17 ต.ค. 2019 เวลา 19:33 • การศึกษา
" Silicon Valley" ( part 2)
Silicon Valley นอกจากจะเป็นแหล่งรวมบริษัทเทคโนโลยีมากมายเอาไว้แล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวกันครับ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีผู้คนมากมายหลายวัยจากหลายประเทศมุ่งหน้าเข้ามาที่นี่
ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีคุณจึงจะได้เห็นนวัตกรรมแปลกๆใหม่ๆอยู่เสมอถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่เลยครับ
ถ้าคุณเดินเล่นแถวในเมืองคุณอาจจะได้เห็น หุ่นยนต์ส่งอาหาร (doordash) วิ่งไปมาตามทางเท้า เจ้านี่เป็นผลงานของบริษัทStarship technologie บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีจากเอสโตเนียจับมือกับบริษัทส่งอาหาร Doordash ของทางฝั่งอเมริกา ร่วมกันเนรมิตเจ้าหุ่นน้อยนี่ขึ้นมาครับ
ภาพประกอบจาก : Starship technology
แม้กระทั่งบนท้องถนนคุณอาจจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับ( tesla )คนรวยที่นี่นิยมใช้รถ Tesla ครับ ซื้อมานั่งแล้วปล่อยให้รถขับเคลื่อนด้วยโหมดอัตโนมัติ มันเป็นอะไรที่จ๊าบสุดๆเลยทีเดียว😎
ถาพประกอบจาก : posttoday
แม้กระทั่งร้านค้าของที่นี่อย่าง Amazon go
ยังไม่ใช้พนักงานที่เป็นมนุษย์แม้แต่คนเดียวเลยครับ ใช้ระบบ A.I. ล้วนๆ
คือ คุณเดินเข้าไปหยิบของแล้วเดินตรงมาที่ทางออกได้เลย โดยใช้สมาร์ทโฟนของคุณสแกนผ่านแถบสไลด์ตรงทางออก เงินจะถูกตัดจาก wallet ของคุณผ่านทางสมาร์ทโฟนทันที OMG~~😮😮
ภาพประกอบจาก : Amazon และ mike kane/bloombreg
Silicon valley คือหนึ่งในสถานที่ที่รวมเอาหัวกะทิจากทั่วโลกไว้ค่อนข้างเยอะมากจึงทำให้ที่นี่เป็น community ที่สุดยอดแถมยังโคตรจะไฮเทคอีกที่นึงของโลกเลยก็ว่าได้ครับ
สำหรับผู้ที่อยากมาทำงาน
สิ่งที่ดึงดูดให้บรรดาหัวกะทิอยากมาที่ silicon valley คือ เสรีภาพทางความคิดและวัฒนธรรมองค์กร บริษัทที่อยู่ที่นี่จะ
ให้เงินเดือนค่อนข้างสูงเลยครับ เพราะ
ต้องการดึงคนเก่งๆมาร่วมงานด้วย
โดยเฉพาะตำแหน่งงานด้านไอทีคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ เทคโนโลยีซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ อีเล็คทรอนิกส์
และ อีคอมเมิร์ส
สวัสดิการที่นี่ก็เทพสุดๆ ต้องขอบอกก่อนว่าแต่ละรัฐในอเมริกามีเรทเงินเดือนที่ไม่เท่ากันนะครับ ตำแหน่งงานเดียวกันแต่หากเป็นคนละรัฐกันเรทเงินเดือนก็จะไม่เท่ากันครับ
เดี๋ยวจะขอยกตัวอย่างสวัสดิการของที่นี่ให้ฟังนะครับ
- วันหยุดพิเศษเมื่อทำงานมาระยะเวลาหนึ่ง เช่น ทำงานมาครบ5ปี ได้ลาพักร้อนฟรีๆ1เดือน (ถ้าพักร้อนปกติไม่เกิน3สัปดาห์)
- บางบริษัทถ้าทำงานมานานมากๆและ
มีผลงานดีทางบริษัทจะจ่ายปันผลให้เป็นหุ้นบริษัทก็มีนะครับ ยิ่งถ้าเป็นพวกบริษัทสตาร์ทอัพ หุ้นพวกนี้มีสิทธ์เติบโตขึ้นอีกเป็นร้อยเด้งเป็นพันเด้งเลยครับ
- ถ้าอยู่ต่างรัฐเวลาบินมาสัมภาษณ์งานทางบริษัทจะออกค่าตั๋วเครื่องบินและเบี้ยเลี้ยงให้ หากได้งานแล้วจำเป็นต้องย้ายรัฐมาอาศัยอยู่ที่นี่บริษัทจะมีเงินค่า recolate
ให้ด้วย ได้มากน้อยขึ้นอยู่กับว่าย้ายมาไกลแค่ไหน เปรียบเสมือนเงินช่วยเหลือในการย้ายบ้าน
ปล.บริษัทอื่นๆที่ไม่ใช่ใน silicon valley ก็อาจมีสวัสดิการแบบนี้บ้างครับ
บริษัทที่นี่จะเน้นเรื่องความหลากหลายในเรื่องของเชื้อชาติ คนผิวสี คนอินเดีย คนเอเซีย บอกเลยว่าเพียบ เรื่องเหยียดผิวไม่ต้องห่วงเลยสำหรับที่นี่เพราะไม่มีแน่นอนครับ (เดี๋ยวนี้คนไทยทำงานใน silicon valley ค่อนข้างเยอะเลยครับ)
วุฒิปริญญาโทเหมือนเป็นวุฒิมาตรฐานสำหรับคนที่ทำงานที่นี่ครับ หรือไม่ก็จะเป็นคนที่มีประสบการณ์ในสายงานด้านนั้นๆแบบสูงๆไปเลยครับ
สำหรับผู้ที่อยากมาก่อตั้ง Startup
