23 ต.ค. 2019 เวลา 12:30 • ความคิดเห็น
ใครจะรู้ว่านี่คือประโยคสุดท้าย
เคยบ้างไหมที่เราตัดสินใจพูดหรือทำบางอย่างกับใครอีกคน แล้วต้องกลับมารู้สึกผิดในภายหลัง
ถ้าเราคิดได้ เราคงขอโทษอย่างจริงใจ และกลับมาจับมือ โอบกอด และยิ้มให้กันได้อีกครั้ง
แต่ใครจะรู้ว่าแต่สำหรับบางคนแล้ว
คำพูดร้าย ๆ การแสดงออกอย่างเกรี้ยวกราด หรือน้ำเสียงที่สร้างบาดแผลร้ายในตอนนั้น กลับเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราฝากให้เขาจดจำไปในวินาทีสุดท้ายของลมหายใจบนโลกนี้
เรื่องราวของอาจารย์หมอ ผู้ลุกขึ้นมาเพื่อร้องเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกเข้าไปในจิตใจ เพลงที่แทนความรู้สึกสุดท้าย ในวันที่พ่อของคุณหมอต้องจากไปอย่างไม่มีโอกาสได้ร่ำลากันด้วยดี แต่คำอำลาที่เอ่ย มันกลับไม่ใช่คำอำลา
คงไม่ใช่ความผิดชองใครทั้งสิ้นในกรณีนี้ เพราะมันคงเป็นเรื่องของโชคชะตาเสียจริง ๆ
สุดท้ายคุณหมอก็ก้าวข้ามผ่านความเสียใจในครั้งนั้นมาจนได้ แต่วันนี้คุณหมอมาร้องเพลงนี้คงเพื่ออยากบอกเราทุกคนที่มีโอกาสได้ฟัง สิ่งที่คุณหมออยากบอกคงสรุปได้ว่า
ก่อนเราจะพูดจะทำอะไรออกไป พึงระลึกไว้เสมอว่านั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาจจะได้พูดและได้พบหน้าเขา หรืออาจเป็นตัวเราเองที่อาจจะจากโลกนี้ไป แต่กลับทิ้งบาดแผลร้ายที่มิอาจลบล้างได้โดยง่ายไว้ให้คนข้างหลัง
- คำพูดที่ทำร้ายไมตรีจากความเขลายามเยาว์ ก่อนที่เพื่อนจะย้ายไปไม่ได้พบกันอีก
- คำผรุสวาทที่เกิดจากโทสะ ก่อนที่ความรักจะแตกหักจนไม่อาจผสานรอยร้าวใด ๆ ได้อีก
- คำบ่นด่าที่เคยชินจนติดปาก ก่อนที่คนที่รักจะจากไปด้วยเหตุไม่คาดคิดหลังจากนั่นเพียงห้านาที
- คำประชดประชันที่เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจเพียงชั่ววูบ ก่อนที่คนฟังจะตัดสินใจลาโลกไปด้วยความเสียใจเหลือประมาณ
ผมขอแค่ให้ทั้งหมดเป็นเพียงเหตุสมมุติเท่านั้น เพราะผมเชื่อว่า เมื่อคุณได้อ่านบทความนี้อย่างละเอียด ผมมั่นใจว่าในอนาคต ทุกคนจะค่อยคิด ค่อยทำ ค่อยพูด อย่างมีสติ และถนอมน้ำใจกัน
เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พานพบกันอีก
โชคดี มีไมตรีกันตลอดไปครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา