Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 45
•
ติดตาม
13 ต.ค. 2019 เวลา 08:17 • ไลฟ์สไตล์
มีความลังเลว่าควรจะเล่าเรื่องอย่างไรเพื่อให้ผู้อ่านและผู้ติดตามเข้าใจระหว่างการเขียนโดยยึดช่วงเวลาแล้วเรียงลำดับจากช่วงแรกแล้วค่อยไล่ย้อนมาสู่ยุคปัจจุบัน
แต่แล้วความคิดถัดมาคือเราควรเลือกทางง่ายไว้ก่อน คือนึกอะไรออกแล้วค่อยๆเขียนไป การวางรูปแบบหรือเคร่งครัดมากไปจะทำให้มีความยาก ถึงแม้การตัดสินใจแบบนี้จะถูกเจ้านายว่าบ่อยๆว่าเกิดจากการใช้สมองส่วนหลัง (เคยได้ยินบ้างมั้ยครับ)
ok เตือนตัวเองว่าเริ่มเขียนเป็น Block ๆ ละ เอ้า...ว่าแล้วก็เคาะ enter อีกที จริงๆสองนะมันถึงจะขึ้น block ใหม่
ไหนๆก็เกริ่นเรื่องการเข้ากรุงเทพตอนอายุ 18 ไว้แล้ว ตอนนี้ก็ขยายเรื่องนี้หน่อยก็แล้วกัน
สมัยนั้นผมเรียนจบ ปวช มาแล้ว 2 ปี และไม่มีโอกาสเรียนต่อ ฐานะทางบ้านไม่ดี มีแม่ที่เลี้ยงดูผมกับพี่น้องรวม 5 คนเท่านั้น เนื่องจากพ่อหรือป๋าที่ผมใช้เป็นคำเรียกสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตอนผมอยู่ ป.6
มาถึงตรงนี้หากมีผู้อ่านท่านใดเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว ขอให้ทราบไว้นะครับว่าอุปสรรคนั้นแก้ไขได้ ค่อยๆคิดค่อยๆทำ ไม่งั้นแม่ผมซึ่งไม่มีความรู้อะไรเลยคงไม่สามารถเลี้ยงดูให้ผมโตมาจนป่านนี้ได้เหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
กลับมาเรื่องการเรียนต่อซึ่งเกรดตอนที่ผมเรียนจบนั้นสามารถใช้สิทธิ์โควต้าเข้าเรียนต่อ ปวส ได้เกือบทุกสถาบันในกรุงเทพ แต่ด้วยที่ฐานะไม่ดี มีน้องๆที่ยังเรียนอยู่ ผมเลยตัดสินใจหางานทำ โดยเข้าทำงานในศูนย์บริการมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อนึงซึ่งได้ไปฝึกงานตอนเรียน ปวช ปีสุดท้าย
คั่นเวลาด้วยเหตุการณ์ตอนฝึกงาน อ้อ...ลืมบอกไปว่าผมเรียนช่างยนต์ครับ มีครั้งนึงต้องยกขาตั้งคู่บน lift เพื่อทำการ service จุดต่างๆได้สะดวก ผมยกไม่ไหวเนื่องจากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย (เข้าใจนะครับ รถผู้ชายคือรถที่ต้องขึ้นคร่อม ส่วนรถผู้หญิงคือไม่ต้องยกขาขึ้นคร่อมเหมือนขี่ม้า) ทำรถมอเตอร์ไซค์ผู้ชายคันนั้นล้มตกลงมาจาก lift ที่สูงประมาณเกือบฟุตได้ ได้แต่คิดในใจว่า ship หายแล้วกู
หัวหน้าช่างรีบเข้ามาช่วย ดุว่าไม่ไหวทำไมไม่บอก ไอ้เราก็คิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้ได้คิดอยู่แค่นั้นเพราะกลัวโดนล้อ สมัย ปวช ผมตัวผอมๆสูงๆ ต่างกับเพื่อนร่วมรุ่นเยอะเลย (มีเทอมนึงต้องเรียนมวยสากลสมัครเล่นไว้จะเล่าทีหลัง)
ส่วนพี่เจ้าของรถรีบเข้ามาดู ถามว่าผมเป็นอะไรมั้ย (ตอนนี้พิมพ์ไปน้ำตาก็พาลจะไหลออกมา) แกไม่ห่วงรถเลย ผมตอบไปว่าไม่เป็นไรครับแล้วก็เงียบไป ตอนนั้นหน้าผมคงซีดไปเลยเพราะทำอะไรไม่ถูก ผมจะเอาเงินที่ไหนมาให้พี่เค้า ได้แต่พูดขอโทษ
สุดท้ายพี่แกไม่ว่าอะไรซักคำ ส่วนรถก็มีรอยถลอกตามสภาพที่มันควรจะเป็น พี่แกมองซ้ายมองขวาบอกว่าไม่เป็นไรคราวหลังให้ระวัง
เรื่องนี้ผมจำได้ติดหัว เพราะถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องการให้โอกาสคนที่ทำผิดครั้งแรก
ในชีวิตการทำงานผมสอนลูกน้องเสมอว่าถูกผิดเกิดขึ้นได้ หากเกิดแล้วจะแก้ไขยังไง จะป้องกันอย่างไรไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ เกิดซ้ำสองอาจจะประมาทเลินเล่อหรือหลงลืม แต่ถ้าเกิดครั้งสามแสดงว่าผมสอนงานไม่ดี ต้องปรับปรุงตัวเองไม่ใช่ลูกน้อง ต้องหาวิธีสอนใหม่
หลังจากนั้นผมฝึกยกขาตั้งคู่จนคล่อง ไม่ว่าจะคันไหนก็ยกได้หมด มันก็แค่ต้องมีเทคนิคหรืออย่างที่บอกคือการทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำๆ เราต้องเก่งในเรื่องนั้นให้ได้ ตัวชี้วัดคืออัตราความผิดพลาดเป็นศูนย์ ดีกว่านั้นคือต้องเร็วกว่าเดิม
ก็ขอจบตอนนี้ไว้เพียงเท่านี้ก่อน กลัวจะยาวเกินไป
ขอบคุณสำหรับ comment จะปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆครับ
บันทึก
9
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
การเดินทางย้อนเวลา
9
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย