนยานุภาพของกองเรืออังกฤษ
แหลมกู๊ดโฮป และเส้นทางการค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ Cr.Pinterest
แผนธุรกิจในช่วงเริ่มต้นของบริษัท ก็ตรงไปตรงมา คือนำสินค้าจากอังกฤษลงเรือ แล้วล่องเรือไปเรื่อยๆ ผ่านแหลมกู๊ดโฮป เรือบางลำก็วางแผนไปไกลถึงญี่ปุ่น แต่ก็มีพ่อค้าชาวดัตช์ 2 คนเสนอต่อบริษัทให้เปิดตลาดในอ่าวสยาม โดยเรือที่ชื่อว่าโกลบ (Globe) ตั้งใจว่าจะออกเรือ 4 ปี ทำการค้าระหว่างบันตัน(จาการ์ตา) และสยาม โดยจะนำฝ้ายจากอินเดีย ไปขายในบันตัมและสยาม แล้วนำกำไรไปซื้ิพริกไทยและผ้าไหมจีนกลับไปขายอังกฤษ โดยแผนนี้จะทำกำไรได้ถึง 300% เลยทีเดียว
Cr. The British Library
แต่ปัญหาใหญ่ที่พบของบริษัท ก็คือ แต่ละรอบของการเดินเรือใช้เวลานานกว่าจะได้กำไร อีกทั้งในช่วงแรกก็ยังมีเจ้าถิ่นทำการค้าอยู่ทั้งโปรตุเกสและดัตช์ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษลุ่มๆ ดอนๆ
ปรับโครงสร้างการลงทุน
แรกเริ่มเดิมทีบริษัทเปิดให้ผู้ลงทุนลงขันกันในการออกเดินเรือแต่ละครั้ง เมื่อเรือกลับมาจึงแบ่งผลกำไรกันในหมู่ผู้ลงทุน ซึ่งการลงทุนแบบนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างมาก  โดยเรือบางลำอาจเจอภัยธรรมชาติ หรืออาจขัดแย้งกับเจ้าถิ่น ทำให้กว่าจะได้ผลตอบแทนช้ากว่าที่คิดมากไป
ในปี 1613 บริษัทจึงปรับรูปแบบการลงทุนให้หุ้นร่วมแทน คือ เงินของผู้ลงทุนกระจายในกองเรือที่ถูกส่งออกไป ทำให้เงินไท่ไปกองอยู่เรือลำใดลำหนึ่ง โดยผู้ลงทุนจะต้องลงทุนในหุ้นร่วมทุกปี เป็นเวลา 4 ปี ติดต่อกัน
ด้วยโครงสร้างการลงทุนใหม่ทำให้บริษัทสามารถวางแผนระยะยาว และลดการตัดราคากันเองของเรือแต่ละลำได้ (เพราะผู้ลงทุน-เจ้าของเงิน ได้กระจายการลงทุนไปในกองเรือ ไม่ต้องแข่งกันเอง)
บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ เป็นบริษัทแรกๆ ที่ไปยึดทำเลการค้าที่อินเดีย อีกทั้งยังสร้างป้อมปราการแรกๆของอังกฤษในอินเดียในปี 1640
บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินค้าสำคัญ ทั้ง ฝ้าย ชา ผ้าไหม และเครื่องกระเบื้อง เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังชนะสงคราม ชาวท้องถิ่นในอินเดีย และฝรั่งเศส อีกหลายครั้ง จนได้ยึดครองแผ่นดินทั้งหมดของอินเดีย
2
โรเบิร์ต ไคลฟ์ แห่งอินเดีย ผู้มีบทบาทสำคัญทำให้บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ ยึดครองอินเดียได้โดยสมบูรณ์ Cr.Wikipedia
อย่างไรก็ตามการทำสงครามภายใต้ คำว่า "การค้าเสรี" สร้างความไม่พอใจ ทำให้ชาวอินเดียลุกขึ้นต่อต้าน จนรัฐบาลอังกฤษ ต้องเข้าปกครองอินเดียแทนที่บริษัทอินเดียตะวันออกในปี ค.ศ. 1862
ยุคสมัยใหม่ แห่ง "การค้าเสรี"
อังกฤษอาจใช้เทคโนโลยีเรือปืนไฟ ที่ก้าวล้ำ และโครงสร้างการลงทุนแบบทุนนิยม ที่เอื้อต่อการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจ พอเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 21 สหรัฐอเมริกาใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่าเรือปืนไฟ สิ่งนั้นคือ "อินเตอร์เนต"
1
นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกายังออกแบบโครงสร้างการลงทุนให้กับ บริษัทสตาร์ทอัพทั้งหลายที่ใช้อินเตอร์เนตเป็นอาวุธเหล่านี้ โดยใช้ระบบที่เรียกว่า "ธุรกิจเงินร่วมลงทุน" (Venture Capital) โดยนักลงทุน สามารถร่วมลงทุนกับนักลงทุนราย อื่นๆ โดยจะได้หุ้นของบริษัท และคาดหวังที่จะขายหุ้นเพื่ิอทำกำไร เมื่อมีคนมาซื้อกิจการของบริษัทสตาร์ทอัพ หรืิอ บริษัทสตาร์ทอัพสามารถเข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้
SoftBank Vision Fund, VC ชื่อดัง ที่ปัจจุบันกำลังพบมรสุมหนัก Cr.Reuters
ดูเหมือนว่าบริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้ จะมีเงินทุนป้อนมาอย่างไม่จำกัด เป้าหมายคือ "ยึดทำเลการค้า" บนโลกออนไลน์ไว้ให้ได้แบบ "เบ็ดเสร็จ" บางบริษัทอาจแจกเงินอย่างหนักหน่วง เพื่อซื้อผู้ใช้บริการเค้ามาใช้บริการแอปพลิเคชัน ลองคิดภาพ Uber, Grab ที่ลดราคาแข่งกันสนุกมาก แต่พอวันนี้ Grab ชำระเบ็ดเสร็จ ก็สามารถขึ้นราคาค่าบริการเรียกรถแท็กซี่จนบางช่วงราคาแพงกว่ากว่าโบกแท็กซี่ 3-4 เท่าตัว!
บริษัทสตาร์ทอัพที่โด่งดังอย่างเฟซบุ๊ก ก็ดูเหมือนจะยึดครอง ทำเล สื่อโฆษณาออนไลน์ได้อย่างงดงาม โดยมีกำไรปีที่ 2561 สูงถึง 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ เพียง 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ กำไรเพิ่มเกือบ 8 เท่าใน 4 ปี
ทั้งบริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษแห่งแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 17 และบริษัทสตาร์ทอัพ มีความคล้ายคลึงกัน คือ การใช้เทคโนโลยีล้ำยุค และมีโครงสร้างการลงทุนที่เหมาะสม
2
บริษัทอินเดียตะวันออกอังกฤษ ต้องพบจุดเปลี่ยน จากการผันตัวเองจากการค้าขาย มาเป็นการปกครอง เป็น "เจ้าอาณานิคม" ทำให้เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากชาวท้องถิ่น
1
ส่วนเรื่องราวของบริษัทสตาร์อัพแห่งแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 จะดำเนินต่อไปอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง...
ที่มา: A Short History of British East India Company, งบการเงิน Facebook
1
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กด "ติดดาว" ติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก เชิญพูดคุยแลกเปลี่ยน ความรู้ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา