4 ธ.ค. 2019 เวลา 12:30 • ความคิดเห็น
My father's day 2019
ถ้าพูดถึง "พ่อ" ภาพชายร่างสูงใหญ่ ดูไม่เคยแก่ (ถ้าย้อมผม) ไม่ชอบพูดเยอะ แต่แอบดุ รักครอบครัว มีน้ำใจกับคนอื่นเสมอ นั่นคือพ่อของผม
พ่อแต่เดิมเป็นคุณครู แม่เล่าให้ฟังว่าในวันที่ผมเกิด แม่อยู่บนบ้าน พ่อกำลังสอนพิเศษนักเรียนอยู่ข้างล่าง แม่เริ่มปวดท้องเลยให้พี่ชายวัยสามขวบ ค่อย ๆ ไถก้นลงมาตามบันไดเพื่อไปบอกพ่อที่กำลังง่วนอยู่
"ป้อ ๆ แม่เจ๊บต๊อง" (กรุณาใส่ ost.ภาษาเหนือ)
แล้วเด็ก ๆ ที่มาเรียนพิเศษก็ต้องสลายตัวไปในทันทีราวอากาศธาตุ
และคืนนั้นผมก็คลอดออกมาดูโลกจนได้ แอบสงสารโลกอยู่นิด ๆ ในตอนนี้
แม่เล่าให้ฟังว่าตอนเริ่มสร้างครอบครัวใหม่ ๆ มันยากลำบากทีเดียว ทั้งพ่อและแม่รับราชการ เงินเดือนก็แค่พอใช้ พอผมเกิดมาอีกคน รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจากเดิม และแน่นอนว่ารายได้บางเดือนก็อาจติดลบ
แม่บอกว่าบางคืนพ่อถึงกับนั่งร้องไห้ที่ดูแลครอบครัวได้ไม่ดีพอ แต่พ่อก็พยายามเต็มที่แล้ว ทั้งสอนพิเศษ ทำงานเสริมอีกนอกเวลาทำงาน จนเราสี่คนก็พออยู่พอใช้จนได้
ผมไม่ชอบคณิตศาสตร์เอาเสียเลย เพราะพ่อผมเป็นคุณครูคณิตศาสตร์ คงนึกภาพครูคณิตศาสตร์สอนการบ้านลูกออกใช่ไหมครับ
"ป้อ อันนี้ย่ะจะใดนิ" (พ่อ อันนี้ทำไงเนี้ย)
พ่ออ่านโจทย์อยู่พักนึงแล้วบอกว่า
"ง่ายจะต๋าย อ่านนิยามนี่ก่ะลูก นิยามมันว่าจะใดหอ" (ง่ายจะตาย อ่านนิยามสิลูก นิยามมันว่ายังไงละ)
คงนึกออกว่าผมจะแก้โจทย์ได้ง่ายดายขนาดไหนเมื่อเข้าใจนิยามทางคณิตศาสตร์แล้วอย่างทะลุปรุโปร่ง
ใช่ผมเลือกไปลอกการบ้านเพื่อนตอนเช้า ซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายกว่าเข้าใจนิยามมากมายนัก และตามมาด้วยเกรด 1 วิชาคณิตศาสตร์ ของลูกชายคุณครูคณิตศาสตร์ ช่างน่าภูมิใจที่สุดของที่สุด
แต่พ่อไม่เคยลงโทษผม แค่บอกเพื่อนครูให้เอาผมไปนั่งหน้าชั้น และให้ออกไปทำโจทย์หน้าชั้นเกือบทุกคาบแค่นั้นเอง ไม่ใช่การลงโทษเลยยยยย
