19 พ.ย. 2019 เวลา 11:55 • การศึกษา
สถานการณ์สิ่งแวดล้อม : มากกว่า 50% ของแมลงได้หายไปนับตั้งแต่ปี 1970
ปัจจุบันแมลงทั่วโลกกำลังลดลง รายงานจากนักนิเวศน์วิทยา เราอาจสูญเสียแมลง 50% หรือมากกว่าตั้งแต่ปี 1970 มาดูรายละเอียดกันค่ะ
การหายไปจากธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องจากการที่เกษตรกรใช้ยาฆ่าแมลงมากขึ้นเพื่อปกป้องพืชผล และแมลงได้สูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัยจากพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปสู่พื้นที่การทำเกษตรกรรมและกลายเป็นเมือง
ทราบไหมว่า พืชสามในสี่ของโลกต้องการแมลงในการผสมเกสร ดังนั้นการหายไปของแมลงครึ่งหนึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบการผลิตอาหาร
รายงานล่าสุดจาก Somerset Wildlife Trust ในสหราชอาณาจักรพบว่า 41% ของแมลงในโลก 1 ล้านสปีชี่ย์ถูกคุกคามจนสูญพันธุ์
การลดลงของผีเสื้อ ผึ้งและแมลงอื่น ๆ อาจได้รับความสนใจไม่มากนัก เมื่อเทียบกับรายการปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ แต่การสูญเสียของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อยู่ในระดับวิกฤติจนน่าตกใจ
แมลงเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด นกปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนับไม่ถ้วน แมลงรีไซเคิลสารอาหารในดิน ช่วยย่อยสลายและทำลายซากและซากสัตว์
นักถ่ายเทละอองเกสร เช่นผึ้งและ แมลงดอกไม้ (hoverflies) มีบทบาทสำคัญในการผลิตผักผลไม้และถั่ว
แต่แมลงกำลังสูญเสียถิ่นที่อยู่อย่างรวดเร็วให้กับพื้นที่เพาะปลูกและการขยายตัวของเมือง (urbanization) และถูกคุกคามจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช (pesticides) ของเกษตรกร
"เราไม่อาจแน่ใจได้ แต่ในแง่ของตัวเลขเราอาจสูญเสียแมลง 50% หรือมากกว่าตั้งแต่ปี 1970 และบางทีอาจจะน่ากลัวกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่เราไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป"
Dave Goulson นักนิเวศน์วิทยา กล่าว
unsplash free photo
Dave Goulson ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย Sussex พบว่า
เฉพาะในสหราชอาณาจักร 23 สายพันธุ์ผึ้งและตัวต่อได้สูญพันธุ์ไปแล้วในศตวรรษที่ผ่านมา สายพันธ์ุผีเสื้อได้ลดลงมากถึง 77% ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 และประชากรของนกกินแมลงในท้องถิ่นเช่น flycatcher ที่พบก็มีจำนวนลดน้อยลง
งานของเขาเมื่อกุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ Francisco Sánchez-Bayo และ Kris Wyckhuys ได้ศึกษาข้อมูลจากรายงานทางประวัติศาสตร์เรื่องการลดลงของแมลง 73 ฉบับและผลสรุปของพวกเขา แสดงให้เห็นว่าจำนวนแมลงทั้งหมดบนโลกลดลง 2.5% ต่อปี
unsplash free photo
การศึกษายังชี้ให้เห็นว่าผีเสื้อ Moth และผีเสื้อกำลังจะหายไป โดยในช่วงปี 2000 ถึง 2009
สหราชอาณาจักรได้สูญเสียสายพันธ์ุผีเสื้อไปแล้วถึง 58% ในพื้นที่เพาะปลูก
ส่วนแมลงอื่นๆ ก็มีการสูญเสียไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หากแนวโน้มนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง Sánchez-Bayo และ Wyckhuys เตือนว่าโลกอาจไม่มีแมลงใด ๆ เลยในปี 2119
(น่ากลัวนะ)
ปัจจุบันอัตราการสูญพันธุ์ของแมลงนั้นเร็วกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, นกและสัตว์เลื้อยคลาน 8 เท่า วิกฤติความหลากหลายทางชีวภาพนั้นอาจก่อให้เกิด "การล่มสลายอย่างรุนแรงของระบบนิเวศน์ของโลก"
unsplash free photo
สามในสี่ของพืชทั้งหมดได้รับการผสมเกสรด้วยแมลง ดังนั้นการสูญพันธุ์ของแมลงอาจมีผลกระทบต่อการผลิตและการจัดหาอาหารของเรา
Goulson กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญ คิดว่าผึ้งกำลังมีความเสี่ยงเนื่องจากการผสมผสานระหว่างความหลากหลายของพืชลดลง การเลี้ยงผึ้งที่ไม่ถูกวิธีและการสูญเสียถิ่นที่อยู่ รวมถึงการใช้สารกำจัดศัตรูพืชเช่น สารจำพวก neonicotinoids
Goulson รายงานว่า 75% ของตัวอย่างน้ำผึ้งจากทั่วโลกมี neonicotinoids
ซึ่งข้อมูลตรงนี้เพจได้เทียบเคียงกับผลการศึกษาที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Science ชี้ว่า ตัวอย่างน้ำผึ้ง 198 ตัวอย่างที่เก็บมาจากทุกทวีปของโลก มีสารฆ่าแมลงจำพวกนีโอนิโคตินอยด์ (Neonicotinoids) ปนเปื้อนอยู่ด้วยราว 75% หรือถึง 3 ใน 4 ของตัวอย่างทั้งหมด
เขาเสริมว่าในสหราชอาณาจักรมีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และนั่นเป็นสาเหตุหลักในการลดลงของแมลง
ปัญหาต่อมาคือ ที่อยู่อาศัยของแมลงที่ค่อยๆหายไปเนื่องจากมีการใช้พื้นที่เพื่อทำการเกษตรและการพัฒนาเมืองทั่วโลกมากขึ้น
การศึกษาการเปลี่ยนแปลงของประชากรแมลง
ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางคนได้ผลักดันความคิดที่ว่าแมลงทั้งหมดจะหายไปจากโลกภายในหนึ่งศตวรรษ
unsplash free photo
กรณีศึกษาแมลงในพื้นที่อื่นๆ
- เยอรมัน
การศึกษาในปี 2560 สรุปว่าประชากรแมลงบินในเยอรมนีลดลงมากกว่า 75% ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา
- เปอร์โตริโก
การศึกษาพบว่า 98% ของแมลงพื้นดินบนเกาะหายไปตั้งแต่ปี 1970
"หลักฐานที่มีอยู่มากมายคงมีน้ำหนักพอชี้ให้เห็นว่าการลดลงอย่างรวดเร็วเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริง" Goulson
แม้ข้อมูลตรงนี้ ยังต้องใช้เวลาเพื่อรวบรวมรายละเอียดเพิ่ม แต่การทำงานตามหลักวิชาการที่ใช้กลุ่มประชากรตัวอย่าง ก็เป็นวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ใช้กันโดยทั่วไป
หากรอโดยไม่เริ่มทำอะไร วันที่เก็บข้อมูลได้ครบสมบูรณ์เราอาจพบว่า มีบางสิ่งสูญพันธ์ุไปมากกว่าที่คิดก็เป็นได้
unsplash free photo
Ref.
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
19.11.2019
บทความนี้ ใช้ภาพประกอบจาก
แหล่งภาพปลอดลิขสิทธิ์ unsplash free photo
โฆษณา