30 พ.ย. 2019 เวลา 06:00 • ประวัติศาสตร์
"นายกโจว 7"
หลังจากที่โจวเอินไหลได้ถูกกลุ่มอิทธิพลในเมืองเซี่ยงไฮ้ Big-eared Du ซึ่งเป็นสายให้กับเจียงไคเชก จับกุมไว้ไม่นาน ก็ถูกปล่อยตัวออกมา
1
เนื่องจากในตอนนั้นพรรคก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังอยู่ในสัญญาข้อตกร่วมมือระหว่างกันอยู่และตัวโจวเอินไหลเองก็เป็นสมาชิกอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เจียงไคเชกเกรงว่าถ้าประหารโจวเอินไหลตัวเขาจะถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงระหว่างพรรค ทำให้ในที่สุดโจวเอินไหลก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา
จากนั้นโจวเอินไหลได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 5 ที่เมืองฮั่นโข่ว มณฑลอู่ฮั่น ในที่ประชุมสุดท้ายเขาถูกเลือกให้เป็นคณะกรรมการกลางของพรรคทำหน้าที่ดูแลฝ่ายทหาร
1
จากการที่เจียงไคเช็กได้เข้าปราบปรามกลุ่มแรงงานของพรรคคอมมิวนิสต์ในข้อหาที่เขากล่าวว่าเป็นกบฎที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ทำให้พรรคร่วมในตอนนั้นแตกออกเป็นสองฝ่ายได้แก่ ฝ่ายซ้ายนำโดย หวังจิงเหว่ย ควบคุมรัฐบาลที่เมืองฮั่นโข่ว และฝ่ายขวาเจียงไคเชกควบคุมรัฐบาลที่เมืองนานกิง
แต่ต่อมาในเดือน พฤษภาคม ค.ศ.1927 กลุ่มขุนศึกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นพันธมิตรกับเจียงไคเชก ได้ใช้กำลังเข้าโจมตีเมืองฮั่นโข่วและยึดอำนาจไว้ได้สำเร็จ จากนั้นเจียงไคเชกก็เริ่มใช้กำลังทหารปราบปรามสมาชิกคอมมิวนิสต์อย่างจริงจัง
ทำให้โจวเอินไหลต้องคอยหลบหนีจากทหารก๊กมินตั๋งและดำเนินงานของพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไป
ทางฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อแตกกับพรรคก๊กมินตั๋งแล้ว ก็เริ่มตอบโต้กลับโดยใช้การปลุกระดมมวลชนเพื่อก่อการจลาจลในเมืองต่างๆ
โจวเอินไหล(กลาง)ในเหตุการณ์ลุกขึ้นสู้ที่เมืองหนานชาง (1927)
เริ่มต้นที่เมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี ในวันที่ 1 เดือนสิงหาคม ค.ศ.1927
โจวเอินถูกส่งตัวไปทำหน้าที่ดูแลการก่อจลาจลที่นั่นและสามารถใช้กำลังมวลชนเข้ายึดเมืองไว้ได้ชั่วขณะแต่หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกทัพก๊กมินตั๋งเข้าปราบปรามได้สำเร็จ(สามารถอ่านเรื่องราวการลุกขึ้นสู้ที่เมืองหนานชางได้ในซีรี่ modern china history ตอนที่ 15 ผมแนบลิงค์ไว้ให้ด้านล่างครับ)
ระหว่างการจลาจลที่เมืองหนานชาง เนื่องจากการต่อสู้ที่บางครั้งต้องหลบซ้อนในป่า ทำให้โจวเอินไหลติดเชื้อมาเลเรีย และถูกส่งตัวไปรักษาที่ฮ่องกงโดยปลอมตัวตนเป็นนักธุรกิจที่ชื่อว่าลี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมจากก๊กมินตั๋ง
ต่อจากนั้นโจวเอินไหลได้ลี้ภัยไปอยู่ที่มอสโควประเทศรัสเซีย และได้เข้าร่วมประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 6 ในที่ประชุมเขาได้กล่าวว่า การปฎิวัติประเทศจีนอย่างฉับพลันในตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ จึงจำเป็นต้องสร้างพลังมวลชนในชนบทขึ้นมาและสร้างพื้นที่เขตปลดปล่อยในเขตใต้ของประเทศจีนอย่างที่เหมาเจ๋อตงกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนั้นขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะพรรคมีศัตรูที่แข็งแกร่งคอยขัดขวางอยู่คือก๊กมินตั๋ง
สมาชิกในที่ประชุมในครั้งนั้นก็เห็นด้วยและยอมรับความคิดของโจว และอาจกล่าวได้ว่าโจวเอินไหลในวัย 30 ปีตอนนั้นโดยพฤตินัย(ตามความเป็นจริง)มีบทบาทเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เหตุการณ์ของโจวเอินไหลจะดำเนินต่อไปอย่างไรอีก โปรดติดตามได้ตอนถัดไปครับผม
สำหรับวันนี้ขอบคุณครับ/\
เรื่องราวการลุกขึ้นสู้ครั้งแรกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เมืองหนานชาง อ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ
References:
4.ประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ (History of Modern China), รศ.มาตยา อิงคนารถ, ภาควิชาประวัติศาสตร์
โฆษณา