พ่อเป็นพ่อที่ทำหน้าที่แม่ได้สุดยอด แม่ผมต้องย้ายไปต่างจังหวัดหลายที่ สลับไปมาอยู่เกือบ 10 ปี ซึ่งพ่อรับหน้าที่ดูแลเราสามพี่น้อง ซึ่งเรากลับไม่ได้รู้สึกขาดตกบกพร่องอะไร พ่อทำกับข้าวอร่อยมาก แค่พ่อไม่ค่อยได้เข้าครัวเอง พ่อไปส่งเราทุกเช้า แม้ว่าเราจะต้องยืนเรียงแถวเด็กมาสายเกือบทุกวันก็ตาม และพ่อดูแลเราเสมอ แม้ตอนที่น้องร้องไห้หาแม่ตลอดทางกลับบ้านเวลาเราไปเที่ยวหาแม่ที่ต่างจังหวัด ตลอดหลายปีนั้น พ่อเป็นพ่อที่ยอดเยี่ยมเสมอ
พ่อไม่ค่อยพูดหรือแสดงความรักอะไรมากนัก คงเพราะเราเป็นเด็กผู้ชาย และผมเองก็ค่อนข้างมีความเป็นตัวของเองสูง ผิดกับพี่ชายที่ดูเอาอกเอาใจแม่เก่ง (ร้ายนะแก) ส่วนน้องสาวที่พลัดหลงไปเกิดล่าไปจากผมอีก 6 ปี จึงเป็นลูกสาวคนเล็กที่พ่อประคบประหงมอย่างดี
แต่ผมมั่นใจว่าทั้งพ่อและแม่รักลูกทุกคนเท่า ๆ กัน เสมอ เพราะแกก็บ่นก็ตีทุกคนเหมือนกัน 5555
เรากอดและหอมแก้มแม่เสมอ แต่กับพ่อ แค่วันพิเศษ ๆ เท่านั้นที่เราจะมีโอกาสได้แสดงความรักแบบนั้น ซึ่งความจริงวันหนึ่งเราอาจโหยหาสิ่งนี้ก็ได้ แต่มันก็ยังเขิน ๆ อยู่ดีนั่นละ ทุกคนคงพอนึกออก
พ่อคือหัวหน้าครอบครัวตัวจริงที่มีแม่บังคับบัญชาอยู่อีกที (อ่ะ ล้อเล่น) พ่อคือคนที่ตัดสินใจในช่วงวิกฤติของครอบครัวเสมอ
พ่อยอมทิ้งอาชีพครูที่พ่อรัก เพราะคิดแล้วว่าให้แม่มีอาชีพที่เป็นหลักให้น่าจะเหมาะสมกว่า จากสถานะการเงินของครอบครัวที่เริ่มกลับมาตึงอีกครั้ง พี่ชายเริ่มเข้าเรียนมหาลัย ผมในวัยจะเข้ามัธยมปลาย และน้องสาวที่เรียนประถม รายรับข้าราชการสองคนอาจไม่พอเสียแล้ว
พ่อตัดสินใจออกมาทำอาชีพอิสระที่มีโอกาสมีรายได้มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็มากขึ้น แต่ก็ตัดสินใจลาออกอยู่ดี และนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้โดยไม่ลำบากมากนัก
พ่อยอมเสี่ยงและเสียสละ ยอมเหนื่อยมากขึ้นเพื่อให้ครอบครัวเราสบายขึ้นจริง ๆ
ผมไม่แน่ใจว่าผมทำให้พ่อภูมิใจบ้างไหม ผมไม่ใช่เด็กอัฉริยะ ไม่ได้เรียนเก่งอันดับต้นของห้อง ไม่เล่นกีฬาอะไรเลย ดนตรียิ่งห่วยแตก ความสามารถพิเศษอะไรก็ไม่มี ได้แต่พลิกลิ้นไปกลับไปกลับมาได้ ซึ่งนั่นเทพมากสำหรับเด็กน้อย นอกนั้นแทบไม่มีอะไรโดดเด่นอีกเลย
แต่ผมจำวันนั้นได้
วันนั้นเป็นช่วงเย็น ผมกลับมาจากโรงเรียนเอามอเตอร์ไซด์ไปจอด
พ่อนั่งคุยอยู่กับป้า ผมเดินเข้าไปสวัสดี
ผมเห็นพ่อน้ำตารื้น แล้วเผยยิ้มอย่างมีความสุขออกมา