Startup จากทั่วทุกแห่งหนใฝ่ฝันที่จะได้มาเก็บเกี่ยวความรู้จาก startup รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก มาเห็นมาสัมผัสไอเดียที่ทั้งเจ๋งและบ้าในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้คนที่ไม่มี startup เป็นของตัวเองแต่มีไอเดียที่เจ๋งมากๆ ก็ยังสามารถมาเสนอไอเดียกับบริษัทใหญ่ๆเพื่อหาเงินลงทุน (venture capital) ได้ด้วยครับ
ที่นี่ก็เปรียบเสมือน hollywood แห่งวงการเทคโนโลยีแหละครับ ใครมีไอเดียหรืออยากจะสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนแปลงโลกก็ต้องมาที่ silicon valley ทั้งนั้นครับ เพราะที่นี่ถ้าไอเดียหรือนวัตกรรมของคุณมันเจ๋งจริงๆ ก็มีบริษัทมากมายพร้อมที่จะกระโดดเข้ามาสนับสนุนเงินลงทุนให้คุณเพื่อสร้างไอเดียของคุณให้มันได้เกิดขึ้นมาจริงๆครับ
มี startup ของคนไทยที่อยู่ใน silicon valley ด้วยนะครับ ชื่อบริษัท omnivirt ครับ เป็นบริษัทผลิตโฆษณาแบบ Virtaul Reality ที่กำลังมาแรง และได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ด้านไอทีจำนวนมากเลยครับ
เจ้าของคือคุณ ปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์
หรือคุณ แบดด์ ครับ คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกนะครับ ขอเพียงแค่กล้าฝันและลงมือทำครับ
คุณแบดด์/ผู้ก่อตั้ง omnivirt ภาพจาก : รายการไทยPBS
สำหรับผู้ที่อยากมาเรียน
ที่นี่มีมหาลัยลัยชื่อดังอยู่ 2 แห่งครับ นั่นคือ
- University of california berkeley
( มหาวิทยาลัย เบิร์คลี่ย์)
- University standford
( มหาวิทยาลัย สแตนด์ฟอร์ด)
แต่ที่เป็นเป้าหมายของหลายๆคน คือ standford ครับ
Standford University มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากครับเพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและศิษย์เก่าของที่นี่แต่ละคนนี่บอกเลยครับว่าสุดยอดทั้งนั้น
ไว้จะทำ part แยกเกี่ยวกับ standford ให้ในอนาคตครับ ตัวผมเองก็ชอบประวัติของที่นี่มากๆเช่นกันครับ
ภาพประกอบจาก : Linda Cicero/standford news
หากคุณได้เป็นนักศึกษาของที่นี่คุณโชคดีมากครับ วันดีคืนดีคุณนั่งเขี่ยๆเขียนๆอยู่ในคลาสเรียน คุณอาจจะได้เจอ เอริค ชมิดท์
อดีตCEOของ google และ apple มาเป็นอาจารย์พิเศษบรรยายให้คุณฟัง หรืออาจจะเป็นคนดังคนอื่นๆที่จบจากที่นี่ครับ แม่จ้าว❗ได้มีโอกาสฟังบรรยายจากหัวกะทิตัวพ่อ
เอริค ชมิดท์ ( Eric shmidt) ภาพจาก : wikipedia
มาร์ค ชัคเกอร์เบิร์ค ก็เคยถูกเชิญให้มาบรรยายให้เหล่านักศึกษาฟังนะครับและแกก็รับด้วย ช่วงนั้น Facebook มีผู้ติดตามเกือบ10ล้านคนแล้วครับ ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงจะได้นั่งฟัง มาร์ค ชัคเกอร์เบิร์ค
เดี่ยวไมโครโฟนให้ฟังแบบexclusiveขนาดนี้ WoWwww~~😮😮
มาร์ค ชัคเกอร์เบิร์ค ภาพจาก : CNBC.com/getty
ด้วยเหตุผลนี้แหละครับ standford จึงเป็นมหาลัยในฝันของใครหลายคน และสำหรับคนที่ต้องการจะทำงานใน silicon valley ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีมากๆแน่นอนครับ
ภาพประกอบ : David Madison/gettt
สภาพแวดล้อมที่ดีมากๆ สุดยอดแห่ง community
มหาวิทยาลัยชื่อดังคุณภาพระดับplatinum
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชื่อก้องโลก
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ที่ Silicon valley เป็นสถานที่ในฝันของผู้คนจากทั่วโลก ที่ต้องการไปบ่มเพาะศักยภาพของตัวเองเพื่อที่จะได้รอวันเฉิดฉายต่อไปในอนาคต
พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และความเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ณ silicon valley
ได้จุดประกายให้กับผู้คนที่มีความฝันจากทั่วทุกมุมโลกให้มุ่งหน้ามาที่นี่และพิชิตเป้าหมายของตนให้สำเร็จ
ฝากกดไลค์กดแชร์และกดติดตามเพจให้ด้วยนะครับ 😘
👤 A MAN...... By_สมถุย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา