22 ต.ค. 2019 เวลา 02:35 • ปรัชญา
ต้นตำนานการทอดกฐิน
ประเพณีการทอดกฐินของชาวพุทธ มีกำเนิดมายาวนานตั้งแต่ครั้งต้นพุทธกาล ตั้งแต่พรรษาต้นๆ ที่พระพุทธเจ้าเริ่มเผยแผ่พระศาสนาโน่นเลยทีเดียว หลังจากพูดถึงเรื่องไปทอดกฐินที่วัดป่ามาแล้ว ก็เลยนำประวัติการทอดกฐินมาเล่าให้ฟังว่ามีความเป็นมาอย่างไร
เริ่มต้นจากเรื่องของภัททวัคคีย์
ภัททวัคคีย์ เป็นกลุ่มชายหนุ่ม ๓๐ คน อาศัยอยู่ที่เมืองปาฐา หรือปาไฐยรัฐ อยู่ทางตะวันตกของสาวัตถีที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล จะเรียกว่าเป็นเจ้าชายก็ได้ เพราะทั้งหมดเป็นโอรสของพระเจ้ามหาโกศล เจ้านครสาวัตถีองค์ก่อน แต่ขณะนั้นผลัดแผ่นดินแล้วมีพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้เป็นโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
สมัยหนึ่ง บรรดาภัททวัคคีย์ได้พาภรรยาไปเที่ยวกัน ชายหนุ่ม ๒๙ คนมีภรรยา แต่คนหนึ่งไม่มี คนที่เหลือก็เลยไปจ้างหญิงคนหนึ่งมาเป็นเพื่อนเที่ยวจะได้ไปกันเป็นคู่สนุกสนานเหมือนคนอื่น ทั้งหมดท่องเที่ยวไปเรื่อย จากปาไฐยรัฐ ข้ามแคว้นโกศลไปสู่พาราณสีที่ขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นโกศลไปแล้ว เข้าใกล้ราชคฤห์เมืองหลวงของแคว้นมคธ
แล้วก็เกิดเหตุ คือ หญิงเพื่อนเที่ยวที่จ้างมาแอบขโมยเครื่องประดับหนีไป ภัททวัคคีย์จึงช่วยกันตามหาหญิงแพศยาคนนั้นจนไปถึงไร่ฝ้ายแห่งหนึ่ง ได้พบพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่โคนไม้จึงเข้าไปหาสอบถามว่าพบหญิงแพศยาที่ขโมยเครื่องประดับของพวกตนไปหรือไม่
พระพุทธเจ้าตรัสถามว่าระหว่างการเที่ยวหาเครื่องประดับที่หายไป กับการแสวงหาตนเอง อย่างไหนน่าค้นหากว่ากัน ภัททวัคคีย์ตอบว่าการค้นหาตนเองน่าจะดีกว่า พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าถ้าเช่นนั้นจงนั่งลง เราจะแสดงธรรมให้พวกเธอฟัง
ภัททวัคคีย์โชคดีมากที่ได้มาพบพระพุทธเจ้า เพราะปีนั้นเป็นปีแรกหลังการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเพิ่งเสด็จไปแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปัตนมฤคทายวัน ทรงแสดงธรรมโปรดพระนาลกะ พระยสะและสหาย ทำให้มีพระอรหันต์ทั้งสิ้น ๖๐ องค์ (ไม่นับรวมพระนาลกะที่กราบทูลลาไปบำเพ็ญธรรมต่อในป่าจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ภายหลัง) หลังออกพรรษาแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสให้พระอรหันตสาวกแยกย้ายกันไปคนละทิศเพื่อช่วยกันเผยแผ่พระศาสนา โดยพระองค์เองเสด็จมุ่งหน้าเข้านครราชคฤห์เพราะเคยปฏิญญาไว้ว่าถ้าพระองค์ตรัสรู้แล้วจะต้องมาแสดงธรรมแก่พระเจ้าพิมพิสาร
แต่ก่อนจะเสด็จเข้านครราชคฤห์ พระพุทธองค์จะเสด็จไปอุรุเวลาเสนานิคมก่อน เพื่อแสดงธรรมโปรดชฎิล ๓ พี่น้องที่มีบริวารนับพัน เพราะหากทำให้ชฎิลและบริวารทิ้งการบูชาไฟหันมานับถือพุทธศาสนาได้ ก็จะสร้างศรัทธาให้มหาชนชาวนครราชคฤห์ที่นับถือชฎิลบูชาไฟให้หันมานับถือพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น และระหว่างทางได้ประทับนั่งอยู่ใต้ร่มไม้จนภัททวัคคีย์มาพบเข้า
พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาอุปนิสัยของภัททวัคคีย์ว่ามีอุปนิสัยพอที่จะบรรลุธรรมได้ แต่บารมีธรรมยังไม่แกร่งกล้าพอจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ จึงทรงแสดงธรรมเพื่อสร้างศรัทธาก่อน เรียกว่า อนุปุพพิกถา เช่นเดียวกับที่เคยแสดงแก่พระยสะและบิดามารดาพระยสะ
.
อนุปุพพิกถา เป็นการแสดงธรรมไปโดยลำดับ เริ่มจากทรงแสดงเรื่องของทาน อานิสงส์ของศีล การเสวยสุขในสวรรค์ แต่ทั้งหมดนี้ทำให้มนุษย์ยังหลงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เรียกว่ายังติดอยู่ในกาม จึงทรงแสดงโทษของกามต่อ และปิดท้ายด้วยการพรรณาคุณของการออกบวช
.
หลังจากฟังธรรมแล้วภัททวัคคีย์ทั้งหมดก็มีดวงตาเห็นธรรม น้องเล็กเป็นพระโสดาบัน ที่เหลือเป็นพระสกทาคามี โดยพี่ใหญ่หัวหน้าสำเร็จเป็นพระอนาคามี จากนั้นภัททวัคคีย์ทั้งหมดก็บวชเป็นภิกษุ แล้วกราบทูลลาพระพุทธองค์กลับปาไฐยรัฐ ไปบำเพ็ญภาวนาต่อโดยถือการอยู่ป่าเป็นวัตร
แต่ภาวนาเท่าไรก็ยังไม่มีใครสำเร็จเป็นพระอรหันต์เลยสักองค์ ...
ที่มา:
เรื่องสหายภัททวัคคีย์ พระวินัยปิฎกเล่ม ๔ คัมภีร์มหาวรรค ภาค ๑

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา