25 ต.ค. 2019 เวลา 05:15 • บันเทิง
[Review] Alita: Battle Angel (2019) – จุตินางฟ้ายอดนักรบ
“ แกเพิ่งทำพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ตรงที่ประเมินค่าฉันต่ำไป ”
เราทุกคนล้วนมีโปรเจคหนังที่เราอยากดูทั้งสิ้น ทั้งโปรเจคภาคต่อ โปรเจคดัดแปลงจากหนังสือ ดัดแปลงจากเกม หรือ แม้กระทั่งดัดแปลงจากมังงะ หลายต่อหลายปี เรารอคอยการมาถึงของการอัพเดทของ Akira ฉบับคนแสดงเสมอ ทุกครั้งที่มการดัดแปลงจากมังงะ เราจะรอคอยเสมอเพื่อที่ความสำเร็จของเรื่องนั้นจะส่งผลถึงให้มี Akira ปล่อยออกมาสักที
ครั้งนี้ เจมส์ คาเมรอน กลับมาพร้อมกับโปรเจคที่เขาเคยหวังจะปลุกปั้นมาเป็นเวลานานแล้วอย่าง Gunnm หรือมังงะภายใต้ชื่อ ไซบอร์กเพชรฆาต มาเป็นหนังเวอร์ชั่นคนแสดงแต่ก็ติดปัญหาการพัฒนามาหลายต่อหลายปี รวมถึงการมาถึงของ Avatar ที่ คาเมรอน หันไปพัฒนาเต็มรูปแบบ ทำให้คาเมรอนต้องหาผู้ที่มากุมบังเหียนแทนตนเองและชายผู้นั้นก็คือ โรเบิร์ต โรดริเกรซ ผู้กำกับ ฯ ที่โดดเด่นทางด้านวิสัยทัศน์ ด้วยผลงานเด่น ๆ อย่าง From Dusk Till Dawn และ Sin City
Alita: Battle Angel เล่าเรื่องของโลกในอนาคตหลังสงครามอวกาศ “The Fall” สิ้นสุดลง ผู้คนต่างมารวมกันที่ซาเล็ม นครลอยฟ้าที่ผู้มั่งมีอาศัยและ นครเศษเหล็กที่ใช้ชีวิตอยู่เบื้องล่างโดยไม่มีโอกาสย่างกรายขึ้นไปเบื้องบน ดร.อิโด คุณหมอที่รักษาและซ่อมแซมอะไหล่ให้เหล่าผู้คนที่ใช้ชีวิตในนครนี้พานพบไปเจอกับไซบอร์กตนนึงและทำการรักษาก่อนตั้งชื่อให้เธอว่า อลิตา โดยที่ อลิตาไม่มีความทรงจำเหลืออยู่เลย ทำให้เธอต้องค้นหาว่า จุดกำเนิดแท้จริงของเธอมาจากไหนในโลกอนาคตที่แสนโหดร้าย
หนังเล่าเป็นเส้นตรงที่ตรงไปตรงมา พูดถึงตั้งแต่การพานพบเข้ากับอลิตาโดยดร.อิโดและการเรียนรู้ตัวตนของอลิตาในนครเศษเหล็กและได้พานพบกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น แทรกด้วยแอ็คชั่นเป็นระยะ ๆ และค่อย ๆ ไต่ระดับความดุเดือดของฉากแอ็คชั่นเหล่านั้นในทุกนาทีที่หนังดำเนินไป ก่อนเผยให้เห็นงานสร้างและวิช่วลที่ตระการตาของมหานครเศษเหล็กและเหล่าไซบอร์กที่ประดังเข้ามาหาอลิตา
อย่างนึงที่เราต้องชมเลยคือ งานวิช่วลที่น่าตื่นตาจนเป็นดาวเด่น ทั้งตัวละครของอลิตาที่แม้ดวงตากลมโตจะเป็นที่วิจารณ์ในช่วงแรกที่ตัวอย่างออกมาก็ตามแต่ในตัวหนังเต็มก็เผยให้เห็นรายละเอียดที่สมจริงของอลิตาที่เนรมิตด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค รวมถึงการสรรค์สร้างไซบอร์ก นครเศษเหล็กและซาเล็มได้อย่างตระการตา พร้อมงานสร้างที่เราได้เห็นบรรยากาศไซเบอร์พังก์แทบที่จะถอดแบบมาจากในมังงะ
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือฉากแอ็คชั่น ทั้งในฉากการต่อสู้ประชิดตัวที่อัดแน่นด้วยท่วงท่าต่อสู้ที่ดิบเถื่อนและฉากเด็ดอย่าง “มอเตอร์บอล” ที่รวดเร็วฉับไวจนลืมหายใจ อีกส่วนนึงที่เราอยากจะชมก็คือ ตัวหนังมาในเรท PG-13 แต่ก็แฝงไปด้วยความรุนแรงที่ตัวหนังสามารถจะพาไปถึงได้ ผ่านความดิบเถื่อนในหลายฉากหลายตอน ส่วนต่อมาก็คือ การแสดงของโรซา ซัลลาซา ในบทนำอย่างอลิตา ที่แม้จะเป็นการแสดงผ่านเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ แต่ก็สามารถแสดงได้น่าจดจำและรับบทเป็นนักรบสาวไซบอร์กได้โคตรเท่
หลายองค์ประกอบพร้อมให้หนังกลายเป็นการดัดแปลงจากมังงะที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องต่อจาก Edge of Tomorrow หากแต่หนังฉลาดที่จะเล่าพอที่จะจับยัดหลายเส้นเรื่องเข้ามาเล่าภายใต้เวลา 2 ชั่วโมง ด้วยความที่หนังทำท่าจะสร้างต่อมาอีกหลายภาค (จากบทสัมภาษณ์ของคาเมรอน) ทำให้หนังทำการปูหลายพล๊อตเข้ามาในภาคนี้จนทำให้หนังดูท่าจะรีบเร่งที่จะเล่าเกินไปนิดนึง
ประกอบกับการตัดต่อบางช่วงบางตอนที่ทำให้หนังดูแห้งแล้งทางอารมณ์ลงไป ส่งผลให้ช่วงท้ายของหนังส่งพลังน้อยลงไปมาก หากเทียบกับที่เราเคยอ่านมาจากมังงะ นอกจากนี้ตัวชุดนักแสดงสมทบ ทั้ง คริสตอฟ วอลซ์, มาเฮอร์ชาลา อาลี และ เจนนิเฟอร์ คอร์เนลลี ที่เป็นนักแสดงระดับออสก้าร์แต่ก็ไม่ได้แสดงพลังทางการแสดงเสียเท่าไหร่
กระนั้นเราก็มิอาจมองข้ามในศักยภาพของหนังได้เลยจริง ๆ ทั้งการดีไซน์และออกแบบตัวละครอลิตาให้เป็นยัยหนูยอดนักสู้และท่วงท่าการต่อสู้ที่ออกแบบมาได้ดูเดือดเลือดพล่าน งานสร้างและตัวละครไซบอร์กทั้งหลายแหล่ ก็ทำให้เราสนใจที่อยากจะเห็นนครเศษเหล็กและซาเล็มอีกครั้งนึงในภาคต่อ
สรุปแล้ว Alita: Battle Angel คือหนังไซไฟแอ็คชั่นที่มาพร้อมวิช่วลและงานสร้างตระการตา ฉากแอ็คชั่นที่มันส์หยดดุเดือดจนลืมหายใจ อาจมีปัญหาในเส้นเรื่องที่เล่าหลายพล๊อตเกินไปจนทำให้หนังดูรีบเร่งในบางช่วงแต่ทั้งหมดก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอให้อภัยได้ ศักยภาพของมันทำให้เราไม่อาจมองข้ามความตั้งใจในการสร้างอันยิ่งใหญ่ของมันจะทำให้เราไม่อาจอดทนรอคอยภาคต่อได้เลย
3.5 / 5
Alita: Battle Angel (2019)
Directed by Robert Rodriguez
Screenplay by James Cameron and Laeta Kalogridis
Based on “Battle Angel Alita” by Yukito Kishiro

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา