13 พ.ย. 2019 เวลา 02:27 • สุขภาพ
บริจาคเลือด แล้วเลือดไปไหน
การบริจาคเลือด ไม่สามารถเอาเลือดจากคนหนึ่งไปให้อีกคนหนึ่งทันที
ชาดัลกอน จะทำแบบนี้ไม่ได้ !!!
ป.ล. จากเรื่อง Vagabond (เดี๋ยวจะหาว่าบ่นแต่ละครไทย)
หลังได้เลือดจากการบริจาค จะต้องผ่านขั้นตรวจการตรวจ 4 โรคหลัก ที่ติดต่อทางเลือด
ได้แก่ HIV, ไวรัสตับอักเสบบี, ตับอักเสบซี และซิฟิลิส
หลังจากนั้น ก็นำไปปั่นแยกส่วนต่าง ๆ ของเลือด
เพื่อให้ใช้ได้เกิดประโยชน์มากที่สุด ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย
และเก็บไว้ใช้ได้นานที่สุด
(แต่ละส่วนประกอบ มีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน)
ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ก่อนจะนำเลือดไปใช้ได้
เมื่อจะนำไปใช้ ต้องมีการตรวจกรุ๊ปเลือดของผู้ให้กับผู้รับว่าเข้ากันได้หรือไม่
ไม่ใช่แค่กรุ๊ปหลัก อย่าง ABO, Rh
แต่ยังมีกรุ๊ปเลือดย่อยอีกหลายอย่าง ผู้ป่วยบางรายจึงใช้เวลาหลายวัน กว่าจะหาเลือดที่เข้ากันได้
(ดังนั้น แค่บอกกรุ๊ปเลือด มันไม่พอนะโกแฮรี)
การให้เลือด จะให้เมื่อจำเป็น ถ้าไม่มีอาการก็สามารถรักษาไปตามสาเหตุของโรค
เพราะการให้เลือดเองก็มีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ การแพ้เลือด เป็นต้น
ความเสี่ยงในการให้เลือดที่เป็นข่าวบ่อยที่สุด คือการติดเชื้อ HIV
การตรวจเชื้อ HIV ในเลือดที่รับบริจาค ใช้วิธี NAT test ซึ่งแม่นยำที่สุด
NAT test เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ (RNA) ซึ่งใช้เวลานานสุดคือ 11 วันหลังรับเชื้อ ที่จะมีเชื้อปริมาณมากพอในเลือดที่จะตรวจพบ
(เชื้อโตในร่างกายคน ไม่ได้โตในเลือดที่เอาออกมาแล้ว)
ดังนั้น ถ้าคนที่มาบริจาคเลือด เพิ่งรับเชื้อมาไม่เกิน 11 วัน ก็อาจจะตรวจไม่พบ แต่สามารถแพร่เชื้อได้
จึงต้องมีคำถามคัดกรองก่อนบริจาคเลือด เกี่ยวกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์
การที่เลือดที่มีเชื้อ HIV หลุดรอดจากการตรวจ จึงเกิดจากสามัญสำนึกของผู้บริจาคที่จะตอบคำถามคัดกรองตามความจริง
(ไม่รู้ว่าตกลงจะมาทำบุญหรือทำบาป)
แต่เวลาเป็นข่าว เอะอะก็จะฟ้องโรงพยาบาล
ป.ล. โดยเฉพาะทนายที่หวังแต่เงิน (ไม่ต้องบอกชื่อเนอะ 😒)
โฆษณา