"ลูก..ลูกเอ็นท์ ฯ ติดแล้วหนาลูก"
พ่อยิ้มมีความสุข ผมเดินเข้าไปกอดเอวพ่อไว้ พ่อลูบหัวผมเอาแต่พร่ำบอกว่า
"เก่งมากลูก เก่งมาก"
ผมอาจไม่ได้เรียนคณะที่พ่อหวัง แต่ผมก็ยังดีใจ ที่ได้ทำให้พ่อภูมิใจบ้าง และผมรู้ว่าพ่อภูมิใจจริง ๆ
ตลอดการเรียนต่างบ้านต่างเมือง พ่อส่งจดหมายมาให้เป็นระยะ สมัยนั้นค่าโทรศัพท์ยังแพงอยู่มาก จดหมายจึงเป็นอะไรที่ประหยัดและนิยมอยู่ ผมยังเก็บจดหมายพวกนั้นไว้แม้จะกลับมาอยู่บ้านหลังเรียนจบแล้วก็ตาม และทุกครั้งที่หยิบมาอ่าน ผมร้องไห้เสมอ เพราะรับรู้ถึงความห่วงใยและความลำบากที่พ่อพยายามส่งเสียลูก ๆ ทุกคนอย่างเต็มที่เสมอ
ตอนนี้ผมมีครอบครัวของผมเอง แม้ยังไม่มีลูก เพราะยังหวั่นใจว่าจะดูแลเขาได้ดีเหมือนที่พ่อดูแลผมได้หรือเปล่า ทุกวันนี้ผมอาจดูแลพาอได้ไม่ดีนัก แต่ผมก็ยังภูมิใจที่เป็นคนที่ได้ดูแลพ่อและแม่ใกล้ชิดที่สุด ผมคงพยายามเท่าที่พลังของผมจะอำนวย แต่อยากให้ท่านรู้ว่า ผมอยู่ใกล้ ๆ เสมอ ขอเพียงท่านเอ่ยปาก ถึงเราจะแยกบ้านออกมาก็ตาม แต่ผมก็อยู่ใกล้ ๆ ไม่ได้หนีไปไหน
ผมหวังให้ท่านมีสุขภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไป มีความสุขกับงานอดิเรกอย่างเต็มที่ และเป็นพ่อที่เป็นที่รักของพวกเราตลอดไป
ผมไม่คิดว่าพ่อจะมาอ่านเจอเรื่องนี้หรอก แต่ผมเพียงอยากบันทึกความทรงจำดี ๆ ของผมเอาไว้ เพราะบางทีเวลาเราโตขึ้น เรากลับหลงลืมความทรงจำดี ๆ ในอดีตไปเสียอย่างนั้น เพราะยิ่งโต ชีวิตยิ่งไม่ง่าย
ขอบคุณพ่อเสมอ ที่คอยเป็นกำแพงให้พิงยามอ่อนล้า เป็นทุกสิ่งที่นำพาลูกทุกคนไปถึงฝัน เป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์ที่ไม่ดีนักสำหรับผม แต่เป็นตัวอย่างหัวหน้าครอบครัวที่ perfect เสมอ เพราะพ่อไม่เคยทะเลาะอะไรกับแม่ใหญ่โตให้เราเห็นเลย และเป็นคู่ชีวิตที่ดีของแม่ตลอดมาและตลอดไป นั่นคือบทเรียนของการเป็นผู้ชายที่ดีที่พ่อสอนให้ดูเป็นตัวอย่างมาตลอดชีวิต
ขอบคุณและรักพ่อมากครับ
จากลูกคนกลางที่ไม่ได้อาภัพอย่างที่เขาว่ากัน
และสำหรับทุกคน ขอให้เป็นวันพ่อที่มีความสุขครับ แม้ว่าท่านจะยังอยู่หรือไม่ แต่ท่านจะอยู่ในความทรงจำเราเสมอครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา